‘มูเตลู’ ฉบับคนญี่ปุ่น ขอพรครบจบทุกเรื่อง รับ ‘ความปัง’ ปี 2568
‘มูเตลู’ ฉบับคนญี่ปุ่น ขอพรครบจบทุกเรื่อง รับ ‘ความปัง’ ปี 2568
หนึ่งประเทศในดวงใจของนักท่องเที่ยวไทย นั่นคือดินแดนซากุระ “ประเทศญี่ปุ่น” ด้วยเสน่ห์ของบ้านเมืองที่เป็นระเบียบเรียบร้อย การเดินทางที่สะดวกสบาย ธรรมชาติ วัฒนธรรมต่างๆ รวมไปถึงการช้อปปิ้ง และการ์ตูนแอนิเมะชื่อดัง เรียกว่า ครบ! จบ! ในประเทศเดียว และยังรวมไปถึงการ “มูเตลู” อีกด้วย
จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ร่วมกับ ทรู ดีแทค พาเปิดโลก“มูเตลู” ในแดนปลาดิบ ด้วยการนำทีมผู้โชคดีจากแคมเปญ “ทรู ดีแทค x จีเอ็มเอ็ม มิวสิค เสริมดวงปัง รับพลังมู อินเจแปน ซีซั่น 2!” ออกเดินทางไปเสริมดวงปังรับปี 2568 ไกลถึงเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น นอกจากจะได้ทริกมูขอพรเสริมพลังจากวัดและศาลเจ้าชื่อดังกลับบ้านกันไปแบบเต็มๆ ยังได้ไปสนุกสุดฟินในสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน พร้อมกิน เที่ยว ช้อปกระหน่ำจนหนำใจ ตลอด 5 วัน 3 คืน
นำทีมโดย “หมอเมย์ มีเซ้นส์” ปราณดา ปวีตนาถนนท์ ผู้ทำนายดวงชะตาด้วยเซนส์ และยังเชี่ยวชาญด้านศาสตร์ฮวงจุ้ย รวมทั้งการทำนายไพ่ทาโร่ ที่ปัจจุบันทำคอนเทนต์ดวงชะตาให้ GMM และ TRUE รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาการตลาดและวางแผนโครงสร้างบริษัทใหญ่ๆ หลายแห่ง มาเผยเคล็ดลับ “มูเตลู” ให้ปังรับปีมะเส็ง 2567
- เคล็ดลับสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
หมอเมย์เผยว่า การมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ญี่ปุ่นจะเป็นลักษณะขอพรเคลียร์สิ่งที่ไม่ดีออกไปจากใจ ทำให้เราสงบ ซึ่งเป็นเอ็นเนอร์จี้ที่เหมาะกับคนยุคนี้ สำหรับการนับถือของคนที่นี่ จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.คนที่นับถือลัทธิชินโต คือการนับถือเทพเจ้า การเคารพจิตวิญญาณของธรรมชาติ 2.ส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่นับถือศาสนา และนับถือพุทธจะมีน้อย
“การมาวัดหรือศาลเจ้าที่ญี่ปุ่น ต่างกับพิธีการของคนไทย เพราะคนไทยจะมีพิธีการที่สอดแทรกของพราหมณ์ของอินเดีย แต่สำหรับชินโต ไม่ได้มีพิธีมากนัก ไม่มีจุดธูปหลายๆ ดอกขนาดนั้น”
วิธีสังเกตว่าที่ไหนเป็นวัดหรือศาลเจ้านั้น“วัดญี่ปุ่น” จะมีโคมแดง ยกตัวอย่างวัดเซ็นโซจิ อาซากุสะ และจะมีกระถางธูป
ส่วน “ศาลเจ้าญี่ปุ่น” จะมีเสา ไม่ว่าจะเป็นเสาโทริอิสีแดง สีเทา หรือเสาปูน อยู่ด้านหน้า ศาลเจ้าไม่มีกระถางธูป และจะมีความเกี่ยวข้องกับเทพเจ้า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
“เมื่อเราไปวัดหรือศาลเจ้าทุกที่จะต้องชำระล้างร่างกายก่อน โดยจะมีกระบวยให้เราตักน้ำล้างมือ เราก็ล้างมือซ้าย มือขวา เมื่อก่อนมีล้างปาก บ้วนปาก แต่ปัจจุบันก็เลี่ยงไม่ล้างหรือบ้วนปากเพื่อความปลอดภัย จากนั้นล้างขันและเคาะ 1 ทีก็วางขันลง” หมอเมย์อธิบาย และว่าต่อ
