งานวิ่งสยิว! ผู้จัดจ้างโคโยตี้ ใส่ชุดหวาบหวิดเต้นวอร์มร่างกาย
คนแห่รุมถล่มผู้จัดงานวิ่ง หลังจ้างสาวโคโยตี้ในชุดสยิว มานำวอร์มออกกำลังอบอุ่นร่างกายก่อนวิ่งจริง
เพจ Street Hero Project ได้มีการเผยแพร่ภาพแปลกตาจากเพจ นักวิ่งกากๆ หลังจากงานวิ่งงานหนึ่งได้ว่าจ้างให้สาวโคโยตี้สวมชุดหวาบหวิว มานำเต้นออกกำลังเพื่อเป็นการวอร์มร่างกายก่อนจะมีการลงสนามแข่งขันจริง
ซึ่งภาพดังกล่าวได้เผยให้เห็นหญิงสาวสามคนอยู่ในชุดบิกินี กำลังโชว์ลีลาเต้นอยู่บนเวที โดยป้ายด้านหลังเป็นชื่องานการเดิน-วิ่งการกุศล ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2561 ที่พออ่านไปทำให้เกิดความรู้สึกขัดกับภาพที่ปรากฏอยู่ด้านหน้าเป็นอย่างมาก ขณะที่เพจ Street Hero Project ได้มีข้อความระบุว่า จากคอมเม้นท์ต้นทาง หนึ่งในผู้จัดอ้างว่าให้น้องโคโยตี้มาเป็นผู้นำวอร์มร่างกาย และขออภัยหากไม่เหมาะสม #วิ่งแล้วได้อะไร #ได้ร่างกายที่แข็งแรง
ทั้งนี้เมื่อภาพดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปทำให้มีคนเข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการว่าจ้างสาวๆ ในชุดหวาบหวิวมาเต้นวอรมร่างกายของผู้จัด โดยเฉพาะผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nutkamol Pattararatkul ที่ระบุว่า
- นั่นไม่ใช่ท่านำวอร์ม
2. จัดในศาสนสถาน - มีเด็ก ๆ ที่มางานกับพ่อแม่
และ 4. เป็นการแสดงออกทางเพศที่ไม่เหมาะสม
ดังนั้น ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งทุกกรณี เป็นต้น
อย่างไรก็ดีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sirichai Amporn วึ่งอ้างว่าเป็นฝ่ายจัดงานได้ออกมาเผยว่า สวัสดีครับในงานในนามของคณะกรรมการที่จัดงานเดินวิ่งหลวงพ่อทวดในวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2561 ขออภัยที่ได้มีภาพที่ไม่เหมาะสม อยู่บนที่หน้าเวที และขอรับผิดชอบ น้อมรับ คำติติง จริงทุกอย่างและรับปากว่าคราวต่อไปถ้าคณะกรรมการได้จัดงานจะไม่มีภาพสิ่งเหล่านี้ออกมาอีกครับผมขอโทษจริงๆนะครับจากคณะกรรมการจัดงานเดินวิ่งหลวงพ่อทวด
สำหรับการวอร์มร่างกายก่อนการวิ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นของร่างกาย และเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อก่อนวิ่งจริง ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีที่แตกต่างกันเช่น บางคนอาจวิ่งเหยาะๆ ก่อนแล้วค่อยเริ่มยืดกล้ามเนื้อทีละหมัด
หรือถ้ากลัวหมดแรง ก็ใช้การยืดกล้ามเนื้อเป็นหลัก ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและการปรับตัวของแต่ละคน และควรให้เวลาในการวอร์มอัพ 10-15 นาที โดยเริ่มจากกล้ามเนื้อหมัดเล็กไปกล้ามเนื้อหมัดใหญ่ จากต้นคอ หัวไหล่ แขน ไปจนถึงกล้ามเนื้อลำตัว น่อง และต้นขา โดยท่าที่ควรทำมีดังนี้
- ท่ายืดกล้ามเนื้อน่อง
-ยืนตรง ขากางออกเล็กน้อย
-เขย่งปลายเท้าขึ้น จนรู้สึกตึงที่บริเวณกล้ามเนื้อน่อง
-ค้างท่าไว้ 10-20 วินาที หากไม่สามารถทรงตัวได้ สามารถทำท่านี้โดยมือวางกับผนังหรือจับกับราวได้
2.ท่ายืดกล้ามเนื้อสะโพก
– ยืนตรง ขาชิด แขนทั้ง 2 ข้างแนบลำตัว
– ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า แล้วย่อตัวลงจนเข่าตั้งฉากกับพื้น มือจับที่สะโพก
– เอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย
ท่ายืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (
-ยืนตรง ขาชิด มือ 2 ข้างเท้าเอวไว้
-พับขาขวาไปด้านหลัง เอื้อมมือขวาไปกดเท้าเข้าหาลำตัวให้มากที่สุด จนรู้สึกตึงบริเวณหน้าขา
-ค้างท่าไว้ 10-20 วินาที แล้วเปลี่ยนข้าง หากไม่สามารถทรงตัวได้ ให้เปลี่ยนเป็นนอนตะแคงแทนท่ายืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง
-นั่งลงกับพื้น ยืดขาตรงไปข้างหน้า งอขาซ้ายให้เท้าวางอยู่ข้างต้นขาขวา
-โน้มตัวไปข้างหน้าจนสุด หรือจนรู้สึกตึงบริเวณต้นขาด้านหลัง มือทั้ง 2 ข้างวางไว้ที่หน้าแข้งขวา
-ค้างท่าไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วเปลี่ยนข้าง
หรือ
-นอนหงายกับพื้น งอเข่า 2 ข้างขึ้นให้ตั้งฉากกับพื้น
-ยกขาขวาขึ้นให้มากที่สุด ใช้มือทั้ง 2 ข้างประคองบริเวณใต้ต้นขา และน่อง
-ค้างท่าไว้ 10-20 วินาที แล้วเปลี่ยนข้าง
- ท่ายืดกล้ามเนื้อพังผืดด้านนอกต้นขา
-ยืนตรง ขาชิด แขน 2 ข้างปล่อยตามสบาย
-ก้าวเท้าขวาไขว้ไปด้านหลัง ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ แอ่นสะโพกไปทางขวา โดยที่เท้าทั้ง 2 ข้างยังอยู่ที่เดิม เอียงตัวเล็กน้อยจนรู้สึกตึงบริเวณต้นขา
-ค้างท่าไว้ 10-20 วินาที แล้วเปลี่ยนข้าง
ทั้งนอกจากการวอร์มอัพร่างกายก่อนเริ่มวิ่งแล้ว การคูลดาวน์หลังเสร็จสิ้นการวิ่งก็สำคัญเช่นกัน ควรทำทันทีหลังเข้าเส้นชัยด้วยเพื่อจะช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยและบาดเจ็บ ซึ่งมีวิธีทำดังนี้ ควรวิ่งเหยาะๆ ต่อ 1-2 นาที เพื่อปรับสภาพร่างกายก่อนการยืดกล้ามเนื้อ เป็นต้น