ปิดฉากรัก! “โบ สุรัตนาวี” เผยสาเหตุเลิกสามี
ปิดฉากรัก!“โบ สุรัตนาวี” เผยสาเหตุเลิกสามี
ทำเอาแฟนเพลงต่างช็อกกันไปเลย เมื่อนักร้องสาวยุค 90 “โบ สุรัตนาวี” หรือ“โบ TK” ได้ออกมาเปิดเผยว่าได้เลิกรากับสามี “คิด ภาษิต ภัทรานุกูล” หลังจากแต่งงานกันมา 11 ปี และคบหาดูใจกัน 3 ปี เป็น 14 ปี ผ่านรายการแฉ โดยว่าเลิกตั้งแต่กุมภาพันธ์
อ่านข่าวต่อ : ทำความรู้จัก “โบ TK” หลังออกมาพูดปม “แตงโม นิดา”
โดย “โบ” เปิดเผยว่า… “โบรู้สึกว่า เมื่อเลิกต่างคนต่างมีอิสระกัน สภาพจิตใจพร้อมแล้ว คบกันมา 11 ปี เกิดอะไรขึ้นมีสาเหตุเหมือนคู่รักทุกคู่ ตอนเราเริ่มแต่งงานก็อยากให้มันดีตลอดไป มีเป้าหมายในชีวิต แต่วันหนึ่งมีปัญหา ก็ไปต่อไม่ได้ และเราพยายามเต็มที่แล้ว 11 ปี เขาดีทุกอย่าง โบก็ทำดีที่สุด เราต่างคนต่างอุทิศชีวิตให้กัน ณ วันหนึ่งที่รู้ว่า มันไม่ใช่แล้ว คนเราอยู่กัน 24 ชั่วโมง บางทีก็มีบางมุมที่ไม่รู้จักเขาเลยก็ได้ ที่ผ่านมามันดีตลอด สวยงามมาตลอด ไม่ทะเลาะ วันที่เลิกกันทะเลาะกัน ทะเลาะครั้งแรกในรอบ 11 ปี แล้วเขาก็ไปเลย ไม่ใช่หมดโปร เรื่องของเขาตอบแทนเขาไม่ได้ แต่ส่วนของโบก็งงเหมือนกัน คบซ้อนไหมไม่มีจะพูดว่ามือที่ 3 ไหม คน 2 คน ชีวิตคู่ก็คือ 2 คน ถ้ามันจะมีเรื่องราวอะไรก็ตาม ถ้าคนรักกัน สัมพันธ์ก็ไปได้อยู่แล้ว วันที่เลิกกัน ก็มีหลายๆ ฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็มีจุดที่คุยกันเองไม่ได้ พยายามลองหาวิธีที่ทำให้มันดี พยายามหลายๆ อย่างแล้ว แต่ไม่เป็นผล ชีวิตคู่ต้องมีเป้าหมายเหมือนกัน เมื่อไม่ได้มีเป้าหมายเดียวกันแล้ว ก็คงยาก
ช่วงนั้นแย่ตอนเลิก วันนั้นก็ขาดสติ และโทรหาเขาเยอะมาก และบล็อกกันไปในระยะหนึ่ง สภาพจิตใจพัง เสียใจมากๆ ก็มีครอบครัว ซัพพอร์ต เพื่อนที่ไว้ใจได้ทุกเรื่อง และเพื่อนๆ ข้อดีคือทุกคนไม่มีใครบังคับให้โบหาย โบเป็นคนไม่ยอมรับความจริงที่ว่าต้องเลิกกัน ก็เลยต้องปรึกษาหมอ ไปหาจิตแพทย์ นอนไม่ได้ แพนิคผอมลง 5 กิโลกรัม เครียด พยายามหาทางออกด้วยตัวเอง ออกกำลังกาย เราต้องรอด อกหักเรื่องเล็ก และไปปรึกษาจิตแพทย์ และมีกระบวนการรักษา 6 เดือน เดี๋ยวก็หาย และเราก็เลิกยา ตอนนี้คลีน วันนี้คือโสด จิตใจแข็งแรงดีแล้ว ระยะนาน ความทรงจำเยอะ แต่ก็คืออดีตไปแล้ว
จอยซ์ ซัพพอร์ทเยอะมาก วันที่ขี้เกียจทำงาน ก็แบบใส่ชุดนี้ จากปกติเราดูแลเขา วันที่เราล้มเขาดูเรา เขาเข้มแข็งมาก เขาบอก เรื่องเรานิดหน่อย เราเห็นเพื่อนที่เข้มแข็ง รู้ว่าเราจะผ่านไปได้ เรามีคนข้างๆ ดูแลเรา ถือเป็นความโชคดีของเรา วันที่เราล้มเหมือนล้มบนฟูก”