“การเข้าไปทุกที่ต้องสงบ พอเข้าไปศาล ก็จะโค้งคำนับ 1 ครั้ง จากนั้นหยิบเหรียญ 5 เยน โยนเข้าไปในที่ทำบุญโยนเหรียญของแต่ละที่ ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นใช้เหรียญ 5 เยน ด้วยความเชื่อว่าเป็นความอุดมสมบูรณ์ เป็นสิริมงคล ป้องกันสิ่งที่ไม่ดี เหมือนเราเป็นผู้ให้สิ่งที่ดีที่สุดก่อน เราก็จะได้สิ่งที่ดีกลับมา พอโยนเหรียญเสร็จแล้ว ก็ปรบมือ 3 ครั้ง เรียกสติ และอธิษฐาน ขณะอธิษฐานก็ให้มีสมาธิ พออธิษฐานเสร็จ บางคนก็จะโค้งคำนับ เป็นอันเสร็จพิธี”
นับตามสเต็ปก็จะเป็นว่า “โยน-ตบ-อธิษฐาน-โค้งคำนับ”
กระนั้น หมอเมย์ก็ว่า ได้ถามคนญี่ปุ่น ท่านบอกว่าพิธีการไม่สำคัญ วิธีการทำอาจจะสลับกันได้ แต่ต้องทำครบ และอยู่ในอาการสงบ
“เกณฑ์หลักของเขาไม่ใช่ขั้นตอน 1 2 3 4 แต่คือทำให้เรามีสติและสงบกับสิ่งตรงหน้า อย่างการปรบมือ กุศโลบายเป็นการเรียกสติ ทำให้เราโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่วอกแวก ทำให้เราอยู่กับปัจจุบัน มีสติ และโฟกัสกับการขอพรได้ดีขึ้น พอเราได้ทำสิ่งเหล่านี้ ใจพร้อม กายพร้อม ไม่ต้องแบกอะไรมาเยอะ วางทุกอย่าง อยู่กับปัจจุบัน มันทำให้พรตรงนั้นสำเร็จ”
หมอเมย์แนะนำอีกว่า ถ้าไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เวลาขอพร ถ้าที่แห่งนั้นมีเทียนหรือธูป แนะนำให้จุดธูป หรือไม่ก็จุดเทียนถวาย เพื่อเป็นการใช้แสงสว่างเปิดทาง
- ทริกเก็บ ‘เครื่องราง’
อีกสิ่งที่ขึ้นชื่อเมื่อไปศาลเจ้าญี่ปุ่น คือ “เครื่องราง” ที่มีทั้งเครื่องรางเรื่องความสุข ความรัก ความสำเร็จ การเงิน การงาน รวมถึงการเรียน หมอเมย์เผยว่า เครื่องรางของญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นผ้าที่จะผ่านการทำพิธีที่ศาลเจ้ามาแล้ว เมื่อครบ 1 ปีแล้ว ก็เหมือนของที่หมดพลัง เหมือนต้นไม้ที่เหี่ยวแห้ง เป็นผลไม่ดีในด้านพลังงาน พระญี่ปุ่นแนะนำให้เอาเครื่องรางมาวางลงบนกระดาษ A4 แล้วเอาเกลือทะเลมาโรย แล้วห่อกระดาษ และนำไปทิ้ง หรือจะเผาก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบุคคล
“ของทุกอย่างมีพลังงาน มีอายุการใช้งาน เปรียบได้กับการกินน้ำแก้วใหม่ กับกินน้ำแก้วเก่ามันต่างกัน ให้พลังงานชีวิตต่างกัน นี่คือเคล็ดลับของเครื่องรางของญี่ปุ่น”
- ขอพรงานและเงิน
“ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ” เป็นศาลเจ้าชินโตของเทพอินาริ อันเป็นเทพแห่งกสิกรรม ตั้งอยู่เกียวโต ศาลเจ้านี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
