เลือกตั้งด้วยสติปัญญา 'เลือกตั้ง' ทั้งทีเลือกอย่างไรให้ฉลาด?
“อย่าหวังผลลัพธ์ที่แตกต่างหากเราลงมือทำเหมือนเดิม”
ในปีนี้ การเลือกตั้ง '62 ของบ้านเรา ช่างคึกคัก และดูการเมืองสนุกทุกวัน มีการแข่งขันอันดุเดือดมาก ต่างพรรคต่างเชือดเฉือนวิธีคิดกัน งัดกลยุทธ์ไม้เด็ดกันออกมาใช้หมัดต่อหมัด
คำถามคือ "แล้วเราจะเลือกใครคนหนึ่ง มันดูที่อะไร จะได้เลือกให้มั่นใจมากขึ้น"
คำตอบ และวิธีคิดง่ายมาก คล้าย ๆ spec ของการ "เลือกแฟน" (ที่บางทีก็เลือกไม่ค่อยได้) คุณอยากได้คนแบบไหน ต้องใส่ใจการเลือกหน่อย คนนี้ พรรคนี้ดีพอกับเราไหม ถูกใจเรารึเปล่า มาดูวิธีการที่มีตรรกะกันเสียหน่อย ว่าอะไรทำให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
1) ตัดชอยส์พวกซื้อเสียงทิ้งทันทีเป็นอันดับแรก
ถ้าวันนี้เขาจ่ายให้เรา เป็นค่าหัว ให้ไปนั่งฟังปราศรัย ให้กาเลือกเขาหน่อย จงคิดไว้เสมอว่า มันมองได้เหมือนวิธีคิดของนักธุรกิจ นั่นคือ ทุกอย่างที่เสียไปคือการลงทุน และทุกการลงทุน ย่อมมีการถอนทุนคืน หรือผลตอบแทน ดังนั้น จงอย่าตกเป็นเหยื่อนักลงทุนทางการเมืองพวกนี้
เมื่อวันนี้ลงทุนหนัก เวลาถอนทุนคืนก็จะหนักเช่นกัน และมีโอกาสสูงมากที่เมื่อผู้คนที่ลงทุนไปหนักเหล่านี้ได้รับเลือกเป็นรัฐบาล จะถอนทุนคืนอย่างหนัก เข้าไปโกงกิน เอาเงินภาษีประชาชนไปผลาญ ถ้าเราอยากตัดวงจรอุบาทว์นี่ซะ…จงอย่าไปเลือกคนกลุ่มที่ใช้เงินซื้ออำนาจให้ตัวเอง ให้ได้รับชัยชนะ…ชัยชนะอันสกปรกพวกนี้ ไม่ควรให้พวกเขาได้รับมัน
จงเลือกคนที่มาจากใจ…
ไม่ใช่กาให้เพราะได้เงินเขามา
2) คุณต้องมี "ข้อมูลที่ถูกต้องและแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้"
หากจะมั่นใจว่าเราจะรู้จักพรรคไหน หรือคนไหนที่เราเลือกดีพอ อยากจะไปสืบประวัติคนหรือพรรคที่เราสนใจ เราต้องระวังเรื่องนี้เป็นอันดับแรก
เราต้องเข้าใจเรื่อง "ข้อมูล" และ "แหล่งที่มาของข้อมูล" ที่ดีและมีคุณภาพจริง ๆ เรื่องที่ต้องระวัง ได้แก่
- ข้อมูลที่แชร์บน social network กันแบบไม่รู้ต้นตอ หรือที่มา บางทีเป็นข้อความคำพูด ปะปนกับรูปภาพของบุคคลที่เขาอาจจะไม่เคยพูดด้วยซ้ำ แต่เอามากล่าวอ้าง ให้เช็คดี ๆ ว่ามีภาพเคลื่อนไหว หรือหลักฐานบ้างหรือไม่ ว่าเป็นเรื่องจริง เพราะมีโอกาสสูงที่พรรคตรงข้าม คู่แข่ง หรือผู้ไม่ประสงค์ดี ตั้งใจ discredit อีกฝ่าย ในช่วงของการหาเสียง
- สื่อที่ไม่เป็นกลาง และมีขั้วทางการเมือง เป็นสื่อที่เราต้องคอยระมัดระวังการเขียนข่าว หรือนำเสนอข่าว เพราะอาจจะนำเสนอบางส่วน ไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมด หรือ "อวยเฉพาะที่รัก" และ "โจมตีที่ชัง" ถ้าสื่อเองยังมีสี มีค่าย ต้องอาศัยสติปัญญาอย่างมีวิจารณญาณในการวิเคราะห์ข้อมูลในการเสพสื่อ หรือเลือกเปิดรับสื่อที่เรามั่นใจในความกลางของสื่อจริง ๆ ก่อนจะเปิดข่าวการเมืองเพื่อรับข้อมูลข่าวสาร และนำมาประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ของเรา
