โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

Taylor Swift และเสียงโห่ไล่ในซูเปอร์โบวล์ กับภาพความเปราะบางของความเป็นชายในสนาม

Mirror Thailand

อัพเดต 17 ก.พ. เวลา 08.12 น. • เผยแพร่ 17 ก.พ. เวลา 08.12 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

การแข่งขัน ซูเปอร์โบวล์ (Super Bowl) ชิงแชมป์กีฬาอเมริกันฟุตบอลครั้งที่ 59 เพิ่งล่วงผ่านไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมปรากฏการณ์มากมายไม่ว่าจะเป็นการแสดงอันแสนเดือดดาล เปี่ยมสีสันในช่วงพักครึ่งโดยเจ้าของรางวัลแกรมมี่หมาดๆ อย่าง เคนดริค ลามาร์ (Kendrick Lamar) แร็ปเปอร์ชาวอเมริกัน, ยอดคนดูเกมทำลายสถิติเดิมที่ 127 ล้าน ขณะที่ยอดโฆษณาที่ปรากฏในเกมอยู่ที่ 800 ล้านเหรียญฯ (เพียงวันเดียว!) ขณะที่ในแง่ของการแข่งขัน ทีมแคนซัสซิตีชีฟส์ (Kansas City Chiefs) แชมป์เดิมสองสมัย ชวดการคว้าชัยสามปีซ้อนด้วยการพ่ายให้ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ (Philadelphia Eagles) อย่างสุดท้อ

ทั้งการแข่งขันนัดนี้ ยังสร้างคำถามหลายอย่างตามมา ทั้งการที่คนดูฝั่งขวาโจมตีคอนเสิร์ตของลามาร์ว่าช่าง “ไม่เคารพอเมริกา” เอาเสียเลย! เพราะให้นักแสดงผิวดำ ซามูเอล แอล แจ็คสัน (Samuel L. Jackson) มารับบทบาทเป็น ‘ลุงแซม’ หรือภาพแทนของสหรัฐฯ ซึ่งฝั่งขวารู้สึกว่าภาพแทนของสหรัฐฯ ควรเป็นคนขาวมากกว่า แม้อันที่จริงแล้ว คอนเสิร์ตของลามาร์ ที่เขาเองก็เป็นคนดำ ก็มีลักษณะของการเฉลิมฉลองเดือนกุมภาพันธ์ที่เป็นเดือนแห่งประวัติศาสตร์คนดำ (Black History Month) อยู่เนืองๆ ก็ตามที ไม่เพียงเท่านั้นยังรวมถึงการปรากฏตัวของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีขวาจัดคนล่าสุด ที่ถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศที่เข้ามานั่งชมระหว่างดำรงตำแหน่ง มิหนำซ้ำ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลีกอเมริกันฟุตบอลก็ซับซ้อนอยู่ไม่น้อยเพราะย้อนกลับไปในปี 2017 ที่นักกีฬา โคลิน แคเปอร์นิค (Colin Kaepernick) ตัดสินใจคุกเข่าก่อนการแข่งชันเพื่อประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนดำ และทรัมป์ที่ในเวลานั้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีวาระแรก ออกมาประกาศอย่างหัวเสียว่า “หมอนี่ทำเกมหมดสนุกไปเลย”

และที่อาจจะเรียกได้ว่าชวนเหวอและชวนอึดอัดใจอย่างยิ่งคือเมื่อ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) นักร้องระดับโลกมาร่วมชมการแข่งขัน ขณะที่ ทราวิส เคลซี (Travis Kelce) แฟนหนุ่มของเธอที่เล่นตำแหน่งไทด์เอนด์ให้แคนซัสซิตีชีฟส์อยู่ในสนาม เมื่อกล้องแพนมาจับที่เธอและปรากฏบนจอยักษ์ของสนาม ก็ตามมาด้วยเสียงโห่ไล่จากคนดูจำนวนมาก ส่วนสวิฟต์มีสีหน้าเหรอหรา หลายสื่อหยิบสีหน้าของเธอมาวิเคราะห์และดูเหมือนสวิฟต์จะถามอย่างงุนงงกับเพื่อนรอบตัวว่า “เกิดอะไรขึ้นน่ะ”

