โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ชาวเน็ตแชร์ภาพโรงเรียนเพลินพัฒนา อบรมเอาตัวรอดสถานการณ์กราดยิง

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 07 ต.ค. 2565 เวลา 06.40 น. • เผยแพร่ 07 ต.ค. 2565 เวลา 04.31 น.
โรงเรียนเพลินพัฒนา
ภาพจาก:Facebook โรงเรียนเพลินพัฒนา

ชาวเน็ตแชร์ภาพ โรงเรียนเพลินพัฒนา ฝึกอบรมนักเรียนเอาตัวรอดในสถานการณ์กราดยิง เมื่อเดือนกันยายน ชี้อบรมไม่ถึงเดือนเกิดเหตุการณ์จริง แนะควรเพิ่มหลักสูตรสอนในสถานศึกษา

วันที่ 7 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเหตุกราดยิงศูนย์เด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ และประชาชนในพื้นที่ ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภูเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา สร้างความสะเทือนใจให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก จนเกิดการตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในสังคม ภายหลังจากที่เกิดเรื่องราวเหตุการณ์สลดใจ โซเชียลแห่ติดแฮชแท็ก #กราดยิงหนองบัวลำภู

ล่าสุดมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ออกมาเขียนข้อความถกเถียงกรณีดังกล่าวจนเป็นไวรัล โดยระบุข้อความว่า

“เมื่อสักเดือนก่อนมี ร.ร.ชื่อเพลินพัฒนา ได้อบรมหลักสูตรหนี ซ่อน สู้ เพื่อรับมือกับภัยโจรกราดยิง มีหลายเสียงบอกว่า สอนไปทำไม โอกาสได้ใช้คงไม่มี แต่ไม่น่าเชื่อ ผ่านมาไม่ถึงเดือนเกิดเหตุขึ้นจริง ต่อไปนี่เป็นหลักสูตรที่ต้องถูกบังคับสอนในทุกโรงเรียนแล้ว #กราดยิงหนองบัวลําภู”

และทำให้ชาวเน็ตหลายคนเข้ามาคอมเมนต์กันอย่างล้มหลามโดยระบุว่า ถึงเวลาที่ควรจะเพิ่มหลักสูตรนี้เข้าไปสอนในสถานศึกษา รวมถึงหลักสูตรเอาตัวรอดในสถานการณ์อื่น ๆ ด้วย

ทวิตเตอร์
ทวิตเตอร์

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา โรงเรียนเพลินพัฒนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นโรงเรียนสังกัดเอกชน ได้มีการจัดฝึกอบรมให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยม ฝึกเอาตัวรอดในสถานการณ์กราดยิง (Active Shooter) โดยเฟซบุ๊กเพจของ โรงเรียนเพลินพัฒนา ได้แชร์ภาพการฝึกอบรม พร้อมกับบรรยายว่า

ฝึกเอาตัวรอดในสถานการณ์กราดยิง (Active Shooter) ช่วงชั้นมัธยมจัดการฝึกเอาตัวรอดในสถานการณ์กราดยิง (Active Shooter) ให้กับนักเรียนชั้น 7-8-9 โดยทีมครูฝึกจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน โดยการฝึกนี้ได้สาธิตให้นักเรียนรู้จักกับอาวุธ และเสียงจากอาวุธ และฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จำลอง

ในการเข้าไปในพื้นที่สาธารณะที่เป็นพื้นที่ปิด เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารสถานที่ต่าง ๆ หรือแม้แต่โรงเรียน ฯลฯ สิ่งที่ควรฝึกให้เป็นนิสัย คือการสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยเฉพาะบุคคลที่เดินสวนกันไปมา เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้เสมอ เราอาจจะเผชิญกับการก่อการร้าย เช่น การกราดยิง หรือไล่ทำร้ายร่างกายก็เป็นได้

