โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ความน่าจะอ่าน 2024 : The Finalists (ตอนที่ 3)

The101.world

อัพเดต 13 ก.ย 2567 เวลา 15.23 น. • เผยแพร่ 12 ก.ย 2567 เวลา 16.12 น. • The 101 World

ว่ากันว่าการอ่านหนังสือสักเล่มเปรียบได้กับการเดินทางสู่โลกใบใหม่ เปิดหูเปิดตาให้เราผ่านการค้นพบความรู้และจินตนาการในดินแดนตัวอักษรอันกว้างไกล พร้อมๆ กับพักผ่อนเยียวยาใจในวันที่เหนื่อยล้า ท้อแท้ หรือหมดหวัง เพื่อเติมพลังความฝันและความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงชวนให้เรากลับมาสำรวจแง่มุมความคิด จิตวิญญาณหรือโลกภายใน

ปีนี้ 101 ร่วมกับ Open House Bookshop by Hardcover จึงขอชวนคุณมาร่วมค้นหาหนังสือที่ใช่ ผ่าน ‘ความน่าจะอ่าน 2024 : Readcovery เปิดโลกข้างนอก เปิดอ่านข้างใน’ จากรายชื่อหนังสือคัดสรรโดยเจ้าของสำนักพิมพ์ บรรณาธิการ ร้านหนังสือ และวาดภาพประกอบ ทั้งหมดกว่า 100 เล่ม

และนี่คือ The Finalist ชุดที่ 3 – หนังสือหลากรสที่คนในแวดวงหนังสือเสนอกันเข้ามา พร้อมเหตุผลว่าทำไมเรา ‘น่าจะอ่าน’ เล่มนี้

ย้อนอ่านรายชื่อหนังสือ The Finalist ตอนที่ 1 ได้ที่นี่

ย้อนอ่านรายชื่อหนังสือ The Finalist ตอนที่ 2 ได้ที่นี่

จักรกฤต โยมพยอม

สำนักพิมพ์อะโวคาโด บุ๊กส์

เล่มที่แนะนำ :

1.วิชาคนตัวเล็ก

ผู้เขียน : พูนลาภ อุทัยเลิศอรุณ

สำนักพิมพ์ : วีเลิร์น (WeLearn)

“หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการสร้างสรรค์ผลงานหนังสือในเครือสำนักพิมพ์วีเลิร์น เหมือนผู้เขียนเปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้เข้าไปอยู่ในห้องประชุมทีมงานเบื้องหลังหนังสือหลายเล่ม แต่ใช่ว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์เฉพาะกับผู้ที่ทำงานแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์เท่านั้น เพราะแนวคิดต่างๆ ในหนังสือเล่มนี้สามารถนำไปประยุกต์ได้กับทุกคน ไม่ว่าทำงานสายใดก็ตาม”

2.รู้หน้า (จอ) ไม่รู้ใจ: ถอดรหัสภาษากายดิจิทัลเพื่อการสื่อสารธุรกิจ-สานสัมพันธ์ในชีวิตยุคใหม่ (Digital Body Language: How to Build Trust and Connection, No Matter the Distance)

ผู้เขียน : Erica Dhawan

ผู้แปล : สุญญาตา เมี้ยนละม้าย

สำนักพิมพ์ : Bookscape

“ปัญหาจากการสื่อสารในปัจจุบันนี้ไม่ได้เพียงเกิดจากวัตนภาษาหรืออวัจนภาษาในแบบเดิมที่เราคุ้นเคย ทว่ายังเกิดจากการแปลความหมายที่ผิดเพี้ยนไปจากภาษากายดิจิทัลอีกด้วย เช่น อีโมจิ การใช้จำนวนเครื่องหมาย หรือแม้กระทั่งการเว้นช่วงเวลาก่อนพิมพ์ตอบข้อความ หากผู้ใช้ภาษาเข้าใจบริบทของการสื่อสารทุกรูปแบบ ก็จะทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ หนังสือเล่มนี้ทำให้ผู้อ่านเข้าใจรูปแบบการสื่อสารในโลกออนไลน์ที่หลายครั้งเราก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เราพิมพ์ไปนั้นอาจจะส่งผลให้ผู้รับสารเข้าใจหรือตีความความคลาดเคลื่อนได้เหมือนกัน”

3.การแปลวรรณกรรม

ผู้เขียน : วัลยา วิวัฒน์ศร

สำนักพิมพ์ : อ่าน๑๐๑

“นี่คือคู่มือสำหรับการแปลวรรณกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อแวดวงการแปลอย่างยิ่ง นักแปลและผู้ที่อยากเป็นนักแปลจะได้เห็นตัวอย่างการแปลงานในหลายบริบท รวมไปถึงวิธีคิดเพื่อการสรรคำอย่างถูกต้องเหมาะสมตามบริบทของภาษาและวัฒนธรรม นอกจากนั้นแล้วยังทำให้ผู้อ่าน (ที่แม้ว่าไม่ได้คิดจะเป็นนักแปล) ได้สนุกกับการรับรู้เบื้องหลังงานแปล และที่สำคัญคือได้รู้ว่าการแปลงานไม่ใช่เรื่องง่ายยยยยยย”

ณัฐกร วุฒิชัยพรกุล

สำนักพิมพ์ Words Wonder

เล่มที่แนะนำ :

1.จงทำตัวให้มีประโยชน์

ผู้เขียน : Arnold Schwarzeneger

ผู้แปล : แพรพลอย มหาวรรณ

สำนักพิมพ์ : วีเลิร์น (WeLearn)