3) สำรวจการทำงานและประสบการณ์ในอดีตของเขาจะพอเดาได้ว่าอนาคตเขาจะห่วยหรือจะเจ๋ง
ถ้าเป็นพรรค หรือบุคคลเดิม ๆ ที่เราเคยเห็นผลงานของเขาอยู่ว่าเขาทำอะไร สำเร็จมากน้อยขนาดไหน มีศักยภาพในการขับเคลื่อนนโยบายอย่างไร
หากผลงานเป็นที่ประจักษ์ แสดงว่า เราวางใจการทำงานของเขาในอนาคตได้ เรามั่นใจ เราจึงควรเลือก แต่ถ้าที่ผ่านมา เขาไม่ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ หรือไม่เห็นผลงานให้เราประทับใจ เราก็อย่าไปเลือก เราจะไปเจ็บซ้ำ ๆ ทำไมกับคนที่เราไว้ใจแล้วเขาไม่เวิร์ค ก็อาจจะต้องลองให้โอกาสคนใหม่ ทดลองอะไรใหม่ ๆ แล้วล่ะ หากรู้ว่าสิ่งเดิม ๆ มันไม่ตอบโจทย์ ก็ถือซะว่าสร้างการเลือกสิ่งใหม่ กำลังสร้างการเรียนรู้ให้กับตัวเรา และประเทศจากการทดลองครั้งนี้
หรือหากมีประวัติที่ไม่โปร่งใสใด ๆ ที่ดูไม่ชอบมาพากล ทั้งทางธุรกิจ หรือทางการเมือง ให้หาข้อมูลให้แน่ชัดว่าเขาเข้ามาเล่นการเมือง เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของตัวเอง หรือมาเพื่อบริหารประเทศให้เจริญรุ่งเรืองจริง ๆ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มบุคคลพรรคใด ที่เคยก่อความไม่สงบให้ประเทศ หรือมีประวัติในลักษณะที่เป็นทรราช เราต้องมีสติก่อนเลือกคนพวกนี้กลับเข้ามาทำคุณประโยชน์ให้ชาติดี ๆ ว่านี่เป็นคุณ หรือเป็นโทษกันแน่
4) องค์ประกอบของทีมงานถ้ามีทีมที่ดีก็มีโอกาสไปได้รุ่ง
ทีมห่วย ๆ แม้ผู้นำ ตัวหัวหน้าพรรค เป็นคนเก่งคนดีมีคุณธรรม ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนการทำงานไปข้างหน้าได้มีประสิทธิภาพ ยิ่งถ้าเป็นทีมสายโกงกินด้วยแล้ว ยิ่งควรบอกลาให้ไว เพราะจะกลายเป็นเราเลือกคนดี ที่มีโอกาสเอาทีมห่วย ๆ มาช่วยผลาญชาติ กลายเป็น"รัฐบาลหุ่นเชิด" ที่เราคงเคยเห็นกันมาหลายยุคหลายสมัย
“ผู้นำที่ดี ควรมีทีมงานที่ดี” เวลาเลือกอาจจะต้องกลั่นกรอง และไตร่ตรองให้ดี ๆ อย่าไปยึดติดแค่ "ตัวบุคคลคนเดียว*" *หมั่นดูภาพกว้างว่า เรากำลังเลือกเอามนุษย์คนเก่งคนดีไปทำงานบริหารชาติ หรือปลวกที่กัดแทะ เกาะกินชาติมิให้เกิดความเจริญก้าวหน้ากันแน่
5) มองหานโยบายที่ตรงใจและใช้งานได้จริง
ถ้าพรรคไหนเขานโยบายเจ๋ง แล้วเรามองเห็นว่าเรื่องนี้ สำคัญมาก ๆ กับการขับเคลื่อนชาติบ้านเมือง เราควรจะต้องให้ความสนใจ เพราะเราอยากให้เรื่องนั้น ๆ เกิดขึ้นในประเทศของเรา ก็แอบติ๊กถูกในใจว่า เราสนใจงานนโยบายของใคร ที่ไม่ใช่แค่การ "ขายฝัน" ดูว่าเรื่องนั้น ๆ ทำได้จริง เป็นประโยชน์ สำคัญมาก ควรแก้ไขปรับปรุงพัฒนา ถ้านโยบายของใครดูเป็นรูปธรรม ก็ให้คะแนนพรรคเขาไว้ในใจก่อน จะได้กาอย่างไม่ลังเล เมื่อถึงคูหา
