โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ประวัติศาสตร์ไทยในหลักฐานพม่า ทัศนะผู้นำ-ข้อมูลกลับตาลปัตร หรือยืนยันตามไทย?

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 29 เม.ย. 2567 เวลา 11.04 น. • เผยแพร่ 26 เม.ย. 2567 เวลา 17.01 น.
จิตรกรรมโคลงภาพพระราชพงศาวดารตอน “สงครามยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับสมเด็จพระมหาอุปราชา” เขียนโดย หลวงพิศณุกรรม (เล็ก) ในสมัยรัชกาลที่ 5 (ภาพจากหนังสือ “จิตรกรรมและประติมากรรมแบบตะวันตกในราชสำนัก เล่ม 2”)

ประวัติศาสตร์ไทยในหลักฐานพม่า ทัศนะผู้นำ-ข้อมูลกลับตาลปัตร หรือยืนยันตาม ไทย?

ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดต่อกับ ไทย ไม่ว่าจะเป็น ลาว, กัมพูชา, พม่า ฯลฯ นอกจากสัมพันธ์อันดีแล้ว บางครั้งก็มีการกระทบกระทั่งเกิดขึ้นด้วย และแน่นอนว่าแต่ละฝ่ายต่างก็มีการบันทึกเรื่องราวเหล่านี้เอาไว้มากน้อยตามเหตุผลของแต่ละประเทศ

โดยทั่วไปประชาชนแต่ละประเทศจึงได้รู้จักประเทศและวีรกรรมของบรรพชนตนเอง ตลอดจนประเทศเพื่อนบ้าน จากเอกสารทางการ, แบบเรียน, ภาพยนตร์, สิ่งพิมพ์ต่างๆ ฯลฯ ที่ผลิตจากประเทศของตนเองเป็นหลัก

แล้วประเทศเพื่อนบ้านของเราเล่ามองเหตุการณ์เดียวกันนั้นเช่นไร ?

นี่คือเรื่องที่เรากำลังจะเชิญชวนท่านผู้อ่านมาติดตามไปด้วยกัน กับบทความชื่อ “ประวัติศาสตร์ไทยในหลักฐานพม่า” ของ ศ. ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ นักวิชาการไทยผู้เชี่ยวชาญเรื่องพม่า ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561

ครั้งนี้อาจารย์สุเนตรค้นคว้าเอกสารกว่า 30 รายการ โดยเอกสารพม่านั้นจะคัดเลือกเฉพาะหลักฐานสำคัญที่นักประวัติศาตร์พม่า และนานาชาตินิยมใช้อ้างอิงในการนำเสนอผลงาน

หลักฐานพม่าที่ใช้ได้แก่ 1. เจ๊าสา – ศิลาจารึกของพม่า 2. อเยดอโปง – วรรณกรรมเฉลิมพระเกียรติ ประเภท พระราชประวัติ, พระราชกรณียกิจที่สำคัญของกษัตริย์ 3. ยาสะเวง/ยาสะวิน – พงศาวดาร และหลักฐานประเภทอื่นๆ ได้แก่ ตะบอง – เพลงยางพยากรณ์ เป็นต้น

เอกสารที่อาจารย์สุเนตรยกมานั้นกล่าวถึงการศึกครั้งสำคัญของไทย-พม่า เช่น ศึกเมืองเชียงกราน, สงครามช้างเผือก, ยุทธหัตถี, สงครามเก้าทัพ ฯลฯ

ในที่นี้ขอยกกรณี “สงครามเมืองเชียงกราน” มากล่าว เมืองเชียงกรานเป็นหัวเมืองชายแดนทางด่านพระเจดีย์สามองค์ พลเมืองเป็นมอญ ไทย ถือเป็นเมืองขึ้นมาตั้งแต่กรุงสุโขทัย

สงครามเมืองเชียงกรานเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2081 ตรงกับรัชกาลสมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าของไทย และพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ของพม่า

นักประวัติศาสตร์ฝ่ายไทยถือว่านี่เป็นสงครามระหว่างอยุธยากับพม่าครั้งแรก โดยพม่าเป็นฝ่ายบุกรุก

แต่เทียบกับเอกสารพม่าล่ะก็ กลับตาลปัตร!!!

