โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รวมทฤษฎี "Teen" ตัวละครปริศนา: หรือ Agatha All Along กำลังเปิดทางสู่ Doctor Doom?

BT Beartai

อัพเดต 28 ก.ย 2567 เวลา 15.11 น. • เผยแพร่ 28 ก.ย 2567 เวลา 13.35 น.
รวมทฤษฎี

ซีรีส์ ‘Agatha All Along’ ดำเนินมาไม่ถึงครึ่งทางดี แต่ก็สร้างความว้าวุ่นใจในหมู่แฟนมาร์เวลไม่น้อย เมื่อตัวซีรีสืทิ้งปมปริศนาไม่หยุดหย่อนตลอดเส้นทางการคว้าสิ่งสุดปรารถนาของแม่มดม่วง อกาธา ฮาร์กเนส ที่แสดงโดย แคธริน ฮาห์น (Kathryn Hahn) ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงไม่พ้นตัวละครหนุ่มปริศนาที่ถูกเรียกชื่อว่า “ทีน” (Teen) หรือ “วัยรุ่น” อันเนื่องมาจากตัวละครนี้ถูกเวทลงตราปกป้องตัวตนที่แท้จริงไม่ให้พวกแม่มดรับรู้ เมื่อเขาเอ่ยชื่อตัวเองจะถูกเวทมนตร์อักษรตัว “M” ขึ้นมาบดบังปากและกลบเสียงพูดเอาไว้ทุกครั้ง จนดึงดูดให้อกาธาสนใจในหนุ่มคนนี้ว่าเป็นใครกันแน่ และยอมให้เขาเข้าร่วมโคเวนหรือกลุ่มแม่มดที่จะทำการทดสอบเส้นทางแม่มดเพื่อคว้าพลังกลับคืนมา

วันนี้เราจะมาลองดูว่ามีการตั้งทฤษฎีว่า ทีน คือใครกันแน่ และหากเป็นตัวละครนั้นอาจจะส่งผลอย่างไรต่อไปในจักรวาลหนังมาร์เวลด้วย

Agatha All Along

ทีน คือ บิลลี่ แคปแลน หรือ วิกแคน (Billy Kaplan – Wiccan) ?

นี่คือทฤษฎีที่มีการยอมรับอย่างแพร่หลายมากที่สุด โดย ทีน รับบทโดย โจ ล็อก (Joe Locke) ที่เปิดตัวเป็นนักแสดงดาวรุ่งจากซีรีส์ ‘Heartstopper’ (2022) ทางเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งหากนับเรื่อง ‘Agatha All Along’ นี้นับเป็นการแสดงเพียงเรื่องที่ 2 ของเขาเท่านั้น และทั้งสองเรื่องยังเป็นการรับบทเกย์วัยรุ่นซึ่งตรงกับชีวิตจริงของเขาเองที่เปิดตัวในเรื่องเพศสภาพตั้งแต่อายุ 12 ปีอีกด้วย ทีนเองได้เปิดเผยกับอกาธาว่าเขามีแฟนหนุ่มด้วย นั่นก็เป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ตรงกับตัวละครบิลลี่

บิลลี่ คือหนึ่งในลูกชายฝาแฝดของ วันด้า แม็กซิมอฟฟ์ หรือ สการ์เล็ตวิตช์ ในซีรีส์ ‘WandaVision’ (2021) ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากพลังเวทของวันด้าและถูกลบหายไปในตอนจบซีรีส์ ซึ่งเรายังได้เห็นเขาอีกครั้งในหนัง ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ (2022) แต่ก็เป็นอีกมัลติเวิร์สหนึ่งของวันด้าเท่านั้น สำหรับในคอมิกบิลลี่ได้เกิดใหม่และโตมาเป็นสมาชิกในทีมยังอเวนเจอร์สที่มีฉายาฮีโร่ว่า วิกแคน เขามีความสัมพันธ์โรแมนติกกับสมาชิกหนุ่มในทีมอย่าง ฮัล์กคลิง (Hulkling) ซึ่งในซีรีส์เราได้เห็นว่าทีนไม่รับโทรศัพท์จากหนุ่มผิวสีและพูดถึงว่านั่นคือสายจาก เอ็ดดี้ แฟนของเขา ที่อาจเลียนเสียงมาจาก เท็ดดี้ อัลต์แมน ซึ่งเป็นชื่อจริงของฮัล์กคลิง

