โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

จุดตัดสินใจของ ‘วีรันดา’ กับการรุกสู่ ‘ภูเก็ต’ จุดหมายเมืองท่องเที่ยวเบอร์ 1 ของไทยที่ครองใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก

TODAY Bizview

อัพเดต 23 พ.ค. 2567 เวลา 12.06 น. • เผยแพร่ 22 พ.ค. 2567 เวลา 09.54 น. • workpointTODAY

สำหรับคนชอบท่องเที่ยวในประเทศไทยชื่อของ ‘วีรันดา’ ย่อมคุ้นเคยติดหู เพราะ ‘วีรันดา’ หรือ บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) ถือเป็นโรงแรมที่โดดเด่นด้านดีไซน์ที่คลุกคลีอยู่ในวงการท่องเที่ยวไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพ พัทยา เชียงใหม่ หัวหิน ชะอำ สมุย ทุกโลเคชันยอดนิยมของท่องเที่ยวไทยมีโรงแรมหรือรีสอร์ทของวีรันดาตั้งอยู่

แต่วีรันดากลับยังไม่ได้ปักธงวางรากฐานในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ของไทยอย่าง ‘ภูเก็ต’ จนกระทั่งมาถึงโปรเจ็กต์ใหม่ล่าสุดอย่าง ‘Veranda Resort Phuket, Autograph Collection’ โลเคชันตรงนี้ดียังไง และอะไรจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในรีสอร์ทแห่งใหม่นี้

TODAY Bizview คุยกับ ‘ภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์’ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA เกี่ยวกับการตัดสินใจของเขาในการรุกเข้าสู่โลเคชันใหม่ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงรายละเอียดของ ‘Veranda Resort Phuket, Autograph Collection’

จุดเริ่มต้นหมุดหมายใหม่ ทำไมถึงต้องเป็น ‘ภูเก็ต’

เพราะว่า ‘ภูเก็ต’ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมทางการท่องเที่ยวของไทยมาอย่างยาวนาน จึงนำมาสู่คำถามว่า “ทำไมวีรันดาถึงเพิ่งตัดสินใจสร้างโรงแรมแห่งใหม่ในภูเก็ตตอนนี้”

แม่ทัพใหญ่ของวีรันดาอย่าง ‘ภวัฒก์’ เล่าว่า จริงๆ แล้วภูเก็ตเป็นเมืองที่วีรันดามองและมีแผนอยากจะตั้งโรงแรมแห่งใหม่มานานหลายปีแล้ว แต่ติดที่ยังไม่เจอที่ดินที่ถูกใจและเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของที่ตั้ง พื้นที่รอบข้างอย่างชายหาดและทะเล รวมถึงระยะทางและราคาด้วย

จึงทำให้วีรันดาตัดสินใจจะไปขยายในเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ของไทยก่อน ผ่านไปหลายปีจนกระทั่งช่วงโควิด-19 ที่วีรันดาได้เจอโลเคชันในภูเก็ตที่ตรงใจ พร้อมๆ กับได้สินเชื่อมาในเวลาที่พอเหมาะกัน ทำให้สามารถเริ่มต้นโครงการในภูเก็ตได้ในที่สุด

โดยเหตุผลที่ทำให้ภูเก็ตมีความน่าสนใจในช่วงหลายปีมานี้ เพราะเป็นเมืองแห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรม (multi-culture) ผสมผสานอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกิส รากวัฒนธรรมไทย จีน มุสลิม ที่สำคัญยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและหมู่เกาะที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก

นอกจากนั้น ภูเก็ตยังเป็นฮับของอีเว้นท์มากมายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายเข้ามา และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม และมีท่าอากาศยานนานาชาติบนเกาะ และภูเก็ตยังโดดเด่นขึ้นอีกในฐานะแหล่งรวมอาหารอร่อยหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารใต้ อาหารจีน ของหวานประจำถิ่น ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากโลกตะวันตกและโลกตะวันออกเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

