โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งปรับเกณฑ์ หุ้นเข้าคำนวณดัชนี SET50-SET100 ใหม่ หลังพบ DELTA สร้างความผันผวนต่อดัชนี

Wealthy Thai

อัพเดต 10 ส.ค. 2566 เวลา 01.47 น. • เผยแพร่ 10 ม.ค. 2566 เวลา 09.30 น. • สันติภาพ เกตุสร้อย

หลังจากที่ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ได้รับการเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ในรอบครึ่งแรกของปี 2566 ทั้งนี้ส่งผลให้เกิดแรงเก็งกำไรในหุ้น DELTA มาอย่างต่อเนื่อง และทำให้ราคาหุ้นของ DELTA ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 990 บาทต่อหุ้น และทำให้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปมากที่สุดในตลาดหุ้นไทย
นักวิเคราะห์หลายแห่งได้ระบุว่า การที่หุ้น DELTA ได้รับการเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 นั้นมีโอกาสที่จะสร้างความผันผวนให้กับดัชนี และการซื้อขายในตลาด TFEX อย่างไรก็ตามความเป็นจริงก็เกิดขึ้น ซึ่งการปรับตัวขึ้นลงของราคาหุ้น DELTA ส่งผลขนาดใหญ่ต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยเนื่องจากด้วยไซส์ของมูลค่าบริษัทมีน้ำหนักต่อดัชนี จึงทำให้เมื่อราคาหุ้นของ DELTA ปรับตัวขึ้นหรือลงก็ส่งผลต่อดัชนี
ดังนั้น Wealthy Thai จึงได้สอบถามไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในกรณีที่มีบางบริษัทหลักทรัพย์ได้รับการเข้าไปคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหลักทรัพย์ดังกล่าวสร้างความผันผวนให้กับดัชนี ในจุดนี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯมีมุมมองอย่างไร
โดยนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยมุมมองต่อประเด็นดังกล่าวว่า จุดที่สำคัญคือวิธีแก้ไขดังกล่าวมีหลายวิธี ซึ่งตอนนี้กำลังหาวิธีที่ไม่กระทบกับบริษัทอื่นมาก เพราะว่าเกณฑ์ดังกล่าวนั้นปัญหาไม่ได้อยู่ที่จะสามารถแก้ไขได้หรือไม่ แต่ปัญหาคือจะแก้ไขอย่างไร แล้วให้ผลกระทบกับบริษัทธรรมดาให้น้อยที่สุดได้อย่างไร
นอกจากนี้ยังได้มีการปรับปรุงกระบวนการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความเชื่อมั่นในตลาดทุน โดยพิจารณาปรับปรุงเกณฑ์รับหลักทรัพย์ในแต่ละตลาด เช่น SET,mai และ LiVEx ประกอบกับพิจารณาปรับปรุงเกณฑ์การซื้อขาย การชำระราคา และส่งมองหลักทรัพย์
รวมถึงพิจารณาปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบข้อมูล และแก้ไขกฏเกณฑ์ใช้ข้อมูลที่สำคัญ เช่นข้อมูลการถือครองหุ้น และรวมศูนย์ข้อมูลการติดต่อกับบริษัทหลักทรัพย์ในด้านต่างๆ อีกทั้งพิจารณาปรับปรุงเกณฑ์ขั้นตอนการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลและหน่วยงานอื่นๆ
ขณะเดียวกันนายภากร กล่าวต่อว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทั้งเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค ความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุน และความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลกจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงดวามเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งใน 3 ปีข้างหน้านี้ (2566-2568) ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมุ่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย
ควบคู่ไปกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เพื่อให้ตลาดทุนเป็นประโยชน์แก่ทุกภาดส่วน ตามวิสัยทัศน์ตลาดหลักทรัพย์ฯ "To Make the Capital Market 'Work for Everyone" ผ่านกลยุทธ์ 4 ด้าน ดังนี้
ด้านที่ 1: ทำตลาดทุนให้เป็นเรื่องง่าย Make fundraising & investment simple)เพิ่มโอกาสการระดมทุน โดยมุ่งส่งเสริมให้ธุรกิจทุกขนาดทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ เข้ามาใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนอุดสาหกรรมใหม่ตั้งแต่กระบวนการให้ข้อมูลและเตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจที่มีศักยภาพ และจะมุ่งพัฒนาเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ต่อยอดจาก LiVE Academy และ LIVE Platformเพื่อให้มีความพร้อมในการเข้าถึงแหล่งระดมทุน
นอกจากนี้จะพัฒนาศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย Thai Digital Assets Exchange : TDX ป็นแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายโทเคนดิจิทัลทั้ง Investmen token และ utility token ในไตรมาส 3/2566
เพิ่มโอกาสการลงทุนมุ่งเพิ่มดวามหลากหลายด้วยผลิตภัณฑ์ที่ใช้เงินลงทุนไม่มากสำหรับผู้ลงทุนรายเล็กทั้งศึกษาการออกผลิตภัณฑ์ลงทุนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (environment-linked) และการขยายเวลาหลักทรัพย์เพื่อเพิ่มความสะดวกในการลงทุน เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการเปิดบัญชีลงทุนเพื่อสร้งโอกาสการเข้าถึงตลาดทุนที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
ควบคู่ไปกับการพัฒนาแพลตฟอร์มของ Settade เพื่อเป็น Market Super App" ในการเชื่อมต่อโอกาสการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ "Capital Market Super App” ในการเชื่อมต่อโอกาสการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์
ด้านที่ 2 ยกระดับมาตรฐานเพื่ออุตสาหกรรม (Move industry & ecosystem with standard) พัฒนาใหม่ภายในไตรมาส 1/2566 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบนิเวสกกรลงทุน และรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่พร้อมยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสำาหกรรม รวมทั้งปรับปรุงกฎเกณฑ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย และให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไปและระบบซื้อขายใหม่
ด้านที่ 3: ร่วมสร้างโอกาสเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด (Match partners for synergy) พัฒนาการเผยแพร่ข้อมูลผ่าน SMART Marketplace เพิ่มข้อมูลและฟังก์ซันที่ใช้ในการวิเคราะห์เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน รวมทั้งต่อยอดงานวิจัยแบบ Thematicและ Issue-based เพื่อให้สามารถนำไปใช่ได้จริงในการพัฒนาตลาดทุนด้านต่าง ) มากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน จะมีการรวบรวมข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สั่งคม และบรรษัทภิบาล (Envionmental, Social and Governance: ESG) ของบริษัทจดทะเบียนมาไว้บน Esc Data Platforn โดยเริ่มเผยแพร่ข้อมูลได้ในไตรมาส 2/2566 นอกจากนี้ จะพัฒนาการจัดทำ ESGRatings เพื่อสนับสนุนการออกสินตั ESG-Linked
ด้านที่ 4. ยึดหลักความยั่งยืนเป็นแกนขับเคลื่อนการทำงาน (Merge ESG with substance) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้นำมิติต้าน EsG ขับเคลื่อนการดำเนินงานทั้งกระบวนการภายใน และภายนอกองค์กรโดยทำงานร่วมกับพันธมิตร นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...