wiccan

นอกจากนี้ในซีรีส์ยังมีหลายสิ่งที่ชวนให้เข้าใจว่าเขาคือบิลลี่ อาทิ คำใบ้บนเสื้อผ้าของทีน ทั้งรูปดาว 5 แฉกที่เหมือนพลังเวทของวิกแคน กางเกงยีนลายดวงดาวเต็มฟ้าเหมือนกางเกงของวิกแคนในคอมิก และภาพทีเซอร์ที่เราเห็นพลังของทีนเป็นสีฟ้าตรงกับเวทสายฟ้าของวิกแคนอีกด้วย และเบาะแสสำคัญที่ทำให้แฟน ๆ ปักใจเชื่อที่สุดคือ ในช่วงโปรโมตซีรีส์นี้คลิปตัวอย่างได้แสดงซับไตเติ้ลที่ขึ้นชื่อผู้พูดในฉากที่ทีนพูดว่าเขาชื่อบิลลี่ และเว็บไซต์ของนิตยสารวาไรตี้เคยได้ลงข้อมูลตัวละครระบุว่าล็อกแสดงเป็น บิลลี่ แม็กซิมอฟฟ์ ก่อนจะรีบลบออกไป ซึ่งคงเป็นไปได้ยากที่ซีรีส์ยังไม่ได้ฉายแล้วเว็บไซต์ข่าวจะมโนข้อมูลขึ้นมาเองโดยยังไม่มีใครได้ดู ทั้งนี้เมื่อซีรีส์ฉายฉากที่ทีนเล่าเรื่องราวของตนเองแต่อกาธาไม่ได้ยินอะไร แฟนสามารถอ่านปากของทีนได้ว่าเขาชื่อ บิลลี่ อีกด้วย

นั่นทำให้คนเดาว่าตราเวทรูปตัว “M” มาจากคำว่า แม็กซิมอฟฟ์ ที่วันด้าอาจได้ร่ายกำกับลูกชายของเธอในทุกมัลติเวิร์สเอาไว้ เพื่อปกป้องตัวตนของทีนจากเหล่าแม่มดที่อาจไม่หวังดีเพื่อป้องกันภัยที่อาจจะมาถึงพวกเขา

Agatha All Along

คำถามคือหากทีนเป็น บิลลี่ ลูกชายของวันด้าจริงทำไมเขาถึงหน้าตาเปลี่ยนไปจากเด็กชายผิวขาวผมทองในซีรีส์ ‘WandaVision’ ที่เราคุ้นเคยไป เราอาจจะเดายากว่าผู้สร้างจะเล่นคำอธิบายท่าไหนเพราะที่ผ่านมามาร์เวลก็เก่งในการเลี่ยงทฤษฎีแฟน ๆ แต่ที่เป็นไปได้มากคือมาจากเส้นเรื่องของคอมิกที่หลังจากฝาแฝดลูกชายของวันด้าได้สลายไป วิญญาณของพวกเขาได้แยกกันไปเกิดในต่างครอบครัวกัน บิลลี่ไปเกิดในตระกูลแคปแลน และนั่นทำให้เขามีรูปลักษณ์ที่ต่างจากเดิมไปมากเช่นมีผมสีเข้มแทน หลักฐานสำคัญในข้อสันนิษฐานนี้มาจากที่พบว่ามีข้อมูลตัวละคร เจฟ และ รีเบกก้า แคปแลน ซึ่งเป็นพ่อแม่ในร่างเกิดใหม่ของบิลลี่จะปรากฏตัวในซีรีส์นี้ด้วย

Agatha All Along

Agatha All Along กับการเปิดตัวสุดยอดวายร้ายแห่งโลกเวทมนตร์สู่ MCU?