“อาร์โนลด์ เป็นดาราที่ใครๆ ก็รู้จัก เคยเป็นผู้ว่ารัฐแคลิเฟอร์เนีย เป็นแชมป์นักเพาะกายโลก ชีวิตเขาประสบความสำเร็จมากมาย เขามี mindset ของการเป็นผู้ชนะ ไม่ยอมเเพ้ และคิดการณ์ใหญ่อยู่เสมอ ไม่เคยคิดเล็ก

ชื่อหนังสือเล่มนี้ทำให้ผมอยากอ่านและอ่านแทบจะรวดเดียวจบ ผมว่ามันตรงกับสิ่งที่ผมอยากเป็นอยู่เสมอ คือเป็นคนที่มีประโยชน์ มีประโยชน์ทั้งต่อตัวเองเเละคนอื่น ผมว่าคนที่ประสบความสำเร็จเป็นแบบนั้น หนังสือเล่มนี้อาร์โนลด์จะสอนว่าทำอย่างไร ถ้าเราทำตามได้ ชีวิตเราจะมีประโยชน์ขึ้นแน่ๆ”

2.ตาผมเป็นต้นเชอร์รี่

ผู้เขียน : Angela Nanetti

ผู้แปล : นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ

สำนักพิมพ์ : อ่านอิตาลี

“นี่เป็นหนังสือวรรณกรรมเยาวชนเล่มเล็กๆ ที่แตะต้องใจผมมาก มันเป็นเรื่องของความรักและความผูกพันในครอบครัว เรื่องของความสูญเสีย การยอมรับมัน และการเดินต่อไป คนที่เราผูกพันด้วย เมื่อเขามาอยู่ในหัวใจของเราแล้ว เขาจะไม่มีวันจากไปถ้าเรายังนึกถึงเขาอยู่ เล่าเรื่องอย่างง่ายๆ แต่งดงามและอบอุ่นเหลือเกิน”

3.เด็กหัวฟู ชตรูฟเฟลเพเทอร์

ผู้เขียน : Heinrich Hoffmann

ผู้แปล : อำภา โอตระกูล

สำนักพิมพ์ : วรรข

“หนังสือเล่มเล็กๆ เล่มนี้ คือนิทานภาพสำหรับเด็กเล่มแรกของโลก ในเล่มประกอบไปด้วยนิทานหลายเรื่อง เล่าเรื่องอย่างง่ายๆ แต่มีเสน่ห์มาก พออ่านไปแล้วผมรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้เหมือนเป็นการ์ตูนแก๊กเล่มแรกของโลก นี่ไม่ใช่นิทานเด็กดี แต่เป็นนิทานเด็กเกรียนที่แต่งมาเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว

ภาพประกอบที่มีมากมายแม้จะดูเก่า แต่มันมีความคลาสสิกและตลกมากอย่างเหลือเชื่อ ความพินาศล่มจมของเด็กเกรียนในแต่ละเรื่องมันบันเทิงมาก ผมไม่แน่ใจว่าถ้าหนังสือเล่มนี้ออกมาในยุคสมัยนี้จะเป็นอย่างไร เดาว่าคงมีดรามาเกิดแน่ๆ เผลอๆ อาจจะโดนแบน หนังสือเล่มนี้เลยพิเศษมากๆ ไม่ใช่เป็นเพียงเป็นหนังสือเด็กที่ไม่น่าจะมีใครกล้าเขียนในสมัยนี้ แต่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์วรรณกรรมเด็กที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง ที่สำคัญที่สุด มันตลกเหลือเกิน อยากให้อ่านมากๆ ครับ”

ภัทรอนงค์ สิรีพิพัฒน์

ร้านหนังสือ Fathom Bookspace

เล่มที่แนะนำ :

1.พิพิธภัณฑ์แห่งผู้เป็นอื่น (The Museum of Other People)

ผู้เขียน : Adam Kuper

ผู้แปล : วรรณพร เรียนแจ้ง

สำนักพิมพ์ : มติชน

“เดินทางเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวของ ‘ผู้เป็นอื่น’ เรื่องเล่าประวัติศาสตร์ของเชื้อชาติ ชนชาติ รัฐชาติที่เป็นคู่ขัดแย้ง และสร้างความเป็นอื่นเหล่านั้นขึ้นมา สู้กันจนกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์

ไม่รู้ว่าความชอบธรรมในการที่ผู้ชนะจะเก็บของไว้คืออะไร แล้วผู้แพ้ที่วนกับปัญหาคอรัปชั่น ทำมิวเซียมไม่เป็น จะเอาของไปเก็บไว้ได้ไหม

ถ้าสนใจเรื่องพิพิธภัณฑ์ เรื่องการจัดการความรู้ ปรัชญา ประวัติศาสตร์ ความเป็นเจ้าของ การต่อสู้แย่งชิงทรัพยากร ความเป็นยุโรป เชื้อชาติ การล่าอาณานิคม ศิลปะ มานุษยวิทยา และการพยายาม centralize เพียงแค่สักประเด็นในนั้นก็สนุกแล้ว

สนุกตั้งแต่เริ่มอ่านคำแปลของ Museum”

2.ห้วงเวลาสุดท้ายของชีวิตอยู่ตรงนี้ (With the end in mind)

ผู้เขียน : Kathryn Mannix

ผู้แปล : วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ

สำนักพิมพ์ : Be(ing)

“บทสนทนาแห่งความสูญเสียนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เป็นจุดนับหนึ่งของกระบวนการที่เราจะต้องใช้เวลาไปทั้งชีวิต เพื่ออยู่ร่วมกับความสูญเสียบนหนทางใหม่”