หมอเมย์เผยว่า ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ หรือศาลเจ้าจิ้งจอก คนญี่ปุ่นนับว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่โบราณ อายุกว่า 1300 ปี เป็นศาลเจ้าที่ชาวนาสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 เพื่อบูชาจิ้งจอกที่เป็นทูตส่งสารของเทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว เป็นที่สถิตของพระแม่โพสพ เทพเจ้าเป็นที่นับถืออย่างยิ่งของประชาชนที่มาสักการะขอพรให้มีความเป็นอยู่อุดมสมบูรณ์ของเรื่องพืชพรรณ ธัญญาหาร พระแม่โพสพ และเทพจิ้งจอก ที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็น ทูตสวรรค์ผู้คอยนำข่าวสารจากสรวงสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์ ศาลโทริอิ มีลักษณะเป็นซุ้มประตูสีแดงซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของศาลเจ้าที่มีมากกว่าร้อยต้นทอดตัวยาวตามเส้นทางของไหล่เขาลดหลั่นกันบนเส้นทางยาวถึง 4 กิโลเมตร
“ยุคนี้นิยมขอพรเกี่ยวกับเรื่องงาน เงิน ความอุดมสมบูรณ์ และเมื่อพรที่ขอสำเร็จแล้ว จะนำเสาโทริอิสีแดงแกะสลักชื่อมาวางไว้ที่ศาล ภาษาไทยก็อาจเรียกได้ว่าแก้บน ซึ่งปัจจุบันวางเรียงรายไปจนถึงยอดเขาประมาณ 13,000 ต้น ถ้ามีเวลาให้เดินขึ้นเขาไปข้างบนสุด คนญี่ปุ่นเชื่อว่าทุกอย่างแลกด้วยหยาดเหงื่อแรงกายความอุตสาหะของเรา เหมือนเราจะได้อะไรสักอย่าง ก็ต้องมาด้วยความตั้งใจ มาด้วยความอุตสาหะ อาจารย์ของเมย์เคยสอนไว้ว่า วันนึงถ้าเราไม่มีเงิน แต่เรามีความอุตสาหะเข้าแลก ทุกอย่างก็จะกลับเข้ามาเป็นทวีคูณ เพราะทำด้วยใจ นี่คือแรงศรัทธา”
- ขอพรรอบด้าน
“วัดคิโยมิซุ” หรือ “วัดน้ำใส” ตั้งอยู่บนเขาโอโตวะ ทางตะวันออกของเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เกียวโตโบราณ ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก โดยอาคารหลักของคิโยมิซุได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น ภายในวัดมีน้ำตกสำคัญอยู่ 3 สาย โดยขอพรเรื่องสุขภาพที่แข็งแรง สมหวังในความรัก และประสบผลสำเร็จทางการศึกษา
“นี่เป็นวัดเก่าแก่สมัยโบราณ ตัวอาคารหลักเป็นเรือนไม้ทั้งหลังโดยไม่ใช้ตะปู มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะ อาทิ พระพุทธรูปปางสมาธิ เทพเจ้าความมั่งคั่ง เจ้าแม่กวนอิมโบราณอายุกว่า 1,000 ปี ส่วนตัวเคยมาขอพรแล้วได้ เป็นเรื่องของความสำเร็จ สุขภาพ ความเมตตา และแม่น้ำ 3 สาย ที่เชื่อว่ามาจากแหล่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากน้ำตก เป็นสายน้ำเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ความรัก การเงิน การงาน บางคนมาขอพรเรื่องการเรียน การอธิษฐานกับแม่น้ำทั้ง 3 สาย ให้ทำทีละสาย โดยทางวัดจะมีกระบวยให้รองน้ำมาล้างหน้า ถ้าเป็นแต่ก่อนก็ให้ดื่ม แต่ตอนนี้ไม่แนะนำ ส่วนตัวแนะนำให้แตะหน้าผากและปาก แล้วแต่ละคนอธิษฐานขอสิ่งที่ปรารถนา วันนี้นิยมขอการงาน ความมั่งคั่ง ทรัพย์สิน เงินทอง มาที่นี่ก็ครบ”
- ขอพรโชคลาภ
จากเกียวโตมาสู่โอซากา ไปสักการะ “ศาลเจ้าสุมิโยชิ” เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองโอซากา สร้างขึ้นมากว่า 2,000 ปีก่อน ถือเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่มากที่สุดในญี่ปุ่น
