เลี้ยงหาพ่อ….เหรอ?
.
เคยมีโอกาสเป็นนักฟุตบอลทีมโรงเรียน
การฝึกซ้อมเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยกว่าการแข่งขัน
ฟุตบอลไม่ใช่มีแต่เตะอย่างเดียว ยังต้องฝึกซ้อมการใช้เท้านานาชนิด
ที่เรียกว่าแป เขี่ย เดาะ และเตะ
รวมไปถึงการโหม่ง และการทุ่ม
สิ่งหนึ่งที่นักฟุตบอลต้องฝึกให้ชำนาญคือการเลี้ยงลูก
ลูกฟุตบอล นั่นแหละไม่ใช่เลี้ยงเด็กทารกที่ไหน
การเลี้ยงคือการ นำพาฟุตบอลไป แต่ต้องรักษาประคับประคองให้อยู่ใกล้เท้า พอที่เราจะจัดการกับมัน ป้องกันการแย่งชิงจากฝ่ายตรงข้าม
พามันไปซ้ายไปขวา ทำท่าว่าจะไปข้างหน้า แต่กลับเขี่ยไปข้างหลัง
แตะนิดนึงเพื่อหลบหลีกคู่ต่อสู้ อาจพาหลีกเลี้ยงไปหามุมธงแล้วโยนกลับมา
หรือว่าลากเลี้ยงเดี่ยวไปหาประตู แล้วซัลโวเข้าโกลก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และกลยุทธ์
ที่สำคัญหากใครเลี้ยงลูกบอลได้เก่ง ก็จะดูเป็นคนเท่ มีฝีมือฝีเท้า
บางคราวกลายเป็นเลี้ยงโชว์ให้เห็นทักษะความสามารถทางฟุตบอลของนักกีฬาคนนั้น
เก่งยังไงก็ตามแต่ ต้องไม่ลืมว่าฟุตบอลนั้นเล่นเป็นทีม
.
หนหนึ่งขณะที่ผมกำลังเลี้ยงบอลด้วยลีลาพลิกพลิ้ว ไขว้ขาหักหลบไปมา
ก็ได้ยินเสียงโค้ชตะโกนมาจากข้างสนามว่า
เลี้ยง..หาพ่อมึงเหรอ ส่งได้ทำไมไม่รู้จักส่ง
แล้วก็โดนเรียกตัวออกมานั่งฟังคำสอนของโค้ช
โค้ชคนเดียวกับที่เคยสอนผมให้เลี้ยงบอลว่า
การเลี้ยงนั้นเราใช้เพื่อหลีกหลบคู่แข่งเมื่อจนมุม
หากแต่ในสภาวะที่สามารถส่งมันต่อไปได้ง่ายๆก็ไม่เห็นจะต้องเลี้ยงให้เสียเวลา
ส่งไปง่ายๆ ตรงถึงเพื่อนร่วมทีม ก็สามารถเล่นต่อ รุกบุกแดนคู่ต่อสู้
มันอาจจะดูเหมือนง่ายเกินไป
แต่นั่นแหละคนที่เล่นฟุตบอลเป็น หากส่งได้ ก็ไม่จำเป็นต้องเลี้ยง
.
ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ยอดนักฟุตบอลของไทย เคยเล่าในรายการสัมภาษณ์ว่า
ตอนเขาไปคัดตัวเพื่อร่วมทีมสโมสรแห่งหนึ่ง
ทางผู้คัดตัวก็ใช้วิธีให้นักกีฬาผู้มาสมัครทั้งหลาย ลงไปเล่นแข่งขันกัน
หากคนไหนที่มีแวว ก็จะได้รับการเรียกชื่อ แล้วก็นำมาเป็นลิสต์ เพื่อพิจารณาว่าติดทีมนั้นๆ
เขาบอกว่า เขาลงไปเล่นด้วยชั้นเชิงปกติ คือได้ลูกมาแล้วจ่ายออกไป ส่งต่อให้คนอื่นเล่น
ก็ไม่ได้รับการเรียกชื่อสักที
เพราะส่ิงที่เขาทำนั้น มันดูสามัญจน คนคัดตัวนักกีฬา มองไม่เห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่อย่างแท้จริง
เขาจึงทำสิ่งที่นักกีฬาชั้นดีไม่ควรทำ นั่นคือการนำลูกบอลมาเลี้ยงไปเลี้ยงมา
พลิกพลิ้วลีลาให้เห็นว่า เขาทำสิ่งนั้นได้
จอมยุทธ์แท้จริงอาจจะไม่อวดโอ่
แต่หากต้องอยู่ในช่วงประลองยุทธ์จะงำประกายเก็บไว้ก็อาจจะไม่เข้าตากรรมการ
ปิยะพงษ์ เก่งตรงที่เขา รู้ว่าควรจะเล่นแบบไหน ในสถานการณ์ไหน
ทำให้เขาได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมทีม
หลังจากนั้น เขาก็กลายเป็นนักกีฬาระดับตำนาน
.
จริงอยู่ การเล่นฟุตบอลที่ดี ไม่ต้องเลี้ยงไปเลี้ยงมาก็ได้
แค่จ่ายบอลออกไปก็นับเยี่ยมแล้ว ในสายตาของผู้ชำนาญโลก
แต่สำหรับผู้คัดเลือก กรรมการ คอมเม้นเตเตอร์ใช่ว่าจะตาถึงทุกราย
ดังนั้น สิ่งที่ผู้เข้าประกวดต้องประเมินก็คือ
ผู้มาเป็นกรรมการชี้ขาด หรือคนคัดสรรนั้น สายตาหรือสมรรถภาพการมองของเขา มีอยู่ระดับไหน
ถ้าอยากผ่านมาตรฐานของเขา
อาจจะต้องปรับมาตรฐานของเราลงมา
ไม่อย่างงั้น โอกาสเป็นซุปตาร์ก็อาจจะหลุดมือไป
ความเห็น 7
Rainny L.(อิมกึมบี)🌦
การเลี้ยงลูกเปรียบเหมือนการดูแลจิตใจของตนเอง จะเลี้ยงมันอย่างไรให้มันดีที่สุด ลูกบอลใจของเรา เราจะวางใจส่งบอลลูกนี้ให้ใครเลี้ยงต่อไม่ได้ เพราะเราไม่ไว้วางใจใครนอกจากตัวเราเอง ส่วนประตูที่จะส่งบอลใจให้เข้าไป เราก็ต้องดูให้ดีเพราะมือประตูแต่ละประตูมีความแตกต่างกัน
25 ธ.ค. 2562 เวลา 13.09 น.
Komsan
จะพูดหาพ่อ....เหรอ?
25 ธ.ค. 2562 เวลา 12.46 น.
เคยเหมือนกัน
25 ธ.ค. 2562 เวลา 10.22 น.
ผมคิดว่าถ้าจะให้เปรียบดั่งเป็นการดำเนินของชีวิตแล้ว ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมาก็ตาม หากว่าเราได้คิดและพิจารณาให้รอบครอบอย่างดีแล้ว ผมเชื่อว่ายังไงก็ย่อมที่จะทำให้รู้ถึงในหลักของการดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องเสมอครับ.
25 ธ.ค. 2562 เวลา 11.49 น.
kan....3966...
แต่ก่อนเคยฟ้งเพลงศุ แต่บัดนี้ไม่ชอบฟังเลย เลอะเทอะไม่ฟ่งไม่ชอบไม่สนุกด้วย.......
23 ม.ค. 2563 เวลา 03.37 น.
ดูทั้งหมด