ปีที่ผ่านมามีหนังสือว่าด้วย ‘ความตาย’ ออกมาให้อ่านกันหลายเล่ม เล่มนี้เป็นงานเขียนจากคุณหมอผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายมากว่า 30 ปี เรื่องราวของการจากลา สูญเสีย เดินทางไกล ของผู้คนหลากหลายที่ช่วยให้เราได้พบเห็นและเรียนรู้ช่วงเวลาล้ำค่าที่จะเกิดกับเราและคนที่เรารักทุกคน

ไม่ใช่หนังสือที่มอบรอยยิ้ม แต่มอบความจริง การเขย่าเขยื้อนภายในให้เรา”

3.ติดบ้าน (Daheim)

ผู้เขียน : Judith Hermann

ผู้แปล : นันทนา อนันต์โกศล

สำนักพิมพ์ : Library House

“วรรณกรรมร่วมสมัยจากเยอรมนี ที่อ่านแล้วไม่ได้พบว่าตัวละครมีชีวิตที่ดีพิเศษอะไร โดดเดี่ยว หลงทาง ถูกคนที่ควรจะรักที่สุดทำร้าย ผ่านวัยเยาว์มาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว แต่กลับกลายเป็นว่า ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งรู้สึกถึงความอบอุ่นงดงาม

เรื่องเล่าถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเป็นสาวโรงงานผู้เกือบได้ล่องเรือไปสิงคโปร์ เธอเลือกเส้นทางอื่น แล้วกลายเป็นแม่ของลูกคนหนึ่งที่อยุ่ห่างไกล เดินทางไปอยู่ในที่ที่คิดว่าคงจะเป็นบ้าน และเริ่มชีวิตใหม่ กับผู้คนรอบตัวใหม่ๆ

นิยายที่อ่านแล้วทิ้งตะกอนไว้ให้ใคร่ครวญ และโอบรับชีวิต ไปกับตัวละครที่พยายามใคร่ครวญ มองหา มองเห็นว่าตัวเองเป็นใคร และติดอยู่ในอะไร”

สถาอนันท์ สุขเกษม

โครงการจัดพิมพ์คบไฟ

เล่มที่แนะนำ :

1.แสงสว่าง ปัญญา และการลงทัณฑ์ – ประวัติความคิดฝรั่งเศส

ผู้เขียน : พิริยะดิศ มานิตย์

สำนักพิมพ์ : สมมติ

“เนื่องจากหนังสือเล่มนี้ เป็นเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในฝรั่งเศส ประเทศที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ น่าสนใจในกระบวนการที่จะเปลี่ยนความจงรักภักดีที่มืดบอดเป็นการยึดมั่นในเหตุผล ประเทศเขามีวิธีการเปลี่ยนได้อย่างน่าสนใจ ถือเป็นการเติมแรงบันดาลใจให้ผู้คนที่สิ้นหวังในประชาธิปไตยไทยในยุคสมัยนี้”

2.100 แนวคิด มานุษยวิทยาร่วมสมัย

คณะผู้เขียน 21 ท่าน

สำนักพิมพ์ : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร

“เป็นหนังสือที่เสริมสร้างแนวคิดที่ช่วยให้เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ในโลกปัจจุบันตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงปัญหาวิกฤตของโลก ด้วยการศึกษาจากทฤษฎีกว่า 100 แนวคิด และการลงสนามจริง ไม่ง่ายที่่รวบรวมผู้เขียนที่ศึกษาด้านมานุษยวิทยาที่สำคัญมา 21 ท่านเช่นนี้”

3.เหตุการณ์เอเชียพลิกโลก ศตวรรษที่ 20 เล่ม 1 (1900-1920)

ผู้เขียน : พรพรหม พิชชานันท์

สำนักพิมพ์ : โนเบิ้ลบุ๊คส์

“เป็นหนังสือที่ทำความเข้าใจเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในเอเชียระหว่างปี 1900-1920 ซึ่งเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สังคม และวัฒนธรรมที่สำคัญ เช่น สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น จนถึงการเกิดขึ้นของลัทธิชาตินิยมที่ส่งผลต่ออนาคตของหลายประเทศ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาประวัติศาสตร์และความเป็นมาของเอเชียในมุมมองที่ครอบคลุมและลึกซึ้ง”

อัคคณัฐ ชุมนุม

ร้านหนังสือ Book time

เล่มที่แนะนำ :

1.มื้อเช้ากับมอนสเตอร์

ผู้เขียน : Fushino Michiru (ฟุชิโนะ มิจิรุ)

ผู้แปล : ปาวัน การสมใจ

สำนักพิมพ์ : Page Publishing

2.มุมมองนักอ่านพระเจ้า

ผู้เขียน : sing N song

ผู้แปล : 8 hours

สำนักพิมพ์ : Levon

3.บริษัท จัดหาความตาย ไม่จำกัด

ผู้เขียน : Ten Furuta (เท็น ฟุรุตะ)

ผู้แปล : สกล วนสุทรี

สำนักพิมพ์: LUMi

ณัฐดนัย เลิศชัยฤทธิ์, ฐานิสร ปั้นขาว

และณัฐฐากานต์ ศักดิ์กิตติภูมิ

สำนักพิมพ์ Live Rich

เล่มที่แนะนำ :

1.สู้ดิวะ

ผู้เขียน : กฤตไท ธนสมบัติกุล

สำนักพิมพ์ : KOOB

“เป็นหนังสือที่ให้พลังบวก จากมุมมองของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ช่วยให้คนทั่วไปที่ร่างกายปกติแข็งแรงดีได้มองเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ ถือว่าเป็นเล่มที่ทำให้เราได้หยุดคิดและทบทวนเกี่ยวกับตัวเองด้วยมุมมองที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น”

