โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

Samsung โอนอำนาจครั้งใหญ่ ตั้ง CEO หญิงนอกสายเลือดคนแรกในรอบ 86 ปี คุมธุรกิจยา ท่ามกลางวิกฤติ

Thairath Money

อัพเดต 28 พ.ย. 2567 เวลา 04.56 น. • เผยแพร่ 28 พ.ย. 2567 เวลา 04.56 น.
ภาพไฮไลต์

สำนักข่าวเกาหลีใต้จับตาการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารครั้งสำคัญของ Samsung Group กลุ่มแชโบลที่มีอิทธิพลมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ หลังแต่งตั้ง Kim Kyung-Ah นั่งเก้าอี้ซีอีโอหรือประธานบริหารคนใหม่ของ“Samsung Bioepis” ธุรกิจยาของเครือที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมชีวเภสัชกรรม (Biopharmaceutical) เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมาแทนKo Han-Seung อดีตซีอีโอที่จะไปรับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแห่งอนาคตของ Samsung Electronics ท่ามกลางวิกฤต

ก่อนเข้าร่วมกับ Samsung Group เธอมีความโดดเด่นทางด้านงานวิชาการและผู้นำด้านชีวเภสัชกรรมที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพมากกว่ายี่สิบปี Kim Kyung-Ah สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทสาขาเภสัชศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลต่อเนื่องด้วยปริญญาเอกสาขาพิษวิทยาจากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ในสหรัฐอเมริกา ก่อนจะเข้าร่วม Samsung Group เธอเป็นคนแรกที่ตีพิมพ์งานวิจัยซึ่งเปิดเผยกลไกของยาชนิดใหม่ในการรักษาเยื่อบุผิวอักเสบโดยใช้โปรตีนที่บริษัทพัฒนายา Nuvello ใน "Science" วารสารชื่อดังระดับโลก

เธอเข้าร่วม Samsung Electronics' Advanced Institute of Technology ของ Samsung Electronics ในตำแหน่งนักวิจัยอาวุโสด้านการพัฒนาด้านชีวเภสัชศาสตร์ในปี 2010 และย้ายมาที่ Samsung Bioepis ในปี 2015 รับตำแหน่งสำคัญมากมาย อาทิ หัวหน้าทีมนวัตกรรม, หัวหน้าทีมการจัดการคุณภาพ และหัวหน้าทีมวิเคราะห์ธุรกิจ

ซีอีโอหญิงนอกสายเลือดกู้วิกฤต ?

หลังเข้ารับตำแหน่งรองประธาน Samsung Bioepis เธอมีบทบาทสำคัญในการรวมทีมผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาร่วมงาน การกำหนดทิศทางของ Samsung Bioepis และวางรากฐานให้บริษัทมีชื่อเสียงในฐานะบริษัทวิจัยและพัฒนาระดับโลก

ขณะที่ Ko Han-Seung อดีตซีอีโอจะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแห่งอนาคตที่ Samsung Electronics ท่ามกลางการพิจารณาคดีของนาย Lee Jae-yong ประธานบริษัท Samsung Electronics ทายาทรุ่นที่สามของนาย Lee Kun-Hee ผู้ยิ่งใหญ่ ฐานฉ้อโกงและจัดการหุ้นสืบเนื่องจากนายลีและอดีตผู้บริหารคนอื่น ๆ ถูกกล่าวหาว่าวางแผนการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทในเครือ Samsung สองแห่ง ได้แก่ Samsung C&T และ Cheil Industries เพื่อประโยชน์ต่อสถานะส่วนตัวของเขาในฐานะผู้นำโดยพฤตินัยของกลุ่มบริษัท Samsung

โดยล่าสุดสำนักงานอัยการของเกาหลีใต้ได้ยื่นคำร้องให้จำคุกนาย Lee Jae-yong ระยะเวลา 5 ปี โดยอัยการโต้แย้งว่าการกระทำของเขาก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ถือหุ้น ทำลายความโปร่งใสขององค์กรและละเมิดกฎหมายการกำกับดูแลกิจการของเกาหลีใต้

ที่ผ่านมา Lee Jae-yong เผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ เขาเคยถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีทุจริตครั้งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับอดีตประธานาธิบดี Park Geun-hye และถูกตัดสินจำคุกในปี 2017 อย่างไรก็ตาม ในปี 2022 Lee ได้รับการอภัยโทษพิเศษจากประธานาธิบดี ซึ่งทำให้เขาสามารถกลับมาดำรงตำแหน่งผู้นำที่ Samsung Electronics ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกได้อีกครั้ง

ท่ามกลางวิกฤตทำให้หลายฝ่ายประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ของ Samsung Group ซึ่งก้าวข้ามประเด็นถกเถียงหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการสืบทอดอำนาจแชโบลและประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ เพราะบทบาทผู้บริหารระดับสูงภายใน Samsung Group มักถูกครอบงำโดยผู้บริหารที่เป็นผู้ชายและมักจะเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลผู้ก่อตั้ง ซึ่งผู้บริหารหญิงคิดเป็นเพียง 10% เท่านั้น

รายงานระบุว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 86 ปีที่ Samsung Group แต่งตั้งผู้บริหารหญิงคนนอกที่ไม่ใช่สมาชิกครอบครัวเข้ารับตำแหน่งและยังเป็นการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงครั้งแรกในรอบ 13 ปีของ “Samsung Bioepis” อีกด้วย

อ้างอิงข้อมูลจาก Bloomberg, BusinessKorea , Reuters , FinancialTimes

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -

https://www.facebook.com/ThairathMoney

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : Samsung โอนอำนาจครั้งใหญ่ ตั้ง CEO หญิงนอกสายเลือดคนแรกในรอบ 86 ปี คุมธุรกิจยา ท่ามกลางวิกฤติ

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...