สิ่งที่สำคัญคือในตอนที่ 3 ของซีรีส์ ‘Agatha All Along’ ได้มีการเปิดชื่อของ เมฟิสโต (Mephisto) จ้าวแห่งปีศาจว่าเขามีตัวตนอยู่ใน MCU แล้ว ผ่านบทสนทนาระหว่างทีนและแม่มดเคล ซึ่งก่อนหน้านี้ในซีรีส์ ‘Agents of S.H.I.E.L.D.’ ซีซั่น 4 ได้มีการเปิดตัว โกสต์ไรเดอร์ ซึ่งในคอมิกเป็นฮีโร่ที่ทำสัญญาปีศาจกับเมฟิสโตเพื่อคืนชีพมาล้างแค้น โดยในซีรีส์นั้นเราจะเห็น จอห์นนี่ เบลซ หรือโกสต์ไรเดอร์คนแรกได้โผล่มาสั้น ๆ เพื่อมอบพลังให้กับ ร็อบบี้ เรเยส กลายเป็นโกสต์ไรเดอร์คนใหม่ แต่ก็ยังไม่มีการพูดถึงเมฟิสโตใน MCU

เมื่อมีการยืนยันการมีอยู่ ก็ทำให้ทฤษฎีที่แฟนมาร์เวลพูดถึงกันมานานกลับมาดูน่าสนใจขึ้น ทั้งจากตัวอักษร “M” ที่ปรากฏไปทั่วทั้งซีรีส์ ‘Agatha All Along’ ทั้งในไพ่ทาโรต์ ทั้งตราเวทปิดปากทีน รวมถึงจากในคัมภีร์ดาร์กโฮลด์นั้นไม่ได้มาจากแม็กซิมอฟฟ์ แต่มาจากชื่อ เมฟิสโต นี่เอง น่าสนใจตรงที่ว่าในคอมิกตัววิกแคนนับเป็นเศษเสี้ยวดวงวิญญาณของเมฟิสโตที่แตกกระจายซึ่งวันด้าบังเอิญไปดึงมาใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการสร้างลูกแฝดของตนเองขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงเราอาจได้เห็นเมฟิสโตที่ปลายทางของการผจญภัยของเหล่าแม่มดในซีรีส์นี้ก็เป็นได้ และจะเป็นการเปิดตัวการมีอยู่ของเมฟิสโตใน MCU ที่อาจเป็นลาสต์บอสในจักรวาลเวทมนตร์ของมาร์เวลต่อไป

นั่นเป็นคำถามที่น่าสนใจว่าหากปลายทางของเส้นทางแม่มดคือการได้ขอสิ่งหนึ่งจากเมฟิสโตได้ ก็อาจสอดคล้องกับความปรารถนาแท้จริงของอกาธาที่ต้องการลูกชายของเธอกลับมา ซึ่งซีรีส์พยายามใบ้ถึงมาตั้งแต่แรกถึงความอาลัยหวนคิดถึงลูกชายที่จากไปเพื่อแลกกับการครอบครองดาร์กโฮลด์ของเธอ ที่มองในมุมหนึ่งเธอก็ไม่ต่างจากวันด้าที่ทำทุกอย่างให้ได้ลูกมาในหนังหมอแปลกภาค 2 แล้วเป็นไปได้หรือไม่ว่าหากทีนคือบิลลี่ ความปรารถนาเขาอาจไม่ใช่การได้เป็นแม่มด แต่เป็นการได้วันด้าคืนมาจากความตายเช่นกัน นี่ก็เป็นการมโนไปสนุก ๆ ที่ยังต้องรอดูซีรีส์กันต่อไป

ความคาดหวังอีกอย่างคือ เมฟิสโตควรจะได้เป็นตัวร้ายที่เหมาะที่สุดในการปิดไตรภาคจอมเวทของหนัง ‘Doctor Strange’ ที่ยังไม่มีชื่อภาค และทราบข้อมูลเพียงว่าจะใช้เนื้อหาจากคอมิกอีเวนต์ที่ชื่อ ‘Time Runs Out’ ที่เกี่ยวข้องกับการชนกันของพหุจักรวาลและเหล่าฮีโร่ต้องหยุดยั้งการล่มสลายของจักรวาลตนเองโดยทำลายจักรวาลอื่น ซึ่งด็อกเตอร์สเตรนจ์ก็มีบทบาทน่าสนใจในคอมิกตรงที่เขาจะศึกษาศาสตร์มืดและขายวิญญาณแก่ปีศาจเพื่อให้ได้พลังในการทำลายล้างจักรวาลอื่นหากจำเป็นเพื่อรักษาโลกเอาไว้ น่าสนใจว่าคนที่เขาจะขายวิญญาณแลกพลังมานั้นจะเป็นเมฟิสโตหรือไม่

