โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“ทีเส็บผนึกภาคี” ผลักดันขอนแก่น เป็นประตูผ้าไหมไทยสู่ตลาดโลก

Manager Online

เผยแพร่ 24 พ.ค. 2567 เวลา 06.48 น. • MGR Online

ภาคี 5 ฝ่ายที่มาร่วมมือกันตามแผนดังกล่าว ประกอบด้วย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) สมาคมไหมไทยและสิ่งทอขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และทีเส็บ ซึ่งจะใช้ความชำนาญที่แตกต่างกันมาส่งเสริมผู้ประกอบการไหมไทยได้อย่างครบกระบวนการ

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของทั้ง 5 หน่วยงานว่า เป็นเจตนาร่วมกันของทุกองค์กรภาคีที่จะร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมไหมไทยไปสู่ตลาดระหว่างประเทศอย่างแท้จริง

ทั้งยังเป็นการสานต่อการทรงงานมากว่า 54 ปีของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อพัฒนาผ้าไหมเพื่อสร้างรายได้แก่ประชาชน

“เราเห็นความสำคัญของการทำให้ผ้าไหมก้าวต่อไปเพื่อเพิ่มรายได้และยกระดับความเป็นอยู่แก่ประชาชน และไม่ลืมว่างานต่าง ๆ ทั้งด้านพัฒนาคุณภาพ ส่งเสริมตลาด ส่งเสริมมาตรฐาน และอื่น ๆ เป็นงานที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงทุ่มเทมาแล้วไม่น้อยกว่า 54 ปี”

ผลที่เกิดขึ้นคือผลิตภัณฑ์ไหมซึ่งเคยเป็นสิ่งทอที่ทำใช้ในครัวเรือน กลายเป็นอาชีพให้แก่เกษตรกรนับแสนคนใน 86,000 ครัวเรือน ทำให้อุตสาหกรรมไหมไทยมีขนาดใหญ่ถึง 6,600 ล้านบาท และมีการต่อยอดไปสู่สินค้าต่าง ๆ ทั้งในการตกแต่งภายใน เป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นเครื่องสำอางจากโปรตีนไหม เป็นต้น

ในการร่วมมือกันครั้งนี้ ทีเส็บจะใช้ความชำนาญด้านการจัดประชุมและแสดงสินค้ามาสนับสนุนในสองด้านหลัก ได้แก่ การส่งเสริมให้ขอนแก่นเป็นเมืองสำหรับการค้าผ้าไหมจากทั่วประเทศสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ โดยการพัฒนาให้เกิดงานเทศกาลไหมนานาชาติอย่างเต็มรูปแบบ

เป้าหมายดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของทีเส็บในการกระจายโอกาสการเข้าสู่อุตสาหกรรมไมซ์อย่างทั่วถึง ซึ่งขอนแก่นเป็นหนึ่งในไมซ์ซิตี้อันดับต้น ๆ ที่ทีเส็บเข้ามาร่วมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ในอีกด้านหนึ่งคือการร่วมกับสมาคมไหมไทยและสิ่งทอขอนแก่นนำผู้ประกอบการและผ้าไหมไทยไปร่วมในงานแสดงสินค้าระดับโลกที่เกี่ยวข้อง เช่น งาน Silk in Lyon ประเทศฝรั่งเศส และงานสิ่งทอ World Cotton Day ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจะดำเนินการภายในปีนี้ทั้งสองงาน

ผู้แทนสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) โดยนายสักก์สีห์ พลสันติกุล ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ขอนแก่น (CEA ขอนแก่น) กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานรัฐที่มีภารกิจส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาห่วงโซ่ของระบบนิเวศสร้างสรรค์ ซึ่งประกอบด้วย แรงงานสร้างสรรค์ ผู้ประกอบการ และนักสร้างสรรค์ รวมถึงการพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ ให้เป็นทรัพยากรสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดการนำเอากระบวนการคิดเชิงออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ที่ผสานต้นทุนทางด้านวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น (Creativity & Culture) มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ โดยในภาคอีสาน CEA เล็งเห็นศักยภาพของอุตสาหกรรมงานฝีมือและหัตถกรรม (Craft & Design) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่โดดเด่นของภาคอีสาน โดยเฉพาะ “ผ้าไหม ” ซึ่งเรามีช่างฝีมือท้องถิ่นที่มีศักยภาพ มีนักสร้างสรรค์ที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้นการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value-added) และสร้างสรรค์คุณค่า (Value Creation) ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักสร้างสรรค์และช่างฝีมือ จึงเป็นโอกาสให้หน่วยงานของเราได้มีส่วนช่วยยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์เมืองขอนแก่น สู่ระดับภูมิภาคและระดับประเทศต่อไป

รองศาสตราจารย์ ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เป็นสถาบันการศึกษาที่สนับสนุนงานด้านวิชาการ การวิจัยสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม รวมถึงการให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ด้วยองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงการพัฒนากำลังแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเราพร้อมร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไหมและสิ่งทอกับทุกภาคส่วนอย่างเป็นรูปธรรม โดยมี “ศูนย์ส่งเสริมผ้าพื้นถิ่นอีสานไทย-ฝรั่งเศส (Franco-Thai Isan Textile Promotion Centre (FTITP))” ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ทั้งความรู้ นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ในหลากหลายมิติ โดยบูรณาการศาสตร์กับการจัดการเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการ เพื่อส่งเสริมและยกระดับคุณภาพ รวมถึงพัฒนาศักยภาพเชิงพาณิชย์ของอุตสาหกรรมสิ่งทอผ้าพื้นถิ่นอีสานให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้

รองศาสตราจารย์ ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยศูนย์ความเป็นเลิศอุตสาหกรรมไมซ์และอีเว้นท์เชิงธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี และศูนย์วิจัยชุมชนเมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี่ (สนับสนุนโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ) พร้อมส่งเสริมด้านงานวิจัย สร้างฐานข้อมูลอุตสาหกรรมผ้าไหม และหัตถกรรม บ่มเพาะองค์ความรู้ ให้แก่ชุมชน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการและนักออกแบบไทย (Designer) ในการบริการข้อมูลวิชาการ พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน สนับสนุนการพัฒนานักศึกษาและร่วมฝึกประสบการณ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้ต่าง ๆ และการพัฒนาสินค้าและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ โดยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานภาคเอกชน และสมาคมระดับประเทศและนานาชาติ ยกระดับผ่านอุตสาหกรรมไมซ์สู่สายตาชาวไทย และเวทีโลก มหาวิทยาลัยขอนแก่นพร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรมไหมไทยสู่ไมซ์โลก

นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา นายกสมาคมไหมไทยและสิ่งทอขอนแก่น กล่าวว่า สมาคมฯ ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไหมและสิ่งทอ ทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่ายในอุตสาหกรรมฯ ภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างงานและแสวงหาโอกาสในการพัฒนาขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไหมไทยและสิ่งทอจังหวัดขอนแก่น ขยายโอกาสการเชื่อมโยงผ้าไหมอีสานให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล สนับสนุนทางการค้าและความร่วมมือเชิงพาณิชย์กับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดขอนแก่นและภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่ระดับนานาชาติต่อไป

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...