วันที่ 20 มี.ค.2566 เวลา 14.00 น.ที่หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจาก นายปภณ อรุณรังษี อายุ 32 ปี ว่าตนได้มาซื้อบ้านเดี่ยวสองชั้น ในราคา 7 ล้านบาท และกำลังปรับปรุงบ้าน ซึ่งด้านหลังบ้านมีต้นหูกระจงสูงใหญ่ที่ปลูกติดข้างรั้วบ้าน อยู่ 2 ต้น รากของต้นหูกระจงได้ชอนไชเข้ามาในพื้นที่บ้านของตนได้รับความเสียหาย รั้วบ้านร้าว ท่อระบายน้ำอุดตัน ใบไม้แห้งหล่นเข้ามาในบ้าน อยากให้ทางนิติบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล
นาง มณฑิยา อรุณรังษี อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมาซื้อบ้านหลังนี้ตั้งแต่ช่วงเดือน ตุลาคม 2565 และจะทำการปรับปรุงบ้านก็เลยมาเจอต้นหูกระจงที่รากของมันชอนไชเข้ามาภายในตัวบ้านทำให้รั้วบ้านพังเสียหาย รากของต้นไม้ยังเข้าไปในระบบท่อน้ำทำให้ท่อตันอีกด้วย โดยตนเห็นว่าต้นหูกระจงปลูกอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางจึงได้เข้าไปคุยกับนิติและทำหนังสือร้องไป ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2565 จนถึงตอนนี้ ทางนิติฯก็เข้ามาตัดให้แค่1ต้น ส่วนอีกต้นนึงเขายังไม่ตัดให้ ตนก็ไม่เข้าใจว่าเหลือไว้ทำไม ซึ่งต้นหูกระจงปลูกติดกับรั้วบ้านบริเวณด้านหลัง และทำรั่วเก่าพังเสียหายไปแล้วจากที่รากของต้นไม้ชอนไชเข้าไปบริเวณใต้ดินทำให้คานรั้วด้างล่างหลุดจากเสาเข็ม จนต้องสร้างรั้วใหม่หมดเงินค่าทำรั้วไปอีกแสนนึง ระบบท่อน้ำตันต้องวางระบบท่อน้ำใหม่หมด ก่อนหน้านี้ตนเคยขอกับทางนิติว่าจะขอตัดเองและจะออกค่าใช้จ่ายเองเพราะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ของหมู่บ้านไม่ว่าง แต่ทางนิติไม่ยอมไม่รู้เป็นเพราะอะไร เมื่อก่อนหน้านี้ตอนที่ยังไม่มีปัญหากัน ตนเคยได้มีโอกาสพูดคุยกับคู่กรณีก็ทราบว่าเขาจะต้องปลูกต้นหูกระจงเอาไว้บริเวณหน้าบ้านเพื่อแก้ฮวงจุ้ย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 100/399 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับด้านหลังบ้านของผู้เสียหายและเป็นผู้ที่อ้างว่าเป็นคนปลูกต้นหูกระจงทั้งสองต้นนี้ แต่กลับไม่มีใครอยู่ในบ้านเลย ต่อมาจึงเดินทางไปที่ สำนักงานนิติบุคคลหมู่บ้านเพื่อขอสอบถามข้อเท็จจริงถึงกรณีดังกล่าว โดย นายน้อย (สงวนชื่อนามสกุล) กรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านส่วนงานดูแลสาธารณูปโภค ได้เปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีดังกล่าว ทางนิติฯได้รับการร้องเรียนจากบ้านทั้งสองหลังจึงได้ลงพื้นที่ไปดู ปรากฏว่า ต้นหูกระจงดังกล่าว ทางนิติฯหมู่บ้านไม่ได้เป็นผู้ปลูก แต่เป็นบ้านของ พลโท ทวีศักดิ์(อดีตกรรมการหมู่บ้าน)และภรรยา ซึ่งเป็นผู้ปลูกไว้เมื่อราวๆ 10-15 ปี มาแล้ว เนื่องจากเมื่อก่อนนี้ทางหมู่บ้านมีโครงการรณรงค์ปลูกต้นไม้เพื่อให้หมู่บ้านร่มรื่นน่าอยู่ และก่อนหน้านี้บ้านผู้เสียหายก็เป็นเจ้าของเดิมซึ่งรู้จักและสนิทกับพลโท ทวีศักดิ์ จึงยินยอมให้ปลูกไว้ที่หลังบ้าน
ต่อมาบ้านหลังนี้ได้ถูกขายทอดต่อมาเรื่อยๆ จนมาถึงเจ้าของคนปัจจุบัน และได้มีการทำหนังสือขออนุญาตปรับปรุงและต่อเติมบ้านมาทางนิติบุคคล จึงมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งทางกรรมการหมู่บ้านพอทราบถึงปัญหาก็ไม่ได้นิ่งเฉย ลงพื้นที่ไปสำรวจและแก้ไขให้ทันที จึงทราบว่ารากของต้นหูกระจงได้ชอนไชเข้าไปยังบริเวณพื้นบ้านทำให้รั้วเสียหาย จึงได้ส่งหนังสือเรียกร้องให้ผู้ที่ปลูกต้นหูกระจงทำการตัดต้นไม้ออก แต่ได้รับการปฏิเสธจากยุคคลดังกล่าว ซึ่งทางกรรมการหมู่บ้านก็ไม่ได้สนใจตรงนั้นต่อมาได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้าของบ้านทั้งสองหลังเพื่อหาขอยุติ แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปอะไร จึงให้เจ้าหน้าที่ของหมู่บ้านเข้าไปดำเนินการตัดต้นหูกระจงออกก่อน1ต้น เพราะเห็นว่าการปลูกต้นหูกระจง เป็นการทำให้เพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อนและเกิดความเสียหาย เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่หมู่บ้านเข้าไปตัดต้นหูกระจงออกแล้ว1ต้น เพราะเห็นว่าต้นนี้มีลักษณะเอียงและลำต้นโน้มไปฝั่งกำแพงบ้านของผู้เสียหาย อาจทำให้กำแพงบ้านพังเสียหาย ส่วนอีกต้นนั้นยังไม่สามารถตัดให้ได้เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ของหมู่บ้านยังมีงานในส่วนของการวางท่อระบายน้ำประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นงานเร่งด่วนมากกว่า เวลาฝนตกจะมีน้ำท่วมขังถนนภายในหมู่บ้านและเพื่ออำนวยความสะดวกและประโยชน์ส่วนใหญ่ให้กับลูกบ้านจึงต้องจัดการเรื่องนี้ก่อน ส่วนเรื่องการตัดต้นหูกระจงที่ยังอยู่อีกต้นนั้น ทางกรรมการหมู่บ้านจะเร่งดำเนินการตัดให้ภายใน1เดือน
ข่าวโดย สาโรจน์ สว่างศรี ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดนนทบุรี
ความเห็น 7
NARUEDOL
นิติต้องดูแลลูกบ้าน
อย่าทำตัวเป็นแบบข้าราชการไทยสิ
21 มี.ค. 2566 เวลา 00.46 น.
Mechok
ขุดตัดรากที่เข้ามาในบ้านให้หมดเพราะมันไม่มีรากแก้ว
20 มี.ค. 2566 เวลา 23.57 น.
CHWALIT159
หูกระจงควรปลูกให้ไกลบ้าน พี่โน๊ตบอก
21 มี.ค. 2566 เวลา 00.50 น.
amnuail
ตัดวันเดียวก็เสร็จแล้ว
21 มี.ค. 2566 เวลา 01.44 น.
ดูทั้งหมด