ถ้ายังฟังดูไม่ชวนอึดอัดใจพอ ภายหลังจากที่แคนซัสซิตีชีฟส์พ่ายแพ้ แฟนๆ ทีมฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์บางคนพากันเฉลิมฉลองกลางเมือง เผาเสื้อกีฬาของชีฟส์และตะโกนว่า “เทย์เลอร์ สวิฟต์จงไปตายซะ!” (“Fuck you Taylor Swift!”)

เรื่องพวกนี้ถูกย้ำให้ชัดขึ้นด้วยทรัมป์เอง เมื่อหลังการแข่งขันจบลง เขาโพสต์ลงโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า “คนที่เผชิญศึกแห่งค่ำคืนนี้หนักเสียยิ่งกว่าทีมแคนซัสซิตีชีฟส์คือเทย์เลอร์ สวิฟต์ เธอถูก ‘โห่ไล่’ ให้ไปให้พ้นจากสเตเดียม เจ้าพวก MAGA (ย่อมาจาก Make America Great Again หรือ ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง อันเป็นแคมเปญของทรัมป์) นี่มันไม่ยอมให้อภัยเอาเสียเลยนะ!”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ที่เป็นเช่นนี้เพราะสวิฟต์ออกตัวมาตลอดว่าเธอไม่สนับสนุนทรัมป์ โดยเฉพาะท่าทีเหยียดเพศและกดขี่เพศหญิงของเขา ทั้งเธอยังออกตัวว่าสนับสนุนพรรคเดโมแครตเสมอมาจนทรัมป์บ่นว่า “ผมชอบเพลงเธอน้อยลง 25 เปอร์เซ็นต์เลยเนี่ย” (สวิฟต์เลยสวนกลับอีกหมัดด้วยการลดราคาสินค้าของเธอ 25 เปอร์เซ็นต์ในช่วงนั้น) หรือเมื่อการเลือกตั้งใหญ่ปลายปี 2024 ที่ผ่านมา เมื่อสวิฟต์ออกตัวสนับสนุนเดโมแครตอีกครั้ง ทรัมป์ก็ประกาศอย่างชัดแจ้งว่า “ผมเกลียดเทย์เลอร์ สวิฟต์”

สเตฟานี แม็กนีล (Stephanie McNeal) คอลัมนิสต์และบรรณาธิการอาวุโสเขียนบทความลงเว็บไซต์ glamour ว่า เธอเป็นหนึ่งในคนดูที่ได้เข้าชมการแข่งขันวันนั้น และเห็นบรรยากาศที่คนดูโห่ไล่สวิฟต์ด้วยตาตัวเอง “อันที่จริงแล้ว ช่วงเวลานั้นอาจจะให้ความรู้สึกชวนคลื่นเหียนน้อยกว่านี้ หากไม่ใช่ว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านั้น ฝูงชนเพิ่งตะโกนต้อนรับการปรากฏตัวของทรัมป์ที่ถูกฉายขึ้นบนจอยักษ์จอเดียวกันนั้นด้วยความยินดี”

“สำหรับฉัน ปฏิกิริยาที่แตกต่างกันของคนดูเช่นนี้เป็นเหมือนการส่งสารบางอย่าง ว่าซูเปอร์โบวล์ หนึ่งในมหกรรมด้านวัฒนธรรมใหญ่ที่สุดของประเทศ ถูกทวงคืนโดยทรัมป์และความเป็นชายอันแสนเป็นพิษ (toxic masculinity) ที่เขาสำแดงให้เห็น และดูเหมือนว่าเขากับคนที่สนับสนุนเขาจะรื่นรมย์ไปกับมันไม่น้อย”

