โควิดทุบตลาดไก่ทอด 2 หมื่นล้านติดลบ “ซีอาร์จี” จัดทัพแบรนด์เรือธง “เคเอฟซี” เร่งเครื่องผุดคอนเซ็ปต์ใหม่-ปูพรมสาขาพรวด พร้อมผนึก อาริกาโตะ เปิดตัว KFC Cafe’ by Arigato สร้างทางเลือกใหม่ ตั้งเป้าสิ้นปีผลักดันรายได้โต 17 %
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 นายปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส QSR & Western Cuisine ผู้บริหารแบรนด์เคเอฟซี ภายใต้การบริหารโดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบให้ภาพรวมตลาดไก่ทอดมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ติดลบ 15% ถือว่าเป็นการติดลบสูงสุดในรอบปี ถ้าเทียบกับช่วงก่อนโควิดที่มีอัตราการเติบโต 8-10% แม้แบรนด์ไก่ทอดในตลาดได้เพิ่มน้ำหนักช่องทางดีลิเวอรี่ แต่ยังน้อยและไม่สามารถช่วยผลักดันตลาดได้
ขณะเดียวกัน ในช่วงโค้งท้ายของปี และปี2565 ยังคงเป็นปีที่ท้าทายของตลาด เพราะโควิดยังอยู่ไปอีกนาน ซึ่งจะเข้ามาเป็นตัวแปรให้พฤติกรรมผู้บริโภคซับซ้อนขึ้น ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องปรับตัวทุกมิติ ทั้งในแง่ของอาหาร ช่องทางการตลาด รวมถึงช่องทางการขายดีลิเวอรี่ แม้ร้านอาหารจะกลับมาให้บริการนั่งทานได้แล้ว ก็ต้องโฟกัสดีลิเวอรี่ควบคู่กันไป เพื่อเพิ่มทางเลือกให้สอดรับกับพฤติกรรมลูกค้า
เช่นเดียวกับภาพรวมของแบรนด์ เคเอฟซี ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของซีอาร์จี ได้รับผลกระทบจากโควิด จึงปรับแผนให้สอดรับกับสถานการณ์ ประกอบด้วย การปรับกลยุทธ์การตลาด เน้นการเข้าถึงลูกค้าในช่องทางออนไลน์และดีลิเวอรี่มากขึ้น ทำให้ยอดขายดีลิเวอรี่เติบโตขึ้น 20-30% ตลอดจนการเพิ่มบริการSelf-Pick up ให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารผ่านเว็ปไซต์ หรือ แอพพลิเคชั่นมาถึงร้านก็สามารถรับสินค้าได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกได้ และส่งผลให้ยอดขายในช่วง Q1-Q3 ของปี 64 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
นายปิยะพงศ์ กล่าวต่อถึงกลยุทธ์และทิศทางการเติบโตทั้งในไตรมาสสุดท้ายของปี และปี 2565 ซีอาร์จี เดินหน้าส่งแบรนด์เคเอฟซี ขยายสาขาเพิ่มอีก 20 แห่ง จากปัจจุบันมี 300 สาขา ทั้งในศูนย์การค้าและไดร์ฟทรูนอกศูนย์ ในพื้นที่กรุงเทพและต่างจังหวัด ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ Chick n’ Chill ปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละพื้นที่
จากนี้จะได้เห็นเคเอฟซีปรับตัวไปหลากหลายโมเดลใหม่ที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ลูกค้า อีกทั้งยังเน้นมองหาพื้นที่ใหม่ ๆ เพื่อให้บริการดีลิเวอรี่และออมนิชาแนลได้กว้างขึ้น โดยเน้นเจาะไปที่มหาวิทยาลัย, อาคารสำนักงาน โดยเป้าหมายในการขยายสาขาสิ้นสุดปลายปีนี้ จะมีสาขาเพิ่มจำนวน 18 สาขา หรือเพิ่มขึ้น 8% และแผนของปี 2565 ตั้งเป้าเปิดจำนวน 30 สาขา หรือประมาณ 10% ของจำนวนสาขาเดิม
อีกทั้งยังได้สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ระหว่างเคเอฟซี ผนึก อาริกาโตะ แบรนด์ในเครือเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการร่วมสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ โดยต่อยอดแบรนด์แฟรนไซส์ กับแบรนด์ในเครือ ให้เติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน ผ่านการเปิดตัว “KFC Cafe’ by Arigato” ด้วยการนำจุดแข็งของ เคเอฟซี คือ เมนูไก่ทอด ซึ่งเน้นการขายแบบอาหารมื้อหลัก และ อาริกาโตะ แบรนด์เครื่องดื่มนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีจุดเด่นเครื่องดื่มกาแฟและชาเขียว มาช่วยสร้างการรับรู้ และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแบรนด์ อาริกาโตะ ให้กับลูกค้าทั่วประเทศได้เร็วขึ้น โดยคาดว่าสิ้นปี 64 นี้ จะมีจำนวนสาขา KFC Cafe’ by Arigato กว่า 220 สาขา
สิ่งสำคัญบริษัทยังทำงานร่วมกันกับ ยัม เรสเทอรองตส์ฯ ที่ยังคงให้การสนับสนุนแฟรนไชส์ให้สามารถรักษามาตรฐานของแบรนด์ ด้วยการซัพพอร์ตด้านโอเปอเรชั่น รวมไปถึงการช่วยพิจารณาในการเปิดสาขาใหม่ ควบคู่กับการสร้างสรรค์นวัตกรรม และแคมเปญลอยัลตี้การตลาดใหม่ ๆ ด้วยการร่วมมือกับแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อสร้างฐานลูกค้าและให้สอดรับกับความต้องการของคนรุ่นใหม่
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ยังน่าเป็นห่วง ผู้บริโภคมองหาความคุ้มค่ามากขึ้น จึงต้องให้ความสำคัญกับการจัดโปรโมชั่นถี่ขึ้นทุกช่องทาง เพื่อรองรับทราฟฟิกทีาเริ่มกลับมา ซึ่งประเมินว่าสถานการณ์และบรรยากาศการจับจ่ายจะเริ่มค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ
ความเห็น 0