เลือกปักหมุดพันวา-อ่าวยน โซนพรีเมี่ยมของเกาะภูเก็ต

ส่วน ‘ที่ตั้ง’ ของโรงแรมแห่งใหม่ของวีรันดาในภูเก็ตเองก็มีความน่าสนใจ เพราะตั้งอยู่ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแหลมพันวาที่คนไทยคุ้นหูกันเป็นอย่างดีและเป็นโซนลักชูรี่ของภูเก็ต เป็นพื้นที่ที่มีโรงแรมหรูที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง มีหาดทรายขาวและตั้งอยู่บนพื้นที่สโลปของภูเขา ทำให้ห้องพักส่วนใหญ่จะสามารถมองเห็นทะเลและมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้ อีกทั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง (old town) เพียง 15-20 นาทีและห่างจากสนามบินราว 45 นาทีเท่านั้น

สาเหตุสำคัญที่วีรันดาเลือกพื้นที่พันวา-อ่าวยน เพราะว่าเป็นโซนที่ที่พักยังไม่หนาแน่น สามารถรองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยวตลาดพรีเมี่ยม ที่เน้นความสะดวกสบายและใกล้เมือง รวมถึงใกล้แหล่งร้านอาหารและบาร์ที่มีชื่อเสียง ไปจนถึงร้านที่ได้รับการรับรองจากมิชลินไกด์

ทำให้โซนนี้เป็นโซนที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะตลาดจีน เกาหลีใต้ และตะวันออกกลาง ไปจนถึงกลุ่มผู้ชื่นชอบงานดีไซน์และศิลปวัฒนธรรม ซึ่งจะได้ฐานลูกค้าคนไทยที่คุ้นเคยแบรนด์วีรันดาและตลาดยุโรปและอเมริกา ที่เป็น Loyalty Program ของ Marriott มาชูโรงด้วย

โดยจะปักหมุดดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มพรีเมี่ยม (Premium Traveler) ที่มีกำลังซื้อสูง เน้นหาประสบการณ์ที่แตกต่าง สนใจวัฒนธรรมท้องถิ่น และอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากการศึกษาระบุว่า 68% ของนักท่องเที่ยวกลุ่มพรีเมี่ยมพร้อมที่จะใช้จ่ายกับการท่องเที่ยวมากขึ้นในปีหน้า เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจมากเท่ากับกลุ่มอื่นๆ ซึ่งโลเคชันนี้เหมาะกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก

ลุยตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ติดแบรนด์ใหม่เครือ Marriott

‘ภวัฒก์’ เล่าให้ฟังต่อว่า โรงแรมนี้จะมีห้องพักทั้งหมด 159 ห้อง ไม่ถึงกับเป็นโรงแรมขนาดใหญ่มาก แต่ด้วยตลาดนักท่องเที่ยวหลักเป็นตลาดต่างประเทศ จึงเหมาะกับการทำ Franchise agreement

โดยโมเดลนี้ วีรันดาเป็นเจ้าของและบริหารจัดการโรงแรม ขณะที่ Marriott จะเข้ามาสนับสนุนด้านมาตรฐานและ Customer Loyalty Program ซึ่งวีรันดาเคยใช้โมเดลนี้กับ 2 โรงแรมในเครือได้แก่ วีรันดา ไฮ รีสอร์ท เชียงใหม่ และวีรันดา รีสอร์ท พัทยา โดยใช้แบรนด์ M Gallery ของเครือบริหารจัดการโรงแรมระดับโลกอย่าง Accor มาแล้ว

แต่ในรอบนี้ วีรันดา เลือกแบรนด์ใหม่อย่าง ‘Autograph Collection’ ในเครือ Marriott และเป็นโรงแรม Autograph Collection แห่งแรกในภูเก็ต เหมาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เรียกว่า ‘Individual List’ หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์ที่แตกต่าง เป็นตัวของตัวเอง ให้ความสำคัญกับดีไซน์และศิลปะ ทำให้โรงแรมแห่งใหม่ของวีรันดาถูกดีไซน์ให้แตกต่างและมีท่วงทำนองของโลเคชันเข้าไปด้วย