mephisto

ทั้งนี้ในคอมิกเมฟิสโตเป็นตัวร้ายที่มีด็อกเตอร์สเตรนจ์เป็นคู่ปรับหลักด้วยเราก็ได้แต่หวังว่าจะได้เห็นการต่อสู้ของจอมเวทกับจ้าวนรกในหนังใหญ่สักที นอกจากนี้เมื่อเร็ว ๆ นี้มาร์เวลได้ประกาศวางหนังภาค 3 ของหมอแปลกไว้ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2026 คือหลังหนัง ‘Avengers: Doomsday’ (1 พฤษภาคม 2026) และก่อน ‘Avengers: Secret Wars’ (7 พฤษภาคม 2027) ที่น่าจะเดาได้ว่าทั้ง 3 เรื่องน่าจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกันบางอย่างซึ่งเราอาจจะคาดเดาในหัวข้อต่อไปด้วย

นอกจากนี้เมื่อเมฟิสโตถูกกล่าวถึง ย่อมคาดหวังได้ว่าอนาคตเราก็คงได้พบกับโกสต์ไรเดอร์ที่เป็นตัวละครหลักใน MCU เสียที อย่างน้อยที่สุดผู้สร้าง ‘Agatha All Along’ ก็ออกปากว่าเขาอยากทำเรื่องราวของ แดนนี เคตช์ หรือโกสต์ไรเดอร์คนที่ 3 ในรูปแบบซีรีส์ด้วย

Agatha All Along เกี่ยวข้องกับ Doctor Doom ของ Robert Downey Jr. ?

ต้องออกตัวก่อนว่ามันก็ยังเป็นการเชื่อมถึงแบบบางมาก ไม่ได้จะขนาดพูดได้ว่าซีรีส์อากาธาคือการเปิดตัว ด็อกเตอร์ดูม ในบทบาทการแสดงของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) แต่ดูจากที่ผ่านมา มาร์เวลก็มักจะค่อย ๆ ปล่อยคำใบ้ถึงตัวร้ายหลักมาในหนังหรือซีรีส์เรื่องก่อนหน้าหลาย ๆ ปีก่อน อย่างที่ธานอสปรากฏตัวครั้งแรกในหลังเครดิตจบของ ‘The Avengers’ (2012) ก่อนจะมีการประกาศนักแสดงที่รับบทธานอสว่าคือ จอช โบรลิน (Josh Brolin) ในปี 2014 แล้วโผล่ตัวหรือถูกอ้างถึงสั้น ๆ ในหนังอีกถึง 3 เรื่องกว่าจะมาเป็นตัวละครหลักจริงใน ‘Avengers: Infinity War’ (2018) ดังนั้นก็เป็นไปได้ว่าหลังจากเปิดตัวนักแสดงที่จะมารับบทด็อกเตอร์ดูมว่าคือ ดาวนีย์ จูเนียร์ ไปเมื่อ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในงานคอมิกคอน 2024 ซีรีส์อย่าง ‘Agatha All Along’ ก็พร้อมจะพูดถึงหรือปูทางไปถึงตัวละครนี้ได้แล้ว

Robert downey jr.

ทั้งนี้ ด็อกเตอร์ดูม ก็เป็นตัวละครที่มีเรื่องราวผูกพันกับเมฟิสโตโดยตรงด้วย ในคอมิกช่วงวัยเด็กของ วิกเตอร์ ฟอน ดูม เขาอาศัยอยู่ในลัตเวอเรียที่ปกครองโดยบารอนจอมเผด็จการ แม่ของเขาชื่อซินเธียเป็นแม่มดชนพลัดถิ่นโรมานีจึงได้ทำสัญญากับเมฟิสโตเพื่อแลกพลังในการต่อต้านบารอน แต่เกิดควบคุมพลังไม่ได้และตายไปวิญญาณของเธอถูกจองจำในนรกตามสัญญา ดูมที่ตั้งใจศึกษาเวทและวิทยาศาสตร์จนได้เรียนชั้นเดียวกับ รีด ริชาร์ด และในเวลาต่อมาก็ผันตัวกลายเป็นยอดวายร้าย ด็อกเตอร์ดูม ที่มีพลังอำนาจครองประเทศและหวังครองโลก กระนั้นเขาก็มีความฝันที่ค้างคาใจมาตลอดที่จะช่วยแม่ของเขาจากเมฟิสโต และในช่วงหนึ่งเขาจึงร่วมมือกับด็อกเตอร์สเตรนจ์ลงนรกไปปลดปล่อยวิญญาณของซินเธีย