แม็กนีลยังตั้งข้อสังเกตว่า ภายหลังจากที่สวิฟต์กับเคลซีออกเดตกันในปี 2023 และเธอเริ่มมาดูการแข่งขันบ่อยขึ้น ยอดขายเสื้อของเคลซีเพิ่มขึ้นมาปีเดียว 400 เปอร์เซ็นต์, ยอดคนดูอเมริกันฟุตบอลกลุ่มที่เป็นผู้หญิงเพิ่มขึ้น 21 เปอร์เซ็นต์, ดึงเม็ดเงินลงทุนให้ลีกอเมริกันฟุตบอลเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ และสร้างฐานแฟนคนดูที่อายุยังน้อยหรือเป็นผู้หญิง ซึ่งเดิมไม่ใช่กลุ่มฐานแฟนหลักของลีก ให้มาดูมากขึ้น ไกลกว่านั้น มันยังทำให้อเมริกันฟุตบอลที่เป็นกีฬาในประเทศสหรัฐฯ (และแสนจะอเมริก๊า-อเมริกา) อยู่ในสายตาและความสนใจของคนนอกสหรัฐฯ ที่เป็นแฟนเพลงของเทย์เลอร์ด้วย Market watch บริษัทวิเคราะห์การตลาดระบุว่า สวิฟต์เพียงคนเดียวสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นให้แบรนด์อเมริกันฟุตบอลเกือบหนึ่งพันล้านเหรียญฯ

และแม้การปรากฏตัวของสวิฟต์จะสร้างผลประโยชน์แก่วงการอเมริกันฟุตบอล แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ไม่พอใจเธอ โดยเฉพาะแฟนกีฬาผู้ชายที่ออกปากว่าเธอ “ทำลายเกมไปหมดเลย” และ “มาดึงความสนใจคนมากกว่าเกม” ขณะเดียวกันก็มีท่าทีต่อต้านกลุ่มคนดูผู้หญิงที่เข้ามาดูกีฬาตามสวิฟต์ ด้วยการบอกว่าพวกเธอไม่รู้จริงและดูกีฬาตามกระแส ซึ่งด้านหนึ่งแล้วอาจไม่ได้หมายความถึงอะไรอื่นนอกไปเสีนจากการแสดงท่าที ‘หวงแหน’ ต่อวัฒนธรรมกีฬาที่แสนจะเป็นชาย โดยเฉพาะกับอเมริกันฟุตบอลซึ่งไม่มีนักกีฬาหญิงหรือลีกผู้หญิง อาจทำให้ ‘ความเป็นชาย’ หนักหน่วงกว่ากีฬาประเภทอื่นๆ ทั้งแฟนกีฬาผู้ชายหลายคนก็รู้สึกว่าเมื่อสวิฟต์เข้ามาดูเกม สื่อก็รายงานเรื่องของเธอ ไม่ว่าจะการแต่งกายของเธอ, รสนิยมแฟชั่นแต่ละนัด หรืออาจแค่ภาพเธอกับเพื่อนๆ เคียงคู่ไปกับการรายงานผลเกมซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกว่า มันไม่เป็นชายเอาเสียเลย และยังผลให้หลายคนพร้อมใจกันโห่ไล่เธอเมื่อกล้องจับภาพเธอบนจอใหญ่ของสนาม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เซควอน บาร์กลีย์ (Saquon Barkley) รันนิ่งแบ็คของฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ให้สัมภาษณ์อย่างงุนงงว่า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมสวิฟต์จึงถูกโห่ “ผมจำได้ว่าทีมงานฉายภาพเธอขึ้นจอใหญ่แล้วเธอก็โดนโห่ ผมไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจสักนิดว่าทำไมเธอถึงถูกเกลียดชังจากคนที่ดูเกมนี้นัก เธอมาที่นี่ก็เพื่อสนับสนุนคนรักของเธอ แถมยังทำให้มีคนมาสนใจเกมนี้มากขึ้นด้วย” เขาบอก “พวกเราก็พยายามทำให้กีฬานี้มันขยายตัวใหญ่ขึ้นอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามนี้ ผมถึงไม่เข้าใจไงล่ะว่าทำไมเธอต้องโดนโห่แบบนั้น”