โดย ‘Veranda Resort Phuket, Autograph Collection’ จะเน้นให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา ความโค้งมนสอดรับกันของสถาปัตยกรรม จัดวางห้องและอาคารตามสโลปของภูเขา เพื่อให้สามารถเห็นทะเลและพระอาทิตย์ตกให้ได้มากที่สุด การตกแต่งภายในห้องพักให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด เรียกว่าทุ่มงบประมาณด้านงานดีไซน์มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

ซึ่งซีอีโอของวีรันดา เชื่อมั่นว่า เครือ Marriott ที่โดดเด่นทางด้าน Loyalty Program และมีอัตราการเข้าพักของสมาชิก Loyalty Program สูงถึง 45-60% จะทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักและเลือกเข้ามาพัก ‘Veranda Resort Phuket, Autograph Collection’ ได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงจะได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าหลักที่วีรันดาที่เป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย และองค์กรบริษัทต่างๆ ด้วย

อีกประการ คือ เมื่อวีรันดามีรีสอร์ทในพื้นที่ภูเก็ต ที่มีอัตราการเข้าพักอย่างหนาแน่นและการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่สูงที่สุดในไทย ก็จะทำให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมดของวีรันดา (RevPAR) สูงขึ้นต่อเนื่องไปอีกหลายปี

ปัจจุบัน ‘Veranda Resort Phuket, Autograph Collection’ สร้างและตกแต่งไปแล้วราว 70% จะเปิดให้บริการไม่เกินเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคมของปี 2567

ไม่ได้มีแค่โรงแรม แต่มีโครงการพัฒนาอสังหาฯ เพื่อคืนทุนได้เร็วขึ้น

นอกจากจะมี ‘Veranda Resort Phuket, Autograph Collection’ เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว วีรันดาก็ยังได้แบ่งที่ดินบางส่วนมาทำเป็นเรสซิเดนท์ โดยใช้ชื่อโครงการว่า ‘Veranda Villa & Suite Phuket’ ทั้งหมด 17 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 6 ยูนิต และคอนโด 11 ยูนิต มียูนิตน้อยกว่าโครงการอื่นๆ เพราะเน้นรูปแบบบ้านมากกว่าอาคารชุด

โดยปัจจุบันขายไปได้แล้วกว่า 53% และยังคงมีผู้สนใจเข้ามาดูอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ยูนิตบ้านจะขายไปให้กับคนไทย ส่วนคอนโดมีลูกค้าหลากหลายชาติ

สำหรับความคาดหวังที่มีต่อโรงแรมแห่งใหม่ ‘ภวัฒก์’ ยืนยันว่า โรงแรมแห่งใหม่ในภูเก็ตจะทำให้ Average Room Rate ของทั่วทั้งกรุ๊ปดีขึ้น และรับรู้รายได้ชัดเจนในปีที่ 2 และ 3 เพราะไม่ได้มีโรงแรมติดหาดแบบ Premium เปิดใหม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพราะสถานการณ์โควิด-19 และการใช้โมเดลพัฒนาอสังหาฯ ติดกับรีสอร์ทจะทำให้โครงการคืนทุนได้เร็วขึ้น โดยก้าวใหม่ในภูเก็ตถือเป็นการคว้าโอกาสในโลเคชันที่เติบโตได้ดีและจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

“แม้ว่าการแข่งขันและต้นทุนในภูเก็ตจะค่อนข้างสูง แต่จากการที่ตลาดกำลังอยู่ในช่วงขยายตัว และโปรดักส์ของเรามีความแตกต่างมากพอที่จะดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวในตลาดที่กว้างขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่นักท่องเที่ยวตลาดยุโรปและอเมริกา แต่รวมถึงตลาดเอเชียและคนไทยด้วย” ภวัฒก์กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...