คุณรู้สึกอย่างไรเวลาที่ต้องปฏิเสธใครสักคน? บางคนอาจรู้สึกว่ามันง่ายดายมาก (แต่เราเคยเช็คความสัมพันธ์หลังจากนั้นหรือไม่) บางคนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากเย็นเหลือหลาย (เพราะกลัวผลที่จะตามมาหลังจากการปฏิเสธโดยเฉพาะเรื่องการเสียความสัมพันธ์ ข้อนี้บางคนรู้ตัวบางคนไม่รู้ตัว)
คุณรู้สึกอย่างไรเวลาที่ถูกปฏิเสธ? บางคนรู้สึกดีที่อีกฝ่ายกล้าพูด แต่หลายคนก็รู้สึกไม่ดีกับคนที่ปฏิเสธเรา ถ้าเปรียบการปฏิเสธเป็นคนคนนึง ก็คงจะเป็นคนที่ไม่มีใครอยากจะคบสักเท่าไร แต่ชีวิตที่ไม่มีการปฏิเสธเลยก็พยากรณ์ได้เลยว่าคงเป็นชีวิตที่ทั้งหนักและเหนื่อยเพราะต้องแบกรับอะไรมากมายที่คนอื่นนำมามอบให้
ข้อดีของการปฏิเสธคือ การทำให้ชีวิตมีทางเลือกมากขึ้น การที่งานอาจมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการที่เราไม่ต้องทำในสิ่งที่ไม่ถนัดหรือเกินกำลังจนเกินไป การที่เรามีเวลาทำสิ่งที่ควรทำมากขึ้น การที่ชีวิตมีโอกาสสมดุลมากขึ้น เป็นต้น และที่สำคัญเราอาจมีความสุขมากขึ้นจากการเป็นตัวของตัวเอง
ดังนั้นอาจพูดได้ว่า การที่เรารู้จักปฏิเสธก็เป็นหนทางที่ทำให้เรามีความสุขและประสบความสำเร็จได้อย่างหนึ่ง แต่จะปฏิเสธอย่างไรให้สายสัมพันธ์ไม่เสียหายและเราได้เข้าใจกันมากขึ้น อาจจะต้องเริ่มจาก
1. มีทัศนะคติที่ดีกับการปฏิเสธ (Mindset) : การที่ไม่ชอบหรือไม่กล้าปฏิเสธนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะลึกๆแล้วเราทุกคนต้องการ การยอมรับจากผู้อื่น การปฏิเสธจึงเป็นจำเลยของความกลัวว่าคนอื่นจะไม่ยอมรับเรา ให้เรากลับมาตระหนักใหม่ว่า การไม่ยอมรับกับการปฏิเสธนั้นเป็นคนละเรื่องกัน*
2. ตรวจสอบแรงผลักดันในการปฏิเสธของเราให้ชัดเจน (Drive) : เช่น หัวหน้าของเอิ้นเคยมอบหมายให้หมอเป็นประธานในการตรวจสอบอาคารแทน ทั้งที่การก่อสร้างได้เริ่มไปแล้วมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ และเราไม่ได้ดูแลโครงการนี้ตั้งแต่แรกด้วยเหตุผลที่ว่า ตำแหน่งของเราสูงกว่าคนอื่น ที่มีประสบการณ์มากกว่าทีม
แรงขับในการปฏิเสธคือ ความรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่ปลอดภัยกับตัวเอง ในแง่ความถูกต้องที่มารับงานกลางคันและไม่อยู่ในทีมตั้งแต่แรกไม่ปลอดภัยกับคนอื่น เพราะเราไม่มีความรู้เรื่องการตรวจสอบงานก่อสร้างเลย ดังนั้นแรงผลักดันนี้ชัดเจนและสมเหตุสมผล
3. กล่าวปฏิเสธอย่างมีสติ (Action) : เนื่องจากการปฏิเสธเป็นการกล่าวที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกของทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสาร ดังนั้นก่อนที่เราจะกล่าวปฏิเสธใคร อย่างน้อยเราควรเป็นภาวะที่ผ่อนคลายและเป็นเหตุเป็นผล ใช้ถ้อยคำที่สั้น กระชับและชัดเจน แต่นุ่มนวล เช่น ขอบคุณหัวหน้าที่วางใจมอบงานสำคัญให้ (ปรับบรรยายกาศการสนทนาให้เป็นบวก)