หลายคนอาจโยงประเด็นว่าเธอถูกโห่เพราะการเมืองเนื่องจากสนับสนุนเดโมแครตมาตลอด แต่ก็มีสื่อหลายแห่งที่บอกว่า อันที่จริงแล้วเรื่องอาจไม่ซับซ้อนขนาดนั้น เพราะคนดังหลายคนที่สนับสนุนเดโมแครตก็ไปดูการแข่งขัน ทั้งยังถูกฉายภาพขึ้นจอใหญ่เช่นกัน แต่ไม่มีใครถูกโห่ไล่เหมือนเธอ แต่เธอถูกโห่เพราะเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ The OG Chiefs Kingdom ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียที่สนับสนุนแคนซัสซิตีชีฟส์ โพสต์ว่า “พวกคนที่โห่สวิฟต์นี่รู้ตัวกันหรือเปล่าว่า คุณกำลังส่งสารออกไปว่า ‘เป็นผู้หญิงก็จงเจียมเนื้อเจียมตัว ทำตัวให้เล็กกว่านี้’ สวิฟต์แค่ใช้ชีวิตของเธอ เธอไม่ได้เป็นคนคุมกล้อง เธอไม่ได้ทำร้ายใครด้วยซ้ำ อันที่จริง เธอทำให้ลีกอเมริกันฟุตบอลได้รับความสนใจมากขึ้น มีคนลงทุนมากขึ้น สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กสาวรุ่นใหม่ๆ สนใจเกมกีฬานี้

“ถ้าการปรากฏตัวของเทย์เลอร์ สวิฟต์มันรบกวนจิตใจพวกคุณขนาดนั้น ลองสูดลมหายใจลึกๆ ออกไปแตะหญ้า เจอโลกแห่งความจริงบ้าง อาการฟูมฟายโวยวายของพวกคุณมันบ่งบอกถึงตัวตนเสียยิ่งกว่าเทย์เลอร์ด้วยซ้ำไป”

ซูเปอร์โบวล์จึงเป็นมหกรรมกีฬาที่บ่งบอกปรากฏการณ์หลายอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ใต้พรมของการแข่งขัน การแสดงของลามาร์ที่เชิดชูการเป็นคนผิวดำต่อหน้าประธานาธิบดีผิวขาวจอมเหยียดผิว, การเสียดเย้ย ล้อเลียนของทรัมป์จากการที่เทย์เลอร์ สวิฟต์โดนโห่ รวมทั้งการที่แฟนกีฬาผู้ชายจำนวนมากรู้สึกว่าการมีอยู่ของเธอที่เกมมัน ‘รบกวน’ และทำให้อเมริกันฟุตบอลไม่เป็นอย่างที่พวกเขาคุ้นเคยอีกต่อไป พร้อมทั้งการพยายามกีดกันไม่ให้กีฬาเป็นเรื่องของผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จและทรงอิทธิพลระดับโลกอย่างสวิฟต์ ก็อาจไม่ใช่อะไรอื่นนอกเหนือไปเสียจากมันช่างเป็นภาพที่สะท้อนภาวะความเปราะบางของความเป็นชาย (fragile masculinity) ของหลายๆ คน

อ้างอิง

https://www.glamour.com/story/why-taylor-swift-getting-booed-at-the-super-bowl-was-even-more-chilling-than-you-think

https://www.newsweek.com/eagles-fans-philadelphia-taylor-swift-2028612

https://variety.com/2025/tv/news/super-bowl-2025-800-million-ad-sales-fox-corp-tubi-1236305111/

https://variety.com/2025/tv/news/super-bowl-2025-ratings-viewers-1236302721/

https://www.usatoday.com/story/sports/nfl/2025/02/12/saquon-barkley-taylor-swift-booed-super-bowl-59/78465773007/