โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

9 นิสัยเพื่อนร่วมงานที่ควรอยู่ให้ห่าง หลีกให้ไกล

LINE TODAY

เผยแพร่ 12 มิ.ย. 2560 เวลา 09.20 น.

ปัจจัยหนึ่งในที่ทำงานที่หลายคนมักมีปัญหาก็คือ เพื่อนร่วมงาน ใครที่ได้เพื่อนร่วมงานดี ช่วยเหลือ สนับสนุนซึ่งกันและกันถือเป็นโชคดี แต่ถ้าได้เพื่อนร่วมงานที่มีนัยยะแอบแฝงก็อาจมีผลกับงานที่ทำได้เหมือน เรามาดูกันดีกว่านิสัยเพื่อนร่วมงานแบบไหนที่ควรอยู่ให้ห่างและหลีกให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้

1. ห่วงแต่ความสำเร็จตัวเองจนลืมนึกถึงทีม

การทำงานเป็นทีมเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่มีองค์กรไหนที่ต้องการพนักงานแบบ “ข้ามาคนเดียว” เพราะการทำงานในองค์กร คน ๆ เดียวไม่สามารถทำให้องค์กรก้าวหน้า ทุกคนต่างก็เป็นกลไกหนึ่งที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ทุกคนต่างมีหน้าที่ที่สำคัญไม่แพ้กัน และถ้าใครคนใดคนหนึ่งมัวแต่พุ่งเป้าไปที่ความสำเร็จของตัวเอง จนไม่เห็นความสำคัญของทีม ไม่มองที่ความสำเร็จองค์กร ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะทำงานร่วมกับคนอื่นได้ 

2. เอาหน้า

หลายคนคงต้องเคยเจอเพื่อนร่วมงานประเภทนี้ เพราะมนุษย์ออฟฟิศที่ชอบเอาหน้าฝังตัวอยู่ในหลายองค์กร ว่ากันตรง ๆ การเอาหน้าไม่ถือว่าแปลกถ้าคนที่เอาหน้านั้นก็ทำงานอย่างเต็มที่ด้วย แต่ส่วนใหญ่ลักษณะนิสัยของคนเอาหน้ามักจะเป็นคนไม่ทำงาน หรือถ้าทำก็น้อยกว่าคนอื่น แต่อาศัยว่าพูดเยอะ พรีเซนท์ดี ชิงเอาความดีความชอบไปหมด ถ้าบังเอิญคุณต้องร่วมงานกับคนแบบนี้ สิ่งที่จะเบรกคนชอบเอาหน้าได้ก็คือ เราต้องไม่ยอม ต้องรู้จักการเรียกร้องสิทธิของตัวเอง อาจเป็นการพูดอย่างตรงไปตรงมา แต่เวลาพูดต้องพูดให้มีศิลปะเพื่อรักษาบรรยากาศการทำงานไว้

3. ประจบเจ้านาย

ถ้าคุณเป็นคนทำงาน คงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่ต้องเจอเพื่อนร่วมงานลักษณะนี้ ทำมาก ทำน้อยเราไม่พูดถึง เพราะคนขี้ประจบมักพูดเกินจริงเสมอ ถ้าบังเอิญต้องร่วมงานกับคนแบบนี้ คุณต้องไม่กระโตกกระตากหรือแสดงความไม่พอใจที่ชัดเจนเกินไป จริง ๆ แล้วของแบบนี้ขึ้นอยู่กับเจ้านายของคุณด้วย เจ้านายบางคนรู้ทันเพื่อนร่วมงานประเภทนี้ ถึงจะขี้ประจบสักแค่ไหน เจ้านายก็ไม่แสดงท่าทีใด ๆ แต่ก็รู้ว่าลูกน้องแต่ละคนเป็นอย่างไร ถ้าเป็นแบบนี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย ตั้งใจทำงานต่อไป ผลที่ออกมาจะบอกเองว่าใครเป็นอย่างไร 

4. ขี้เม้าส์

มีเพื่อนร่วมงานขี้เม้าส์ก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ถ้าเกิดคนที่เค้าเม้าส์เป็นเรา นี่แหละเสียหายสุด ๆ ยิ่งถ้าไม่ใช่เรื่องจริงและใส่สีตีไข่เพิ่มเติม ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะฉะนั้นอยู่ให้ห่างคนขี้เม้าส์ไว้น่าจะดีที่สุด หากคุณบังเอิญมีเพื่อนร่วมงานขี้เม้าส์ขอให้รู้ไว้เลยว่าถึงคุณจะสนิทสนมกลมเกลียวกับเค้าแค่ไหน คุณก็ไม่มีทางรอดปลอดภัยจากการติฉินนินทาไปได้แน่นอน ห่างไว้เป็นดีที่สุด