แต่ต้องขอโทษหัวหน้าด้วย ที่ต้องขอไม่รับงานนี้ ( ขอโทษเพราะใครอีกคนกำลังต้องผิดหวัง) เพราะงานนี้สำคัญกับความปลอดภัยทั้งขององค์กรในแง่การถูกตรวจสอบ และความปลอดภัยของคนที่เข้าใช้อาคาร เอิ้นจึงไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดและเอิ้นมองแล้วว่าในทีมมีคนที่มีความรู้ความสามารถมากกว่าอยู่
4. จบให้ยอมรับและเข้าใจกัน (Acceptance and Understand) : การปฏิเสธของเราในครั้งนั้นจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้าสุดท้ายแล้วลงท้ายด้วยความบาดหมาง ดังนั้นหลังจากที่เราตัดสินใจกล่าวการปฏิเสธไปแล้วเราควรโอบอุ้มความรู้สึกของฝ่ายที่ถูกปฏิเสธด้วย เราโอบอุ้มความรู้สึกได้ด้วยการถามสะท้อนความรู้สึก และสร้างทางเลือกให้ในแบบที่เราทำได้ เช่น หัวหน้าคิดอย่างไรบ้าง มีอะไรที่เอิ้นพอช่วยได้อีกมั้ยนอกจากการรับหน้าที่นี้
เพราะเวลาในชีวิตของพวกเราทุกคนนั้นช่างมีคุณค่านัก การปฏิเสธนอกจากจะทำให้เวลาของทุกคนมีมากขึ้นแล้ว ยังทำให้เราได้รู้จักขอบเขตของตัวเองและผู้อื่นชัดเจนขึ้น แล้วเราก็จะรู้จักกันและกันมากขึ้น แค่ปฏิเสธทั้งทีต้องมีศิลปะในการปฏิเสธเท่านั้นเอง
หมอเอิ้น พิยะดา
Unlocking Happiness
จิตแพทย์/นักแต่งเพลง/วิทยาการสื่อสารเพื่อความสุขและสำเร็จ
Page FB ดีต่อใจ โดย หมอเอิ้น พิยะดา : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10156783544953550&id=306538978549
----------------------------------------------------------------------------
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCUkLOuK0DwOyIsb6ho8G_ew
----------------------------------------------------------------------------
IG : https://www.instagram.com/earnpiyada/
----------------------------------------------------------------------------
Website : http://www.earnpiyada.com/
ความเห็น 4
ผมคิดว่าในการที่จะปฏิเสธต่อในเรื่องๆใดก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือควรที่จะต้องมีเหตุผลและในหลักความเป็นจริงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพราะในสิ่งนั้นก็ย่อมที่จะสามารถทำให้รักษาความเป็นมิตรภาพที่เคยมีด้วยกันมาได้เป็นอย่างดีครับ.
22 ม.ค. 2562 เวลา 11.03 น.
Gontalent
เป็นการแชร์ประสบการณ์ตรงของคุณหมอที่ดีครับ สอนให้คนรู้จักประหยัดเวลาในการใช้ชีวิต บางคนเสียเวลาเสียโอกาสเลือกคนรักที่ดีเพียงเพราะไม่รู้จักการปฏิเสธ เพราะวัฒนธรรมความเกรงใจของไทยถูกสั่งสอนให้รักษาน้ำใจ จนกลายเป็น "เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด"
22 ม.ค. 2562 เวลา 14.15 น.
mrn
ขอบคุณครับ
22 ม.ค. 2562 เวลา 14.14 น.
กาย meow meow KU69
ปฏิเสธทำได้ เอาให้ชัดเจน ไม่ได้เลวร้ายค่ะ
24 ม.ค. 2562 เวลา 02.23 น.
ดูทั้งหมด