“คชา” สิ่งมีชีวิตที่โดนกระทำเหมือน“ดาวพลูโต”
“พลูโต” ดาวสุดดราม่าที่ถูกถอดออกจากระบบสุริยะและขับไสไล่ส่งกลายเป็นคนนอกไปด้วยเหตุผลทางดาราศาสตร์ ทำให้ดาวดวงนี้กลายเป็นสัญญะของความรักได้อย่างง่ายดาย ท่ามกลางนิยามความอกหักรักคุดหลายรูปแบบ “คชา นนทนันท์” จึงได้หยิบมันมาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงเขาเสียเลย
ไอเดียของเพลงนี้มาจากอะไร
“มันเริ่มจากผมมีเพลงที่ผมชอบฟังมากๆ ก็คือ ‘ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน’ ของพี่ตุ๊ก วิยะดา และ ‘นิทานหิ่งห้อย’ ของพี่เป๊ก-ผลิตโชค มันเหมือนเราไม่ได้ฟังเพลงอยู่ เหมือนเป็นนิทาน เหมือนเรานั่งฟังว่าต่อไปมันจะไปจบอย่างไร เนื้อเรื่องต่อไปจะเป็นอย่างไร ก็เลยมีความรู้สึกว่าอยากเขียนแบบนี้บ้างจัง ก็เลยเริ่มจากเพลงนี้ ที่ผมเขียนเนื้อ คำร้อง ทำนอง แล้วก็ไอเดียทั้งหมด”
เหตุผลที่เป็นดาวดวงนี้
“ส่วนเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นดาวพลูโตก็คือ เคยเขียนไว้ในไดอารีของตัวเอง ก็ไปดึงเรื่องจากไดอารีของตัวเองมาเขียน เรารู้ว่าดาวพลูโตโดนตัดออกจากระบบสุริยะจักรวาล เราก็เลยมาเติมแต่งจินตนาการของเราเพิ่มว่าถ้าสมมติดาวพลูโตมีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกนึกคิด มันจะน้อยใจไหมที่อยู่ๆ ก็โดนตัดออก เหมือนเคยเล่นอยู่กับเพื่อน แล้ววันหนึ่งเพื่อนก็ไม่ให้เล่นด้วยอีก เพราะแกมันตัวเล็กเกินไปแล้วถ้าดาวพลูโตชอบดวงอาทิตย์ขึ้นมาล่ะ? อยู่ก็ไกล ไออุ่นก็ได้น้อยกว่า เราก็มโนไปจนออกมาเป็นเพลงนี้”
เหตุการณ์อะไรในชีวิตจริงที่ทำให้เรากลายเป็นดาวพลูโต
“น่าจะเป็นเรื่องเพื่อน หลายๆ คนน่าจะเคยเจอแหละ เช่นสมัยเรียนมัธยมมันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง ด้วยความเด็กมันก็ต้องมีการหาพรรคหาพวก ว่าฉันไม่ชอบไอ้นี่ นี่ก็ต้องไม่ชอบเหมือนกัน มันก็คือพาร์ทหนึ่งของชีวิตแหละ ตอนเด็กๆ มันอาจจะดูใหญ่โต แต่พอเราผ่านมาแล้ว อะไรที่เราผ่านมาได้เราจะแข็งแกร่งขึ้น”
ดาวพลูโตคือคนในที่ถูกดีดให้กลายเป็นคนนอก แต่เขาก็ยังวนเวียนกับคนในอยู่ มันคือความเต็มใจที่จะเจ็บไหม?
“ผมคิดว่าถ้ายังไหวก็ทำต่อครับ ถ้าไม่ไหวก็เลิก ถ้าตราบใดที่ยังมีความสุขกับการกระทำเหล่านั้น ผมเชื่อว่าความสุขของคนเรามันไม่เหมือนกัน ถ้าสมมติว่าอยู่ในสถานการณ์นั้นแล้วเราทนได้ เรามีความสุขแล้ว ไหวก็ทำ ซึ่งก็ต้องมาชั่งน้ำหนักดูว่าสุดท้ายแล้วมันสุขมากกว่า หรือทุกข์มากกว่า”
ดาวพลูโตยังเป็นสัญลักษณ์อะไรของความรักได้อีกบ้าง?
“ขึ้นอยู่กับว่าการตีความของแต่ละคนเลย ผมว่ามันเหมือน (นิ่งคิด) มันก็เหมือนความรักที่มั่นคงนะ เพราะถึงโดนตัดออกไปมันก็ยังวนเวียนอยู่ จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม แต่มันก็ยังต้องวนอยู่”
เป็นยังไงบ้างกับบรรยากาศการถ่ายทำ MV เพลงล่าสุด “พลูโต”
“ไปถ่ายที่ คิตะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ครับ มันมีโลเคชั่นสวยๆ เยอะทั้งกลางวันกลางคืน บางมุมก็ดูสวย บางมุมก็ดูเหงาเลยก็มี เราเป็นกองถ่ายขนาดย่อมๆ ถ่ายอยู่ 2 วัน การถ่ายทำเร็วมากครับ บรรยากาศก็ของจริง อย่างฉากที่เห็นเช่นที่มีกลุ่มคนเดินผ่านนักแสดงตรงทางรถไฟ อันนั้นคือภาพสดครับ เราได้ช่วงเวลาที่นักเรียนเลิกพอดี คนจริงๆ ครับ ไม่ใช่ CG แน่นอน (หัวเราะ) ”
พอใจกับผลงานแค่ไหน
“ผมพอใจครับ ก็ทำสุดความสามารถที่ทำได้ในตอนนี้ และเป็นคนละสไตล์กับงานครั้งที่แล้วเลย ส่วนโปรเจ็คต์หน้าได้มีการคุยและแจกงานกันแล้ว น่าจะเป็นเพลงป๊อปที่ฟังง่ายกว่าเดิม ไม่ได้จัดจ้านและใช้เครื่องดนตรีหลากหลายชิ้นแล้ว น่าจะสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เราต้องการจะสื่อผ่านเสียงได้มากขึ้นครับ”
ติดตาม MV ล่าสุดของคชา “พลูโต” ได้ที่ https://youtu.be/_cneI33GBUQ
สถานที่ : The` Tea House
ช่างชุ่ย
เครื่องแต่งกาย : BEAMS