2.The Museum of Other People พิพิธภัณฑ์แห่งผู้เป็นอื่น

ผู้เขียน : Adam Kuper

ผู้แปล : วรรณพร เรียนแจ้ง

สำนักพิมพ์ : มติชน

“เมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนเราหลุดเข้าไปในยุคล่าอาณานิคม ได้เห็นความเป็นมาของสิ่งของสำคัญที่ตั้งอยู่ตามพิพิธภัณฑ์ทั่วโลก สิ่งของบางชิ้นเรามองข้าม แต่กลายเป็นว่าพอไปตั้งอยู่ที่ประเทศหนึ่งกลับเป็นเรื่องราวที่สามารถสร้างบาดแผลให้อีกประเทศหนึ่งที่เป็นเจ้าของที่แท้จริง”

3.ใครสักคนที่จะรักทั้งเมื่องดงามและยามพังทลาย Someone Who Will Love You in All Your Damaged Glory

ผู้เขียน : Raphael Bob-Waksberg

ผู้แปล : ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี

สำนักพิมพ์ : Biblio

“ได้เรียนรู้จากผู้เขียนว่าต่อให้เราเว้าแหว่งและพังทลายเพียงไหน เราก็แค่ต้องการให้ใครสักคนมารักเราในยามที่เรารักตนเองไม่ไหว อีกอย่างที่ชอบเพราะเนื้อเรื่องได้อ้างอิงถึงสังคมยุคปัจจุบัน จิกกัดอย่างออกรส บางส่วนในเล่มที่ส่วนตัวอินก็คือพาร์ทความโรแมนติก เช่น ประโยค “บางทีฉันรู้สึกเหมือนกับว่า ไม่ต้องบอกอะไรเธอเลย เพราะฉันรู้สึกว่าเวลาเธอมองฉัน เธอสามารถมองเห็นทุกอย่าง” รู้สึกว่ามันโรแมนติกดี”

ยสวัสร์

สำนักพิมพ์ชี้ดาบ

เล่มที่แนะนำ :

1.Dying To Be Me ตัวตนใหม่จากลมหายใจสุดท้าย

ผู้เขียน : Anita Moorjani

ผู้แปล : สมสิทธิ์ อัสดรนิธี

สำนักพิมพ์ : OMG

“หนังสือที่พูดถึงการข้ามผ่านความกลัวอะไรบางอย่าง ผ่านการทำความเข้าใจโรคร้ายความตาย ทำให้ย้อนกลับมาเจอคุณค่า ประสบการณ์ การรับรู้ และการกลับมาเข้าใจตัวเอง เป็นหนังสือที่ผมเจอโดยบังเอิญ และพบว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับอะไร ในทางเดียวกันมันก็ทำให้รู้ว่ากำลังทำสิ่งนี้ (ชี้ดาบ) ไปเพื่ออะไร”

2.2475 นักเขียนผีแห่งสยาม

ผู้เขียน : สะอาด และพชรกฤษณ์ โตอิ้ม

สำนักพิมพ์ : ด้วงคอมิกส์

“ตัวเล่มเป็นลายเส้นของสะอาดที่เป็นนักเขียนไทยที่ผมเคยชอบตั้งแต่เล่มแรกของเขา พอมาเขียนหนังสือสายการเมืองที่เขาสนใจ มันทำให้เนื้อหาออกมาสนุกแล้วก็ละเอียดลึกซึ้งมากๆ”

3.เผาผลาญ (Burn)

ผู้เขียน : Patrick Ness

ผู้แปล : กานต์สิริ โรจนสุวรรณ

สำนักพิมพ์: Words Wonder

“เป็นเล่มที่อ่านยากเล่มนึงเลยสำหรับผม แต่ตัวเนื้อเรื่องมีทั้งการจินตนาการว่าถ้ามังกรอยู่ร่วมกับมนุษย์จะเป็นยังไง แล้วยังมีเนื้อหาประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ด้วย”

นำชัย ชีววิวรรธน์

สำนักพิมพ์กาลาปากอส

เล่มที่แนะนำ :

1.กินไกลบ้าน: เรื่องเล่าขานร้านอาหารรอบโลก

ผู้เขียน : William Sitwell

ผู้แปล : ปิยบุตร หล่อไกรเลิศ

สำนักพิมพ์ : มติชน

“ครบเรื่องมีทั้งประวัติศาสตร์ มุมมอง แนวคิด ธรรมเนียม และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกสารพัดเกี่ยวกับอาหารการกิน ‘นอกบ้าน’ ตั้งแต่จักรวรรดิโรมัน ออตโตมัน อังกฤษยุคกลาง ฝรั่งเศสยุคปฏิวัติ ไล่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน”

2.เคน ฮอม: ชีวิตกระทะ วาทะตะหลิว

ผู้เขียน : Ken Hom

ผู้แปล : ภาณุ บุรุษรัตนพันธุ์

สำนักพิมพ์ : Gallery Publishing

“เคน ฮอม มีชีวิตที่น่าสนใจ เส้นทางการเป็นเชฟดังจากรายการโทรทัศน์ที่ทำกับ BBC ก็น่าสนใจมาก เป็นอีกตัวอย่างของคนประสบความสำเร็จที่ต้องทั้งเก่งและเฮง ในเล่มมีสูตรอาหารทำง่ายๆ ได้ด้วยตนเองด้วย”

3.Before Becoming the Buddha เล่ม 1-2

ผู้เขียน : ADISAK DAS PONGSAMPAN (อดิศักดิ์ พงศ์สัมพันธ์)