สิ่งที่ควรจับสังเกตมีดังนี้

  • การแต่งกายของคนร้าย ส่วนใหญ่จะสะพายกระเป๋า ใส่เสื้อคลุม ที่ดูปกปิด มิดชิด เพื่อซ่อนอาวุธที่นำมา
  • ท่าทางการเดิน จะเป็นการก้าวระยะสั้น ๆ เนื่องจากต้องประคองปืนขณะเดิน
  • สังเกตท่าทางของคนรอบข้าง หากไม่น่าไว้วางใจ ควรอยู่ให้ห่าง และมองหาทางออกไว้ล่วงหน้า

หากเกิดเหตุการณ์กราดยิง สิ่งที่เราควรทำมี 3 ข้อ Run – Hide – Fight

1.Run (หนี) เมื่อเผชิญเหตุ สิ่งแรกที่ต้องทำคือวิ่งหนี หาทางออกที่ปลอดภัยที่สุด โดยการมองหาประตู หรือทางออกฉุกเฉิน เพื่อออกจากสถานการณ์นั้นให้เร็วที่สุด หากเป็นไปได้ให้พาเพื่อนและคนรอบข้างออกไปด้วย ขณะวิ่ง ต้องพยายามเก็บเสียงให้เงียบ และวิ่งให้ไวที่สุด อย่ากลับเข้าพื้นที่นั้นโดยเด็ดขาด

2.Hide (ซ่อน) หากวิ่งจนเจอทางตันแล้ว ถัดมาคือการซ่อน และข้อพึงระวังคือห้ามซ่อนหลังประตู เพราะประตูมักจะเป็น จุดแรก ๆ ที่คนร้ายจะเล็งเป็นเป้า และประตูก็ไม่สามารถกันกระสุนได้ ควรมองหาจุดที่กันกระสุนได้ หรือหากเป็นห้อง ให้ล็อกกลอนและหาวัตถุที่มีน้ำหนักมาขวางประตูไว้ เมื่อหาที่ซ่อนได้แล้ว เราต้องอยู่ให้เงียบที่สุด ปิดระบบเสียงโทรศัพท์ หรี่แสงของโทรศัพท์ให้เหลือน้อยที่สุด รอจนกว่าสถานการณ์จะสงบลง

3.Fight (สู้) เมื่อถึงทางออกสุดท้าย หนีไม่ได้แล้ว เราต้องหันหน้ามาสู้ เพื่อหาทางรอดอีกครั้ง อันดับแรก ควบคุมสติ มองหาสิ่งรอบตัวที่เป็นอาวุธได้ ปากกา ขาแว่น หรือหาของแข็งที่จับกระชับมือ มุ่งเป้าไปที่จุดอ่อนต่าง ๆ เช่น จิ้มตา ต้นคอ หรือจุดอ่อนอื่น ๆ เมื่อคนร้ายเสียหลักให้พยายามหนีให้เร็วที่สุด

สำหรับการขอความช่วยเหลือนั้น เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ สิ่งแรกตำรวจจะเข้าจัดการคนร้ายก่อน เมื่อจัดการคนร้ายได้แล้ว จึงจะเข้าช่วยคนเจ็บตามมา

วิธีแจ้งเหตุฉุกเฉินด้วยหลัก LCAN

1.Location บอกจุดตำแหน่งที่อยู่

2.Condition แจ้งว่าเกิดอะไรขึ้น

3.Action กำลังเผชิญกับอะไร

4.Need ต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด

เมื่อเราต้องเผชิญเหตุร้ายที่ไม่คาดคิด อัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจเข้า-ออกจะถี่ขึ้น สูญเสียการได้ยิน เมื่อคิดถึงแต่ภัยจะไม่รับรู้สิ่งรอบตัว ในช่วงเวลานี้ การตั้งสติ ไม่ร้องไห้ โวยวาย เงียบที่สุด และหนีให้เร็วที่สุด คือสิ่งที่จะช่วยให้เราเอาตัวรอดได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0