5. ขี้โกหก

คนขี้โกหกไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนร่วมงานกันก็ควรหลีกให้ไกลอยู่ดี แต่ถ้ายิ่งได้โคจรมาพบกัน ได้มาร่วมงานกัน จะทำอย่างไรกับเราจึงจะอยู่รอดปลอดภัยหากมีเพื่อนร่วมงานขี้โกหก ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็คงไม่เดือดร้อนอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องงาน การโกหกส่งผลกระทบกับงานเต็ม ๆ แบบนี้คงไม่ดีแน่ ทางที่ดีควรเข้าใกล้เท่าที่จำเป็น คุยกันเฉพาะเรื่องงาน ไม่คบหาสมาคมและสนิทสนมด้วย ยิ่งเราอยู่ห่างจากเค้าเท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้รับผลกระทบน้อยเท่านั้น

6. แทงข้างหลัง

สุดยอดอันตรายเลยจริง ๆ ถ้าคุณมีเพื่อนร่วมงานที่ชอบแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจแบบนี้ เพราะเรื่องมีผลกระทบกับหน้าที่การงานเต็ม ๆ คนประเภทนี้มักจะทำตัวดีเมื่ออยู่ต่อหน้า ไม่แสดงออกถึงความเป็นปรปักษ์ที่ชัดเจน แต่ถ้าคุณหันหลังหรือเผลอเมื่อไหร่ เพื่อนร่วมงานประเภทนี้ก็มักจะตีไข่ใส่สีให้คุณต้องแปดเปื้อนได้เสมอ ถ้าคุณมีเพื่อนร่วมงานประเภทนี้ อย่างเดียวที่ทำได้ก็คือทำใจและถอยให้ห่าง ถ้าต้องร่วมงานกันก็สุงสิงเฉพาะที่จำเป็น คุยแบบผิวเผิน ที่สำคัญคือเวลาทำงานต้องมีหลักฐานชัดเจน ใครทำอะไร รับผิดชอบอะไร เพื่อป้องกันความผิดพลาดและโดนแทงในภายหลัง

7. ไม่ยอมรับอะไรที่เป็นด้านลบ

จริง ๆ แล้วคงไม่มีใครยอมรับด้านลบหรือด้านที่ไม่ดีของเรื่องต่าง ๆ ได้ แต่การทำงานร่วมกันในองค์กร สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกอย่างก็คือความผิดพลาดหรือไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้เสมอและตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนในองค์กรต้องเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าเพื่อนร่วมงานของคุณไม่สามารถยอมรับได้ ก็อาจจะเป็นภาระให้กับทีมในการปรับปรุงและพัฒนางานต่อไป

8. เรื่อย ๆ ไปวัน ๆ

เพื่อนร่วมงานประเภทนี้มีให้เห็นมากมายในองค์กร ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ทำงานเรื่อย ๆ ไปวัน ๆ ไม่ทะเยอทะยาน ไม่หือ ไม่อือกับทุกสิ่งรอบตัว ทำทุกอย่างไปตามความเคยชิน เรียกว่าอยู่ในเซฟโซนที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยเลยไม่คิดจะกระตือรือร้นทำอะไรเพิ่มเติม คนแบบนี้มักจะไม่คิดปรับปรุงหรือพัฒนาอะไรเลย งานเพิ่มก็ไม่เอา ให้คิดนำเสนอก็ไม่ทำ เพราะเค้าคิดว่าที่ทำอยู่ก็ดีพอแล้ว จะทำให้มากไปเพื่ออะไร การมีเพื่อนร่วมงานแบบนี้ก็มีโอกาสที่คุณจะซึมซับนิสัยของเค้ามาได้เหมือนกัน 

9. คำนึงถึงแต่ผลลัพธ์ แต่ไม่ให้ความสำคัญกับวิธีการ

เดี๋ยวนี้โลกหมุนเร็ว ทุกอย่างไปไวไปหมด หลายองค์กรเริ่มให้ความสำคัญกับผลงานมากกว่าวิธีการทำงาน ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จโดยไม่คำนึงว่าจะทำงานกันอย่างไร การทำแบบนี้อาจทำให้เราสูญเสียเพื่อนร่วมงานที่ดีไปได้เหมือนกัน ด้วยความที่ไม่ใส่ใจวิธีการทำให้บางคนต้องทุกอย่างเพื่อให้ประสบความสำเร็จ เล่นสกปรกบ้าง บิดเบือนความเป็นจริงไปบ้าง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เสมอถ้ามุ่งหวังแต่ความสำเร็จโดยไม่สนใจวิธีการ 

เชื่อว่าทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเพื่อนร่วมงานนิสัยแบบไหนที่ควรต้องหลีกให้ไกล ปัญหาก็คือจะมีวิธีไหนที่หลบเลี่ยงคนประเภทนี้ได้แบบเนียน ๆ ลดการปะทะแต่ก็ทำงานร่วมกันได้ถือว่าเป็นทางที่ดีที่สุด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0