สำนักพิมพ์ : Steak Comic

“ลายเส้นวิจิตรมาก จับความตอนพระพุทธเจ้าออกผนวชและทำความเพียรเพื่อตรัสรู้”

อนรรฆ พิทักษ์ธานิน

สำนักพิมพ์เคล็ดไทย

เล่มที่แนะนำ :

1.รถไฟขนเด็ก (Il treno dei bambini)

ผู้แต่ง : Viola Ardone

ผู้แปล : นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ

สำนักพิมพ์ : อ่านอิตาลี

“นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ความยาวไม่มากนักเล่มนี้ ไม่แต่เพียงแต่ให้ภาพช่วงเวลาสั้นๆ ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ของอิตาลีได้อย่างน่าสนใจเท่านั้น หากแต่การเดินเรื่องผ่านเด็กชายคนหนึ่งที่สัมพันธ์กับครอบครัวและชีวิตรอบข้าง ยังทำให้เราซึมซาบความรู้สึกแห่งยุคสมัย ทั้งความอัตคัด ข้นแค้น ความโดดเดี่ยว และความลาจากได้อย่างลงลึก”

2.เขตคลองมองเมือง

ผู้เขียน : บัณฑิต จุลาสัย, รัชดา โชติพานิช

สำนักพิมพ์ : มติชน

“เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกพัดพาไปในอดีตของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ที่มาที่ไปของสถานที่ พื้นที่ สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ผ่านแผนที่และงานเขียนที่ระบุถึงอดีต ซึ่งปัจจุบันต่างถูกลบเลือนไป เมื่ออ่านจบในแต่ละบท แต่ละตอน ก็ชวนให้เปิดแผนที่ปัจจุบันเทียบ หรือระลึกถึงเมื่อเดินทางผ่านพื้นที่แต่ละแห่งว่าเต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งอดีต”

เสกข์ศิลป์ ศรีสุขสันต์

สำนักพิมพ์อ่านอิตาลี

เล่มที่แนะนำ :

1.วิญญาณที่ตายแล้ว

ผู้เขียน : N. V. Gogol

ผู้แปล : อติภพ ภัทรเดชไพศาล

สำนักพิมพ์ : บทจร

“เป็นงานวรรณกรรมที่เสียดสีสังคมอย่างแสบสัน ในมิติของความตื้นเขิน ฉ้อฉล และปลอมเปลือกของผู้คนในระบบราชการเชิงชนชั้นที่ให้ความสำคัญกับสิ่งตื้นเขินอันจอมปลอม การผจญภัยของชิชิคอฟในนรกแห่งคนอื่นจึงเป็นการนำเสนอภาพของผู้คนในระบบดังกล่าวที่อาศัยที่พยายามจะยกตัวขึ้นไปเหนือช่องว่างแห่งชนชั้น ชิชิคอฟและการซื้อรายชื่อทาสในรูปแบบวิญญาณที่ตายแล้วจะพาเราไปพบกับความน่าขันของผู้คนต่างๆ ประเภท ซึ่งเรามักจะพบเจอ (และมักจะหลีกเลี่ยง) ในชีวิตจริง พร้อมกับให้เราลุ้นถึงจุดจบของผู้ที่ฉกฉวยผลประโยชน์จากช่องว่างทางกฎหมายของระบบ (ซึ่งปกติก็มักจะได้ดี) ถึงแม้ว่าจะเป็นงานวรรณกรรมจากศตวรรษที่ 19 การเดินทางในนรกอันตื้นเขินนี้ยังสะท้อนภาพความฉ้อฉลและตื้นเขิน และยังคงมีพลังที่จะทำให้เราหงายเงิบเพราะความชวนหัวอันขมขื่นในปัจจุบัน”

2.โลกไร้โฟกัส Stolen Focus: Why You Can’t Pay Attention

ผู้เขียน : Johann Hari

ผู้แปล : ฐณฐ จินดานนท์

สำนักพิมพ์ : Bookscape

“หลายครั้งเกินไปมาก ที่ผมควรจะทำงานหรืออ่านหนังสือให้จบ แต่พบว่าตัวเองนั่งดูคลิปแมว ไถฟีดอินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และนานาแอปมาแล้วหลายชั่วโมง ผมก็ได้แต่โทษตัวเองว่าสมาธิเสียเพราะจอและปฏิญานตนว่าจะไม่ทำซ้ำอีกในวันพรุ่ง ซึ่งแน่นอนว่าไม่สำเร็จ หนังสือเล่มนี้เชิญชวนให้เรากลับมาสืบเสาะต้นตอของสมาธิของเราที่หายไป สิ่งที่น่าสำคัญคือข้อเสนอของหนังสือเล่มนี้ไปไกลกว่าหนังสือฮาวทูใดๆ ที่จะบอกให้เราไปนั่งสมาธิเล่นโยคะหรือออกไปปลูกผักในสวน

ข้อเสนอที่สำคัญในหนังสือเล่มนี้คือ สมาธิของเราที่หายไปเป็นผลจากการทำงานอย่างเป็นระบบขององค์ประกอบต่างๆ ของทุนนิยมดิจิทัล ซึ่งพยายามจะก่อกวนสมาธิเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินโดยการก่อกวนและยั่วโมโหให้เราอยู่กับหน้าจอให้มากที่สุด หนังสือเล่มนี้ยังอภิปรายถึงต้นตออื่นๆ ของภาวะสมาธิสั้นที่กำลังระบาดในสังคมอีก ซึ่งครอบคลุมถึงเรื่องของความเครียดที่เกิดจากปัจจัยแวดล้อม อาหารที่เปลี่ยนไป และมลภาวะ

