เคลื่อนสรีระสังขารหลวงปู่พระเทพกิตติรังสีไปเมรุชั่วคราว วัดธาตุขอนแก่น ก่อนมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ16 ธ.ค.นี้
วันที่ 12 ธันวาคม ณ วัดธาตุพระอารามหลวง ถ.กลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นางพรพิมล คงตระกุล วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นายยอดยิ่ง จันทนพิมพ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์หลวงปู่พระเทพกิตติรังษี อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุ พระอารามหลวง อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น และ พระสงฆ์สมณศักดิ์จำนวน 20 รูป สวดพระพุทธมนต์ในพิธีเคลื่อนสรีระสังขารหลวงปู่พระเทพกิตติรังษี (ทองสา วรลาโภ ป.ธ.8, พธ.ด.กิตติมศักดิ์) พระนักพัฒนาโดดเด่นในภาคอีสาน ไปยังเมรุชั่วคราวภายในวัดธาตุพระอารามหลวง โดยมีพิธีทางศาสนาพุทธ และโรงทานเนืองแน่นภายในบริเวณวัด เพราะในวันที่ 16 ธันวาคม จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่พระเทพกิตติรังษี ณ วัดธาตุพระอารามหลวง
นายธีระศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า หลวงปู่พระเทพกิตติรังษี เป็นพระมหาเถรที่มีสุขภาพแข็งแรงตามอัตภาพ เนื่องด้วยวัย 80 กว่าปีแล้ว อีกทั้งยังรูปร่างใหญ่ มีน้ำหนักกว่าร้อยกิโล พระเดชพระคุณหลวงปู่ยังปฏิบัติกิจของสงฆ์ทำวัตรเช้า – เย็น แสดงธรรม และเดินทางไปปฏิบัติศาสนากิจ เพื่อฉลองศรัทธาของคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนด้วยตนเองมิเคยขาด เพราะด้วยความเมตตาธรรมที่พระเดชพระคุณหลวงปู่มีต่อคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน
จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนเมษายน 2561 หลวงปู่พระเทพกิตติรังสีมีอาการเหนื่อยหายใจไม่สะดวก คณะสงฆ์วัดธาตุฯ พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ได้นำหลวงปู่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลขอนแก่น เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2561 ซึ่งคณะแพทย์ได้ถวายการรักษาหลวงปู่อย่างเต็มความสามารถ แต่เนื่องด้วยสังขารของหลวงปู่ที่ชราภาพ คณะแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตจากมัจจุราชได้ หลวงปู่จึงได้ละสังขารถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2561 ตรงกับวันอังคาร แรม 9 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ เวลา 09.31 น. ด้วยโรคปอดติดเชื้อ ณ โรงพยาบาลขอนแก่น สิริอายุ 88 ปี 68 พรรษา เมื่อหลวงปู่พระเทพกิตติรังษีเป็นพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ จึงเป็นที่เคารพเลื่อมใสของประชาชนชาวขอนแก่นและภาคอีสาน
“หลวงปู่พระเทพกิตติรังษี เป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในสมณะเพศและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานในทุกๆด้าน การเผยแผ่ การจัดการศึกษาทั้งแผนกธรรม แผนกบาลี ในฐานะเป็นกัลยาณมิตรกับทุกๆคน เป็นผู้คงที่ ไม่หวั่นไหวในคำนินทาและคำสรรเสริญ จึงทำให้ความดีของท่านไม่บกพร่องและไม่ขาดแคลน ท่านได้เป็นพระมหาเถระผู้พลิกฟื้นตำนานแผ่นดินถิ่นอีสานให้กลับมารุ่งเรืองเป็นอมตคุณงามความดีที่จะต้องจดจารึกไปชั่วกาลนาน เช่น ผลงานการสร้างพุทธมณฑลอีสาน การอัญเชิญหลวงพ่อพระพุทธพระลับประดิษฐานบนประตูเข้าเมืองขอนแก่น และการสร้างมณฑปประดิษฐานพระพุทธพระลับ ณ วัดธาตุพระอารามหลวง ไว้เป็นศูนย์รวมจิตใจเพื่อต้อนรับพุทธศาสนิกชนซึ่งเดินทางมาจากทิศทั้ง 8 ได้มาชื่นชมและกราบสักการะบูชาขอพรให้สำเร็จสมปรารถนา” นายธีระศักดิ์กล่าว