mephisto

จะเห็นได้ว่าในแง่มุมฝั่งโลกเวทมนตร์และวิญญาณของมาร์เวลนั้น เมฟิสโต สเตรนจ์และดูม ต่างเชื่อมโยงกันอย่างมาก เมื่อคำนึงถึงจังหวะเวลาการฉายของหนังหลังจากนี้ ซึ่งรวมถึง ‘The Fantastic Four: First Steps’ (25 กรกฎาคม 2025) ที่น่าจะพูดถึงด็อกเตอร์ดูมในฐานะวายร้ายหลักของแฟรนไชส์ด้วยแล้ว การปล่อยชื่อเมฟิสโตเพื่อเชื่อมถึงดูมในซีรีส์ ‘Agatha All Along’ จึงอาจเป็นเจตนาที่แท้จริงในการปูสู่ภาพกว้างของจักรวาลมาร์เวลในอนาคตด้วยก็ได้

ทฤษฎีอื่น: หากทีนไม่ใช่ลูกวันด้า เขาอาจคือลูกชายอกาธา?

ก็เป็นส่วนที่ต้องพูดถึงว่ายังมีแฟนมาร์เวลที่มองต่างไปว่าหากทีนไม่ใช่บิลลี่แล้ว เขาอาจเป็นใครได้บ้าง ส่วนหนึ่งก็มาจากการพยายามบ่ายเบี่ยงและปฏิเสธทฤษฎีเรื่องบิลลี่ของผู้สร้างซีรีส์อย่าง ฌาก เชฟเฟอร์ (Jac Schaeffer) ซึ่งก็ออกอาการพูดไม่เต็มปากเพียงบอกว่าแฟน ๆ มองผิดจุดและมีจุดอื่นที่น่าสนใจกว่า

ทฤษฎีที่น่าสนใจและเป็นไปได้มากที่สุดรองลงมาจึงมาจากตอนที่ 3 ของซีรีส์ที่พยายามใบ้อย่างจงใจว่า ทีนคือลูกชายที่ตายไปของอกาธา ด้วยการแสดงถึงความหวนคำนึงของอกาธาต่อลูกชายของเธอ ในฉากภาพหลอนที่เธอได้ยินเสียงเด็กร้องไห้แต่ปรากฏว่ามันกลายเป็นดาร์กโฮล์ดไปแทน ตรงกับคำบอกเล่าของแม่มดเคลที่บอกทีนว่า อกาธาเป็นแม่มดชั่วที่มีข่าวลือว่าเธอยอมแม้แต่แลกชีวิตลูกชายกับการครอบครองดาร์กโฮล์ดเพราะคัมภีร์เรียกร้องสิ่งสำคัญจากผู้ถือครองเสมอ และระหว่างที่ฟังทีนก็พูดในทำนองว่าเขาไม่เชื่อด้วยใบหน้าเจ็บปวด และประกอบกับความหลงใหลในอกาธามากผิดปกติจนปกป้องเธอ ก็ทำให้น่าสงสัยเช่นกันว่าหรือทีนคือลูกของเธอที่คืนกลับมาจากเวทบางอย่างหรือผลกระทบหลังดาร์กโฮล์ดถูกวันด้าทำลายทิ้งหมด หรืออาจเป็นเพียงอีกหนึ่งการล่อลวงของเมฟิสโตที่ใช้วิญญาณของลูกชายอกาธา