โลกไร้โฟกัสเสนอภาพของภัยพิบัติใหม่แห่งการสูญเสียสมาธิในระดับโลกซึ่งกำลังจะแรงขึ้นและเร็วขึ้นในยุคหลังโควิดที่ผ่านมา หนังสือเล่มนี้เสนอภาพอันน่ากลัวที่ครบถ้วนเพื่อให้เข้าใจได้ว่าปัญหาสมาธิไม่ได้เป็นแค่เรื่องของปัจเจก แต่เป็นปัญหาในระดับสังคมมนุษย์ที่จะต้องอาศัยความร่วมมือของผู้คนจำนวนมากในการผลักดัน”

3.ความเปลี่ยวดายอันกึกก้องเกินต้าน

ผู้เขียน : Bohumil Hrabal

ผู้แปล : วริตตา ศรีรัตนา

สำนักพิมพ์ : bookmoby press

“วรรณกรรมชิ้นนี้เล่า (อันที่จริงคือพล่าม) เรื่องราวของฮัญจา คนงานอัดขยะกระดาษที่มีหน้าที่ทำลายหนังสือถูกทิ้งในสมัยที่รัฐพยายามที่จะเซนเซอร์และทำลายหนังสือและงานศิลปะ เราจะได้ยินเสียงอันเดียวดายของฮัญจาผู้ถูกบดขยี้ไปพร้อมกับหนังสือ สะท้อนผ่านการใช้อำนาจของรัฐในการกำกับการทำลายล้างความคิดและจิตวิญญาณของผู้คน หนังสือเล่มนี้ชวนให้เราคิดถึงเรื่องพื้นฐานที่สุดของหนังสือ ตั้งแต่กระบวนการสร้าง/ทำลาย เสรีภาพในการเข้าถึงความรู้ของผู้คน ตลอดจนถึงความเป็นอมตะของความรู้ซึ่งทำลายไม่ได้ และยังชวนให้เราคิดถึงเทคโนโลยีในฐานะจักรกลที่พร้อมจะทำลายสุนทรียะของการทำงาน ฮัญจาเป็นดั่งซิซิฟัสของกามูซึ่งทำงาน ทำงาน ทำงานวันแล้ววันเล่า โดยมีหนังสือเป็นความหมายเล็กๆ ในชีวิตของมนุษย์ผู้เปลี่ยวดายคนหนึ่ง

วรรณกรรมเล่มนี้จึงเป็นความหมายเล็กๆ ให้กับผู้ที่ฝักใฝ่ในความคิดและความรู้ในยุคสมัยแห่งความตื้นเขินที่รัฐพยายามจะกำกับศีลธรรมอันดีให้กับงานวิจัย ยุคที่เหล่างาน ‘ขึ้นหิ้งไร้ประโยชน์’ ทั้งหลายจะถูกกวาดลงเครื่องบดขยะ ในนามของความเจริญก้าวหน้า”

รัฐวรรณ พัฒนรัชตอดุล

สำนักพิมพ์ Cactus Publishing

เล่มที่แนะนำ :

1.Prisoners of Geography: อ่านภูมิรัฐศาสตร์โลกจากอดีตสู่อนาคตผ่าน 10 แผนที่

ผู้เขียน : Tim Marshall

ผู้แปล : คุณากร วาณิชย์วิรุฬห์

สำนักพิมพ์ : Bookscape

“เป็นหนังสือที่ไม่อยากอ่านให้จบ อารามหวงของกินที่ชอบเอาไว้กินตอนสุดท้าย ผู้เขียนเขียนสนุกมาก เขียนเก่งสมมงนักข่าว อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงความจิกกัดกับความแสบเหลือร้าย และน่าจะเกิดจากการแปลที่ดีมากด้วยเช่นกัน เหนือไปกว่าเรื่องที่เข้าใจง่าย นึกภาพออก สำนวน และอรรถรสแล้วนั้น หนังสือเล่มนี้ทำให้เราเข้าใจประเด็นต่างๆ ระดับชาติและขยายเป็นวงระดับโลกมากขึ้นจริงๆ คนที่ไม่มีความรู้มาก่อนอ่านแล้วก็เข้าใจได้ ไม่งง อาจจะมีบางบทที่ไกลตัวคนไทยไปหน่อย ซึ่งหากไม่มีพื้นหรือไม่เข้าใจมาก่อน ก็มีโอกาสเกิดการเปิดข้ามได้ เสียดายส่วนที่เป็นเรื่องเกาหลีและญี่ปุ่นน้อยไปหน่อย (เป็นความชอบและความสนใจส่วนตัวที่มีต่อสองประเทศนี้) แนะนำเป็นอย่างมากถ้าคุณคือคนหนึ่งที่สนใจความร้อนระอุของมุมต่างๆ ของโลก”

2.ตัวสำรอง (SPARE)

ผู้เขียนเงา : J. R. Moehringer

เจ้าของเรื่อง : เจ้าชายแฮร์รี่

ผู้แปล : ณัฐวุฒิ แสงชูวงษ์

สำนักพิมพ์ : sophia

“เป็นเมมมัวร์ที่หยิบมาอ่านเพราะติดตามข่าวคราวของราชวงศ์อยู่แล้ว และอยากรู้มุมมองของลูกคนเล็กบ้าง นักเขียนเงาเขียนสนุกดี ภาษาต้นฉบับ และภาษาบทแปลที่ใช้ก็มีจริตนิดๆ สนุกกว่าตอนอ่านงานของวอลเตอร์ ไอแซกสัน ที่เคยเขียนให้คนดังหลายคนอยู่

ในหนังสือแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ๆ เชื่อว่าส่วนสุดท้ายที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเมแกน มาร์เคิล น่าจะเป็นส่วนที่หลายคนอยากรู้ที่สุดแล้ว ซึ่งหลังจากอ่านจบ เรารู้สึกสงสารแฮร์รีอยู่ในทีนะ (แม้หลายคนจะวิพากษ์กันไปต่างๆ นานา) ที่เขาไม่ยอมรับความจริงว่าแม่ตัวเอง (ไดอาน่า) ไม่ได้อยู่ข้างๆ เขาแล้วในทางกายภาพ และกว่าแฮร์รีจะยอมรับเรื่องนี้ได้ก็…นานโข ทั้งยังเรื่องอื่นๆ ในชีวิตอีก ไม่ว่าจะเรื่องพ่อที่ยังคงรักกับคนรักเก่าก่อนมาแต่งงานกับแม่ เรื่องชีวิตรักของตนที่ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริงได้นอกจากตัวเขาเท่านั้น

อ่านเล่มนี้จบก็คิดนะว่า จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นใคร ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ก็มีหัวจิตหัวใจอยู่ดี เพราะฉะนั้นอย่าตัดสินใครเลย…”

3.ระเบียงพักใจ สายใยผูกพัน เล่ม 2

ผู้เขียน : Kaori Tsurutani

สำนักพิมพ์ : PHOENIX

“เล่มนี้เป็นเล่มที่สอง ว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสูงวัยและเด็กสาวมัธยมที่บังเอิญมาเป็นเพื่อนกัน วันหนึ่งหญิงสูงวัยจับพลัดจับผลูอ่านมังงะวายติดใจขึ้นมา แต่…คนเขียน (อย่างที่เราๆ รู้) กว่าจะออกเล่มหนึ่งก็โน่น รอไปเป็นปี แล้วคุณยายจะมีเวลาได้อ่านจนจบมั้ยล่ะเนี่ย

เรื่องราวระหว่างนี้เป็นฟีลแบบต่างวัยต่างซัปพอร์ตกันไปโดยไม่รู้ตัว ตัวละครมีความเป็นธรรมชาติมากๆ และโบ๊ะบ๊ะเด๋อด๋าดี อ่านแล้วทำให้รู้สึกใจฟู ขำบ้าง สรุปคือฟีลกู้ด อย่างน้อยๆ ถ้าคุณไม่มีเป้าหมายใหญ่ๆ ในชีวิตแล้ว ลองหาเป้าหมายเล็กๆ จิ๋วๆ แบบคุณยายคนนี้ก็ได้นะ เพราะแกบอกว่า แกจะมีชีวิตอยู่เพื่ออ่านมังงะวายเล่มต่อๆ ไปของคนเขียนเขาละ”

กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์เวลา

สำนักพิมพ์เวลา

เล่มที่แนะนำ :

1.ฉลาดสัตว์สัตว์: เปิดโลกปัญญาสัตว์นอกกรอบความฉลาดของมนุษย์

ผู้เขียน : Frans de Waal

ผู้แปล : ปณต ไกรโรจนานันท์

สำนักพิมพ์ : Bookscape

“เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการทดลองซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจทั้งด้านความสามารถ การรับรู้ การวางแผนแก้ปัญหา และการแสดงออกทางพฤติกรรมทางสังคมของสัตว์ที่น่าทึ่ง ทั้งเรื่องความมีน้ำใจ ความเอื้อเฟื้อ การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ในแง่มุมทั้งหมดนี้ก็ทำให้สัตว์แทบจะไม่แตกต่างจากมนุษย์”

2.วรรณาคดี: อัตชีวประวัติของวรรณา ทรรปนานนท์

ผู้เขียน : ศรีดาวเรือง

สำนักพิมพ์ : อ่าน

“เล่าเรื่องราวชีวิตที่ต้องต่อสู้ ดิ้นรน และผกผัน ทั้งหมดนี้เป็นต้นทุนในงานเขียนที่สร้างสรรค์ มีเอกลักษณ์และสะท้อนชีวิตในสังคมไทย ทำให้ศรีดาวเรืองเป็นนักเขียนหญิงที่ทรงคุณค่ามีผลงานต่อเนื่องยาวนานกว่า 50 ปี”

3.เรื่องเล่าพิสดารของเหล่าเด็กสาวผู้ถอดกระดูก

ผู้เขียน : Hajime Shimizu (ฮาจิเมะ ชิมิซุ)

ผู้แปล : ฉัตรขวัญ อดิศัย

สำนักพิมพ์ : prism

“นิยายสืบสวนญี่ปุ่นที่มีครบทั้งสืบสวน แอคชัน และความสัมพันธ์ของตัวละครที่ค่อยๆ พัฒนา ผสมผสานกับเรื่องราวพื้นบ้าน ทำให้ชวนติดตามและวิธีการเขียนได้สนุก จูงใจให้อยากรู้บทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดและความลับบนเกาะแห่งนี้”

อุทิศ เหมะมูล

สำนักพิมพ์จุติ

เล่มที่แนะนำ :

1.ลาร์มินูตา (L’ Arminuta)