สิ่งที่ต้องระวังคือพวก "นโยบายแนวประชานิยม" ที่ไม่ได้สร้างการแก้ไขปรับปรุงจริง ๆ แต่กลับสร้างปัญหาเพิ่มในระยะยาว หรือแค่มาแนวเอาใจคนยากจน หรือคนบางกลุ่มให้ได้รับประโยชน์ ไม่ได้ส่งเสริมประเทศให้เกิดการพัฒนาในวงกว้าง หรือแก้ไขปัญหาได้จริง อันนี้ต้องวิเคราะห์ให้ดี เพราะนั่นคือแค่การหาฐานเสียงให้พรรคผ่านนโยบายสร้างฝันเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีเวลาชมการปราศรัย หรือการ debate ทางโทรทัศน์ จะยิ่งทำให้เราเห็นแนวคิดเชิงนโยบายว่าใครเข้าท่า ใครที่ไม่เวิร์คหรือไม่ถูกจริตกับเรา เราสามารถมองวิธีคิดผ่านเวทีที่มีมากมายให้ได้รับข้อมูลพวกนี้ ก่อนตัดสินใจครั้งสุดท้ายที่หน้าคูหา เราต้องทำการบ้านมา เพื่อสรรหาคนและพรรคคุณภาพให้ประเทศเราจริง ๆ
-----
สิ่งที่สำคัญคือ คุณอย่าไปเชื่อใคร ที่พูดว่าเลือกได้ใครหรือพรรคไหน มาบริหารประเทศก็แย่เหมือนเดิม ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงบ้านเราไปได้หรอก
ความจริงข้อหนึ่งคือ"การทำเหมือนเดิมมักได้ผลลัพธ์เหมือนเดิมแน่นอนว่าคุณเลือกคนเดิม ๆ เข้ามาคุณจะหวังผลที่แตกต่างนั่นเป็นเรื่องเพ้อฝันโดยสิ้นเชิง*" *ดังนั้น จงเชื่อมั่นเสมอว่า เสียงของทุกคนมีความหมายเสมอ และเปลี่ยนแปลงได้ อย่าเพิ่งเพิกเฉย โดยตัดสินใจ 'Vote No' เพราะเสียงหนึ่งเสียงของคุณมีคุณค่า และมีอำนาจมากพอจะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงมิติทางการเมืองการปกครองในการบริหารประเทศนี้
"จงทำสิ่งที่แตกต่างเพื่อแสวงหาผลลัพธ์ที่แตกต่าง"
เลือกตั้งครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งครั้งที่สำคัญมาก ที่จะกำหนดก้าวใหม่ ๆ ในการเดินหน้าประเทศไทย อยากให้เราทุกคนใส่ใจกับมัน และทำหน้าที่พลเมืองของตัวเองให้เต็มที่ อย่างดีที่สุด ด้วยการใช้สิทธิ์ใช้เสียงของเรา ร่วมขับเคลื่อนประเทศชาติ ไปด้วยกันทั้งชาติ ไม่อู้อยู่บ้าน ต้องไปเลือกคนและพรรคในใจของเราให้ได้ จงไปทำหน้าที่นั้น ด้วยมือของเราเอง
หมายเหตุ: ถ้าชอบคน หรือพรรคไม่เหมือนเพื่อนเรา หรือคนที่เรารัก ก็ไม่ควรตีกัน ทะเลาะเบาะแว้งจนเลิกคบ นี่มันก็แค่การเมือง แต่ความสัมพันธ์ในชีวิตเราต้องไปต่อ “แตกต่างแต่ไม่แตกแยก”
ความเห็น 36
Chat
ผมว่าประชาธิปไตยกับเผด็จการเป็นระบอบการปกครองแต่สิ่งสำคัญคือตัวผู้ปกครองและตัวผู้ที่เสนอตัวมารับใช้ประชาชนมากว่ามีจิตใจที่ต้องการช่วยชาติหรือทำลายชาติผมจึงคิดว่าฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายเผด็จการก็เป็นวาทกรรมในการหาเสียงเลือกครั้งนี้เท่านั้นซึ่งเราจะเห็นว่าแกนนำต่างๆที่ทำไม่ดีกับชาติที่ผ่านมาก็จะเป็นเพียงผู้ปราศัยหาแนวร่วมเพราะถ้าตัวเิงลงก็มีผลต่อพรรคที่อยู่
01 มี.ค. 2562 เวลา 23.20 น.
เลือกใครมาก็เหมือนเดิม
เปลืองหมึกปากกา
01 มี.ค. 2562 เวลา 00.19 น.
Hello!..Petch
ไม่เลือกพรรคเผาบ้านเผาเมือง
27 ก.พ. 2562 เวลา 23.54 น.
พี_FreezFire
ไม่มีทางเป็นไปได้ คนไทยเลือกด้วยความชอบ สูงกว่าเหตุผล ยิ่งคนอีสาน ยิ่งเลือกด้วยความชอบล้วนไม่มีการคิดไตรตรองอะไร
27 ก.พ. 2562 เวลา 23.27 น.
Mng(JP)
เรื่องของเรื่องคือมีคนบางพวกไม่ยอมรับผลของมันต่างหาก ถ้าเปรียบเทียบง่ายๆ คือถ้าพ่อแม่ญาติพี่น้องคุณไม่ชอบแฟนของคุณ แล้วพยายามหาทางทำทุกอย่างให้คุณเลิกกัน คุณจะทำไง
27 ก.พ. 2562 เวลา 03.21 น.
ดูทั้งหมด