โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

โป่ง เป็นมากกว่าแค่แหล่ง แร่ธาตุ ถือว่าเป็นจุดเชื่อมโยงทาง ธรรมชาติ

อีจัน

อัพเดต 27 ม.ค. 2565 เวลา 10.19 น. • เผยแพร่ 27 ม.ค. 2565 เวลา 10.19 น. • อีจัน

จันคิดว่าสังคมดีชุมชนเป็นสุขบางทีอาจกล่าวได้ถึง ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ระบบนิเวศที่เข้มแข็ง แต่จะเกิดขึ้นได้ คนเราก็มีส่วนร่วมโดยตรงที่ต้องอนุรักษ์ธรรมชาติ อุ้มชูดูแลปกปักษ์รักษา เพื่อให้ธรรมชาติหมุนเวียนไปในรูปแบบที่ควรจะเป็น

โป่ง (Mineral lick/salt lick)

คือ บริเวณหรือพื้นที่เฉพาะที่มีการสะสมของแร่ธาตุ จากกระบวนการกัดเซาะ ชะล้างแร่ธาตุรวมกันในดินหรือน้ำ ซึ่งส่งผลให้เกิดโป่งธรรมชาติ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ โป่งดินและโป่งน้ำ โป่งดินมักพบกระจายบริเวณที่ราบและตลิ่งริมลำธาร ส่วนโป่งน้ำพบตามบริเวณน้ำที่ไหลผ่านหินปูนหรือน้ำใต้ดินโดยมีน้ำแช่ขังอยู่บนผิวดิน และบางแห่งเป็นน้ำพุจากใต้ดิน สัตว์ป่าหลายชนิดทั้งนกและสัตว์เลี้ยงลูกนมเข้ามาใช้ประโยชน์ ด้วยการกินก้อนดินหรือน้ำจากโป่งโดยตรง

กวาง มากินโป่งเทียม
โป่งธรรมชาติ

สิ่งสำคัญของโป่ง ?

  • โป่งเป็นแหล่งแร่ธาตุเสริมให้แก่สัตว์ป่า เนื่องจากแร่ธาตุจากพืชและน้ำในระบบนิเวศบางแห่งอาจมีไม่เพียงพอ หรือมีปริมาณต่ำในบางฤดูกาล

  • ดินโป่งช่วยให้ระบบย่อยอาหารมีความสมดุล เนื้อดินที่สัตว์กินพืช กินเข้าไปจากโป่งในกลุ่มแร่ดินเหนียว (Clay minerals) ช่วยให้ลำไส้ของสัตว์ย่อยอาหารได้ดีขึ้น

  • โป่งเป็นแหล่งชุมนุมของสัตว์กินพืช ซึ่งเป็นเหยื่อของผู้ล่า ดังนั้นโป่งจึงเป็นแหล่งที่มีเหยื่อชุกชุม ซึ่งผู้ล่าภายในป่าใช้เป็นแหล่งดักซุ่มเพื่อล่าเป็นอาหาร อีกนัยนึงเป็นเหมือนจุดสมดุลของป่า

โป่งธรรมชาติ

วัสดุอุปกรณ์ เพื่อ ทำโป่งเทียม

- จอมปลวก (สามารถหาได้ในท้องทุ่งนาตามธรรมชาติที่มีขนาดเหมาะสม)

- แร่ธาตุผงสำเร็จรูป (สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์ทั่วไป) จำนวน 1 ถุง ต่อ 1 โป่งเทียม

- เกลือทะเลเม็ดใหญ่ หรือ เกลือแกง พอประมาณ

- น้ำสะอาด พอประมาณ

- รำอ่อน พอประมาณ

ส่วนผสมจัดทำโป่งเทียม

สูตรที่ 1: เกลือแกง 20 กิโลกรัม: ไดแคลเซียมฟอตเฟต 10 กิโลกรัม

สูตรที่ 2: เกลือแกง 40 กิโลกรัม: ไดแคลเซียมฟอตเฟต 20 กิโลกรัม

ดิน: ที่ปริมาตร กว้าง 2 x ยาว 3 x ลึก 0.5 เมตร เท่ากับ 3 ลูกบาศก์เมตร หรือ 3 คิว

ใช้ได้ทั้งสองอัตราส่วนที่เคยทดลอง โดยปริมาณความเข้มข้นของโซเดียมต่อแคลเซียม ใกล้เคียงกับสัดส่วนและความเข้มข้นในโป่งธรรมชาติที่ประมาณโซเดียมต่อแคลเซียม 2:1 และความเข้มข้นของแร่ธาตุทั้งสองอยู่ในช่วงประมาณ 1-10 mg/kg ของน้ำหนักดิน ซึ่งเป็นปริมาณที่พบความเข้มข้นแปรผันในโป่งแต่ละพื้นที่ หากใช้เกลือมากกว่านี้ต้องเพิ่มปริมาณดินเพื่อควบคุมความเข้มข้นให้ไม่เกินช่วงที่กำหนด

วัสดุทำโป่งเทียม

วิธีการขั้นตอน

1.หาจอมปลวกตามขนาดที่ต้องการ ทำการตัด ถากถางต้นไม้ หรือ วัชพืชอื่นๆที่กีดขวางออกให้หมด