ผู้เขียน : Donatella Di Pietrantonio

ผู้แปล : นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ

สำนักพิมพ์ : อ่านอิตาลี

“หลายครั้งงานวรรณกรรมที่ดีมักมีอุปสรรคต่อการเล่าเรื่องราวออกมาให้รู้เรื่องและน่าสนใจ สำหรับผม ลาร์มินูตา ก็เช่นเดียวกัน เรื่องราวของเด็กสาวซึ่งมีแม่สองคน คนหนึ่งให้กำเนิดเธอในครอบครัวยากจน อีกคนเลี้ยงดูเธอในครอบครัวมีฐานะ แต่เมื่อถึงวันเวลาหนึ่ง ลาร์มินูตาถูกส่งกลับคืนครอบครัวเดิม เผชิญกับภาวะเปลี่ยนแปลงทั้งทางสภาพแวดล้อมและทางอารมณ์ก่อนวัย 15 ปี นี่จึงเป็นเรื่องเล่าของการเรียนรู้ ข้ามผ่านสู่การเติบโตของเด็กสาว ที่รับมือกับบาดแผลทางใจได้อย่างงดงาม เป็นชัยชนะของความทรงจำที่ผู้ประพันธ์เขียนออกมาได้อย่างลึกซึ้งงดงามยิ่ง (ที่เขียนมานี่ก็อ่านไม่รู้เรื่องใช่ไหมครับว่ามันเกี่ยวกับเรื่องอะไร ต้องอ่านเองครับ)”

2.จำจากจร

ผู้เขียน : Alice Munro

ผู้แปล : อรจิรา โกลากุล

สำนักพิมพ์ : บทจร

“ชอบภูมิทัศน์ในงานเรื่องสั้นของแอลิซ มันโร วิธีที่เราอ่านเรื่องสั้นมันเหมือนเรามองออกไปกว้างๆ กวาดไปตามพื้นที่และภาพชีวิตของตัวละครในแต่ละเรื่อง ชีวิตของตัวละครคือภูมิทัศน์อันแยกย่อย ละเอียด และซับซ้อนจนใช้เวลาในการเดินเข้าไปสำรวจเรื่องเล่า เรื่องสั้นต่างๆ มีกาลเวลาเป็นกรอบสำคัญ และใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตของตัวละครในการเล่าประสบการณ์หนึ่งออกมาอย่างละเอียดลึกและละเมียดละไม ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูคล้ายจะเยือกเย็นและเย็นชาของแคนาดา

ทุกเรื่องให้เวลาของการผันเปลี่ยนและเติบโตของตัวละคร จึงไม่แปลกที่เรื่องสั้นของมันโรจะอ่านแยกชิ้นหรืออ่านแบบนิยายก็ได้ หลายเรื่องเล่าต่อเนื่องกันไปถึงภาพชีวิตตัวละครตั้งแต่แรกเกิด เป็นวัยรุ่น และตายจาก ปล่อยให้คนอ่านได้รับรสการรับมือกับความยุ่งยากของการมีชีวิตในแต่ละช่วงได้อย่างรวยรส”

3.เพราะเราต่างขาดพร่อง: การเมืองเรื่องเอนจอยเมนต์

ผู้เขียน : สรวิศ ชัยนาม

สำนักพิมพ์ : B&B Press

“ข้อเสนอเรื่องความปรารถนาและเอนจอยเมนต์ของอุดมการณ์ทางการเมืองที่เขียนให้เข้าใจได้ง่าย เป็นการสังเคราะห์และชำแหละปรากฏการณ์ทางสังคมโดยใช้อารมณ์ความรู้สึกทางจิตวิทยาเข้ามาอรรถาธิบายสิ่งที่มีความแข็งทื่อ ไร้ความรู้สึก อย่างสภาพเศรษฐกิจ การปกครอง สังคมการเมือง ซึ่งโดยตัวมันเองมักอาศัยวาทกรรมปฏิเสธความเป็นการเมืองเสมอๆ ได้อย่างรุ่มรวยและเปี่ยมจินตนาการ หนังสือเล่มนี้ช่วยกระตุ้นความสร้างสรรค์ทางความคิด ไม่ให้ย่ำย้ำอยู่กับที่ ปฏิเสธการตกหล่ม”

ติดตามรายชื่อหนังสือ Top Highlights – หนังสือที่ได้รับการแนะนำมากที่สุดจากคนในแวดวงหนังสือประจำปี 2024 เร็วๆ นี้

:: ความน่าจะอ่าน ขวัญใจมหาชน 2024 ::

ขอเชิญนักอ่านทุกท่าน ร่วมสนุกกับกิจกรรม ‘ความน่าจะอ่าน ขวัญใจมหาชน’ เพื่อค้นหาหนังสือยอดนิยมประจำปีนี้ ที่ช่วยเปิดโลกใบใหม่ ไปพร้อมๆ กับเยียวยาหัวใจให้นักอ่าน

ทั้งเปิดโลกแห่งความรู้และโลกแห่งจินตนาการ ทั้งเติมพลังให้ผ่านความสนุกสนาน ลีลาภาษาอันน่าประทับใจ – ไม่ว่าหนังสือขวัญใจของคุณเป็นแบบไหน มาแนะนำหนังสือเล่มโปรดพร้อมความในใจได้ที่ : https://bit.ly/popularvote2024

กติกา

1. โหวตหนังสือที่คุณคิดว่า ‘น่าอ่าน’ ที่สุดแห่งปี จำนวน 1 เล่ม โดยต้องเป็นหนังสือที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ของไทย ตีพิมพ์ภายในปี 2566-2567 (เป็นฉบับพิมพ์ซ้ำก็ได้) และไม่จำกัดประเภทหนังสือ

2. เขียนเหตุผลสั้นๆ ว่าทำไมจึงเลือกหนังสือเล่มนี้

เจ้าของความเห็นถูกใจทีมงาน จะได้รับเซ็ตหนังสือ Top Highlights – หนังสือที่ได้รับการแนะนำจากสำนักพิมพ์ บรรณาธิการ ร้านหนังสือ รวมถึงนักวาดภาพประกอบ ของโปรเจกต์ความน่าจะอ่าน 2024 จำนวน 1 ชุด (จำกัด 1 รางวัล)

โหวตได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...