พงศาวดารพม่าฉบับอูกาลา ที่อาจารย์สุเนตรใช้เทียบไม่ได้กล่าวถึงสงครามเมืองเชียงกรานเลย

อาจารย์สุเนตรอธิบายเรื่องนี้ไว้ว่า

“เมื่อได้สอบกับพงศาวดารพม่าฉบับอูกาลาแล้วเห็นว่าข้อสมมติฐานนั้นคงจะเป็นไปได้ยาก เพราะนอกจากอูกาลาจะไม่กล่าวถึงสงครามครั้งนั้นแล้ว ในทางตรงกัน ข้ามประเด็นที่ว่าพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ยกมาตีเมืองเชียงกราน ในปี ค.ศ. 1538 [พ.ศ.2081]นั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ ทั้งนี้เพราะพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้เพิ่งจะยกทัพมาตีได้หงสาวดี

ต่อจากนั้นยังต้องหันไปขับเคี่ยวกับแปรและเจ้าฟ้าฉานเป็นศึกใหญ่ยืดเยื้อกว่าจะรวมอาณาจักรได้ ซึ่งเกิดก่อนจะยกกองทัพมาตีพระเจ้าสอพินยา เจ้าเมืองเมาะตะมะ ในปี ค.ศ. 1541 [พ.ศ. 2084]ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิด 3 ปีหลังศึกเชียงกราน

เพราะฉะนั้นศึกเชียงกรานจึงควรเป็นศึกที่ฝ่ายไทยรุกรบเข้าไปในเขตหัวเมืองมอญมากกว่าจะเป็นเรื่องที่พม่ารุกรานเข้ามา”

เอกสารพม่าอีกรายการหนึ่ง คืออลองพญาอเยดอโปง – วรรณกรรมเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอลองพญา

อลองพญาอเยดอโปงแสดงให้เห็นว่า ทัศนคติของกษัตริย์พม่าที่มีต่อไทย พระนามอลองพญาที่มีความหมายว่า “ราชาโพธิสัตว์” ได้นำมาอ้างอิงถึงความชอบธรรมในการศึก ดังจะเห็นได้จากบันทึกกล่าวถึงพระราชสาส์นที่กษัตริย์ทั้งสองพระองค์ส่งโต้ตอบกันว่า

พระราชสาส์นจากพระเจ้าอลองพญาถึงพระเจ้าเอกทัศน์ก่อนจะเข้าตีกรุงศรีอยุธยาความว่า

เราธรรมราชาโพธิสัตว์ กรีธาทัพมาครั้งนี้ปรารถนาจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในแว่นแคว้นอยุธยาซึ่งยังไม่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วให้บริสุทธิ์

พระมหากษัตริย์อยุธยาก็หาได้ยกออกมารับทัพเพื่อหยั่งสรรพกำลังแห่งเรา ทั้งยังไม่ยอมศิโรราบส่งช้าง ม้า ราชโอรสธิดาออกถวายเรา

เราธรรมราชาโพธิสัตว์ผู้มีปณิธานจะมุ่งเป็นพระพุทธเจ้า ขอแสดงน้ำพระทัยปลดปล่อยเจ้าเมืองสุพรรณบุรีอำมาตย์ใหญ่ (ตอนที่พระเจ้าอลองพญายกทัพมาตีจับเจ้าเมืองสุพรรณบุรีได้) ผู้ตกเป็นเชลยแห่งเราคืนให้พระองค์”

พระเจ้าเอกทัศน์จึงมีพระราชสาส์นตอบไปว่า

“ดูกรมนุษย์โลกนี้จะมีพระพุทธเจ้าถือกำเนิดได้เพียง 5พระองค์ คือ พระกกุสันโท พระโกณาคม พระกัสสัปปะ พระโคตมะ

พระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ข้างต้นล้วนเสด็จดับขันปรินิพพานแล้วสิ้น ยังก็แต่พระศรีอาริย์ ซึ่งประทับอยู่ในสรวงสวรรค์ชั้นดุสิต

ฉะนั้นผู้ที่อ้างตนเป็นพระโพธิสัตว์ ใคร่รู้นักว่าเป็นพระโพธิสัตว์พระองค์ไหนแน่ ที่อ้างมาเห็นจะเป็นเท็จ เพราะในโลกมนุษย์นี้พระพุทธเจ้าจะถือกำเนิดก็แต่เพียง 5 พระองค์ จะเพิ่มมาเป็น 6 พระองค์เห็นไม่สม…”

ที่ยกมาข้างต้นนี้เป็นเพียงบางเหตุการณ์และบางส่วนของเอกสารพม่าที่อาจารย์สุเนตรกล่าวไว้ใน ศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนพฤษภาคม 2561 เพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาและเปิดมุมมองทางประวัติศาสตร์ด้วยข้อเท็จจริงที่ต่างไปจากการรับรู้เดิม ข้อมูลฝ่ายพม่าพลิกการรับรู้และความเข้าใจไทยอย่างไร หรือข้อมูลสนับสนุนหลักฐานข้างฝ่ายไทยอย่างไร?

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 25 กันยายน 2563

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ประวัติศาสตร์ไทยในหลักฐานพม่า ทัศนะผู้นำ-ข้อมูลกลับตาลปัตร หรือยืนยันตามไทย?

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...