2.ใช้จอบขุดตัดปลายจอมปลวกออก ให้เป็นแอ่ง หรือเป็นหลุม ขนาดพอเหมาะสมที่สามารถให้เกลือ แร่ธาตุ และน้ำไหลงถึงด้านล่างได้

3.โรยเกลือลงไปในหลุมจอมปลวกที่ขุดไว้ ในปริมาณที่เหมาะสมให้ทั่วปากหลุม ประมาณ 1-1.5 กิโลกรัม แล้วรดน้ำตามให้ชุ่ม สังเกตให้เกลือไหลลงด้านล่างจอมปลวกให้ทั่ว

4.จากนั้นโรยแร่ธาตุผงที่เตรียมไว้ ทับเกลือที่โรยไว้แล้วให้ทั่วประมาณ 1 1.5 กิโลกรัมต่อหลุม แล้วรดน้ำตามให้ชุ่ม สังเกตให้แร่ธาตุไหลลงด้านล่างจอมปลวกให้ทั่วเช่นกัน

5.จากนั้นโรยเกลือทับอีกครั้งในปริมาณเท่าเดิม แล้วรดน้ำตามให้ชุ่ม

6.โรยรำอ่อนทับเป็นชั้นสุดท้ายบนสุด ประมาณ 1-2 กิโลกรัม กลบปากหลุมให้ทั่ว เพื่อให้รำอ่อนเป็นตัวล่อให้สัตว์มาเลียกินจอมปลวก ที่ทำเป็นโป่งเทียมโป่งนี้เพื่อเสริมแร่ธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกาย

7.โป่งเทียมหนึ่งโป่งสามารถทำไว้ให้สัตว์มาเลียกินได้ต่อเนื่องอย่างน้อย 4-5 เดือน ข้อสังเกตที่จะทำโป่งเทียมใหม่ คือ สัตว์เลิกมาเลียกิน แสดงว่าโป่งเทียมหมดความเค็มและธาตุอาหารหมดแล้วจึงสร้างใหม่อีกครั้งด้วยวิธีการเดิม

จำเป็นต้องทำโป่งเทียมไหม ?

การจัดทำโป่งเทียมดึงดูดสัตว์ป่าเพื่อเพิ่มคุณค่าด้านการศึกษาและอนุรักษ์สัตว์ป่า การทำโป่งเทียมดึงดูดสัตว์ป่าที่บาดเจ็บเพื่อทำการควบคุมรักษา การจัดทำโป่งร่วมกับแปลงพืชอาหารเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์และเพิ่มโอกาสความสมบูรณ์พันธุ์ให้กับสัตว์ป่า ดังนั้นการจัดทำโป่งเทียมเป็นวิธีการเสริมแหล่งอาหารที่สามารถทำได้ ควรมีเป้าหมายที่ชัดเจน และคำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศ การทำโป่งเทียมจิตอาสาที่มีใจอนุรักษ์ส่วนใหญ่มีเป้าหมายเพื่อเสริมแหล่งอาหารและส่งเสริมจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ ซึ่งการจัดทำโป่งเทียมในกรณีนี้

ฝูงหมูป่าออกมาหาอาหาร

สิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อจัดทำโป่งเทียม

พื้นที่ ควรจำกัดปริมาณและพื้นที่ที่จัดทำให้ไม่อยู่ติดชิดขอบป่า หรืออยู่ลึกเข้าไปในถิ่นอาศัยของสัตว์ป่ามากเกินไป เพราะโป่งสามารถเพิ่มโอกาสกระจายโรคระบาดจากการที่โป่งเป็นที่ชุมนุมของสัตว์ป่า

ช่วงเวลาสัตว์ป่ามักเข้าใช้โป่งช่วงหน้าแล้ง และหากเราจัดทำโป่งช่วงหน้าแล้ง อายุการใช้งานจะนานกว่าช่วงหน้าฝน และไม่ควรเสริมโป่งเทียมบ่อยครั้งจนเกินไป เพราะเป็นการรบกวนสัตว์ป่า โป่งเทียมในขนาดที่เหมาะสมตามวิธีการที่นำเสนอ มีอายุการใช้งานราว 4-5 เดือน

ขนาดและปริมาณไม่ควรจัดทำโป่งเทียมเป็นจำนวนมาก หรือกินบริเวณกว้าง ควรกระจายเป็นหย่อมเล็กๆ เพื่อลดผลความเสี่ยงจากความเข้มข้นเกลือที่อาจไหลมาสะสมรวมกัน เพราะเกลือเข้มข้นสูงมีผลกระทบต่อพืช และสัตว์โดยเฉพาะสัตว์สะเทินบกสะเทินน้ำที่มีความอ่อนไหวต่อความเข้มข้นของเกลือ

ผู้คนข้อดีประการหนึ่งของโป่งคือช่วยสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นโอกาสดีในการให้ความรู้เรื่องธรรมชาติและการอนุรักษ์สัตว์ป่า ดังนั้นหากการจัดทำโป่งเทียมสามารถส่งเสริมคุณค่าส่วนนี้เข้าไปได้ ก็น่าจะทำให้ประโยชน์ของการจัดทำโป่งเทียมมีผลบวกต่องานอนุรักษ์สัตว์ป่าเพิ่มขึ้น

อ้างอิง (Ref.)

http://baimai.org/activities/saltlick-2/

https://www.facebook.com/SeubNakhasathienFD/

https://www.facebook.com/DNP1362/posts/2837291099919113

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...