Agatha All Along

ลูกชายที่เสียไปของอกาธา ฮาร์กเนสมีชื่อว่า นิโคลัส สแครตช์ ปรากฏชื่อตั้งแต่ซีรีส์ ‘WandaVision’ ในฐานะกระต่ายตัวโปรดของอกาธา และในซีรีส์เรื่องใหม่นี้กระต่ายตัวดังกล่าวก็ยังคงอยู่ เราจะเห็นทีนดูสนใจกระต่ายนี้เป็นพิเศษ ทั้งนี้กระต่ายและชื่อนิโคลัสยังถูกนำเสนอเกี่ยวข้องกับลูกชายของอกาธาในหลายโอกาสเช่น พร็อพต่าง ๆ ในฉากด้วย จุดน่าสนใจหนึ่งคือล็อกเก็ตที่อกาธาสวมใส่เสมอตลอดเวลานั้น ด้านในมีปอยผมเล็ก ๆ น่าจะเป็นของเด็กเก็บไว้ ในฉากหนึ่งที่เธอมองดุมันแล้วเกิดความคิดที่จะถามชื่อของทีน แต่ก็พบว่าเขามีตราเวทปกป้องไว้ ดูเหมือนอกาธาเองก็อาจสัมผัสความเกี่ยวข้องบางอย่างระหว่างทีนกับลูกชายของเธอได้

Agatha All Along

ในฉากเครดิตจบของซีรีส์เมื่อขึ้นชื่อของนักแสดง โจ ล็อก เราจะเห็นด้านหลังเป็นพาดหัวหนังสือพิมพ์ของเมืองเล่าถึงใครสักคนที่กำลังปางตายในเมืองเวสต์วิว เมื่อประกอบกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่อกาธาพูดถึงในตอนแรกของซีรีส์ก็อาจสันนิษฐานได้ว่าเป็นกรณีเดียวกัน ทั้งนี้พาดหัวข่าวลงวันที่ไว้เมื่อ 14 ธันวาคม 2023 เป็นช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังเหตุการณ์ในซีรีส์ของวันด้าจบลง ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากคำพูดของทีนที่ว่าเขามีจุดเปลี่ยนชีวิตจากการสูญเสียแม่ในช่วงอายุ 13 ปี หรือเมื่อ 3 ปีก่อนหน้าพอดี ก็น่าสงสัยว่าอุบัติเหตุนั้นคือสิ่งที่เขาเผชิญหรือไม่ ทั้งนี้หากดูว่าบิลลี่ในซีรีส์ ‘WandaVision’ น่าจะอายุไม่ถึง 13 ปีในวันที่เขาสลายไปก็ยิ่งน่าเชื่อว่าทีนอาจเป็นคนอื่นมากกว่าบิลลี่ได้หรือไม่

ตรงนี้เกิดทฤษฎีขึ้นว่า บิลลี่ แคปแลน เกิดอุบัติเหตุในช่วงอายุ 13 ปีและทำให้เขาเกือบตาย เป็นไปได้ไหมว่าวิญญาณของบิลลี่ที่เป็นลูกวันด้าหรือวิญญาณนิโคลัสลูกของอกาธาอาจได้พลังจากดาร์กโฮล์ดที่มีเวทสิงฝันที่เราเห็นมาแล้วในหนัง ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ ทำให้เข้าไปสิงหรือครอบครองร่างของบิลลี่ แคปแลนแทน

นอกจากทฤษฎีนี้ก็ยังมีคนคิดไปหลายอย่าง เช่น ทีน อาจเป็นอกาธาอีกเวอร์ชันหนึ่งที่เปลี่ยนเพศไปคล้ายที่มาร์เวลเคยทำมาแล้วในซีรีส์ ‘Loki’ โดยอิงจากจริตต่าง ๆ ของสองตัวละครที่ใกล้เคียงกัน หรือทีนจะเป็นร่างจำแลงของเมฟิสโต หรือหนึ่งในผู้นำของ 7 ซาเลมกลุ่มแม่มดที่ไล่ล่าอกาธา หรือให้พูดไปว่าคือด็อกเตอร์ดูมที่มาในร่างวัยรุ่นเืพ่อหวังอะไรบางอย่าง ตอนนี้ก็มีคนคิดได้ไปหมด อย่างไรก็ดีเสน่ห์ของมาร์เวลที่ให้แฟน ๆ ตั้งสมมติฐานระหว่างการรับชมก็กลับคืนมาอีกครั้งอย่างน่าสนใจ เป็นความสำเร็จอย่างยิ่งของซีรีส์ ‘Agatha All Along’ เลยทีเดียว

Agatha All Along
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...