โดยมี “สะพานสุมิโยชิโซริบาชิ” เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของศาลเจ้า มีลักษณะเป็น “สะพานโค้งสีแดง” โดย “โซริฮาชิ” เป็นชื่อกลองญี่ปุ่น มีที่มาจากสะพานสะท้อนกับผิวน้ำ แล้วมีลักษณะเป็นวงกลมคล้ายกับกลอง วิวของสะพานที่สะท้อนลงบนผิวน้ำ เกิดเป็นภาพที่งดงามนั้นได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 วิวที่สวยที่สุดของภูมิภาคคันไซ ภายในเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าคามิ ที่คุ้มครองนักเดินทางและชาวเรือ ซึ่งจะมีประชาชนเดินทางมานมัสการในช่วงวันขึ้นปีใหม่เป็นจำนวนมาก
หมอเมย์เล่าว่า ที่นี่มีจุดขอพรบริเวณแท่นหินของเทพเจ้า เรียกว่า ลานรับพลัง สามารถมาเคลียร์พลังงานตรงนี้ได้ และอีกหนึ่งกิมมิกคือ มาที่นี่ต้องมาเก็บหินที่เขียนตัวอักษร 3 ตัว ที่มีความหมายของความสำเร็จ เงินทอง ความอุดมสมบูรณ์ และสุขภาพ ถ้าเก็บได้แล้ว ก็ซื้อถุงใส่หินนำกลับไปเก็บไว้ที่บ้าน และเมื่อพรที่ขอสำเร็จก็ให้นำกลับมาแขวนคืนที่ศาล ใครขอพรเรื่องการเดินทางปลอดภัย โชคลาภ ทรัพย์สิน ต้องมาที่นี่
- ขอพรให้ได้รับชัยชนะ
จากนั้นพาเดินทางสู่เมืองมิโนะ สู่วัด“วัดคัตสึโอ” เป็นวัดญี่ปุ่น ตั้งอยู่โอซากา เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,300 ปี ตามตำนานแล้วเป็นวัดที่เหล่านักรบในอดีตมักมาขอพรให้ประสบชัยชนะในการรบ วัดนี้จึงเป็นที่เคารพศรัทธาว่าเป็นวัดนำโชคแห่ง “ชัยชนะ” โดยมีสัญลักษณ์สำคัญ คือ“ตุ๊กตาดารุมะแห่งชัยชนะ”
ผู้ที่มาสักการะวัดแห่งนี้ จะนำตุ๊กตาดารุมะมาขอพรให้สมความปรารถนา ตุ๊กตาดารุมะ เป็นตุ๊กตาสีแดงสดเป็นสัญลักษณ์ของการเอาชนะใจตนเอง ทำจากกระดาษญี่ปุ่นลักษณะคล้ายตุ๊กตาล้มลุก มีต้นแบบวาดมาจากพระโพธิธรรม ซึ่งเป็นตุ๊กตาที่ชาวญี่ปุ่นใช้เพื่อขอพรต่างๆ และเมื่อขอพรได้แล้ว คนญี่ปุ่นก็จะนำดารุมะกลับมาคืนที่วัด
หมอเมย์กล่าวว่า วัดแห่งนี้คนนิยมมาขอพรเกี่ยวกับชัยชนะ ทำอะไรให้สำเร็จ ฝ่าฟันคู่แข่ง วิธีการขอพร ให้ซื้อตุ๊กตาดารุมะแล้วเขียนตาขวา และเขียนพรไว้ข้างหลังแล้วอธิษฐาน โดยนำดารุมะไปรอบกระถางธูป 1 รอบ และถ้าพรนั้นสำเร็จให้นำกลับมาวางคืนที่วัด สำหรับคนไทยอยากเตือนว่า อย่าซื้อชิ้นใหญ่เพราะจะทำให้ถือกลับลำบาก
“ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใครมาก็ชอบ ก็อยากแนะนำให้มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี่ อย่างน้อยมาที่นี่เราฮีลใจ มาเอาพลังงานที่ดี การที่เห็นสิ่งของที่สวยงาม ดั่งนักพรตกล่าวไว้ เวลาเดินทางใช้ชีวิต ตั้งใจเดินทางเกินไปก็เครียด การได้เก็บรายละเอียดระหว่างทางที่สวยงามทำให้เคลียร์สิ่งที่ไม่ดีออกไป เกิดความสงบ ทำบุญที่ไหน ขอให้ทำด้วยความเต็มใจ ไม่ต้องมีจำนวนเงิน กลับไปจะดีแน่นอน” หมอเมย์กล่าว
เสริมดวงปังรับปี 2568
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘มูเตลู’ ฉบับคนญี่ปุ่น ขอพรครบจบทุกเรื่อง รับ ‘ความปัง’ ปี 2568
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th