โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

เรื่องสั้น

สตรีเช่นข้ามาพร้อมระบบเยี่ยมยุทธ

นิยาย Dek-D

อัพเดต 15 พ.ค. 2567 เวลา 15.59 น. • เผยแพร่ 15 พ.ค. 2567 เวลา 15.59 น. • หยกลายเมฆ
ฟางหรู ผู้บัญชาการจากหน่วยรบพิเศษหลี่เจี๋ย เธอถูกส่งไปทำภารกิจลับเพื่อชิงข้อมูลของระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะที่ชื่อว่า 'เอ้อหลางเสิน' ก่อนภารกิจจะลุล่วงเด็กชายปริศนาก็เข้ามาขวาง

ข้อมูลเบื้องต้น

ฟางหรู ผู้กองสาวแห่งหน่วยรบพิเศษหลี่เจี๋ย คนในกองทัพตั้งฉายาให้เธอว่ายัยจิ๋วหมาบ้าที่แค่ทหารในกองร้อยได้ยินก็ส่ายหน้าหนี สวยนะสวยอยู่แต่ดุฉิบหาย

เธอได้รับภารกิจให้บุกเข้าไปยังองค์กรลับนามว่าฉยงฉี เพื่อแย่งชิงข้อมมูลของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า เอ้อหลางเสิน ก่อนภารกิจจะลุล่วงเธอถูกเด็กชายหน้าขาวโจมตีส่งเธอพุ่งเข้ามายังซุปเปอร์คอมพิวเตอร์เอ้อหลางเสินพร้อมลูกระเบิด

แรงระเบิดมหาศาลทำเอาหูหาพร่ามัวตอนที่คิดว่าคงตายแล้วลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีนางมาอยู่ในร่างหญิงสาวที่ชื่อแซ่เดียวกับตัวเองบนเตียงหยกเย็นท่ามกลางเสียงสงครามอย่างงุนงงพร้อมระบบอัจฉริยะเอ้อหลางเสิน

(30ตอนแรกแต่ละตอนอาจจะสั้นหน่อยเพื่อดึงยอดวิวตอนที่ 31 ขึ้นไปความยาวตามปกติ)

นิยายแต่งจากจิตนาการของนักเขียนอาจจะขาดความสมจริงไปบ้างขออภัย

เนื้อหา : นางเอกเป็นแนวสู้คน ชอบทำอะไรเสี่ยงๆ

# พระเอกคลั่งรัก

# นางเอกก็คลั่งรักเช่นกัน

ปล. งดอัพทุกวันพุธ อาจจะมีหยุดบ้างตามกิจธุระโดยไม่แจ้งล่วงหน้า มีติดเหรียญสำหรับคนที่อดใจรอไม่ไหว

กำหนดติดเหรียญหลังจากเปิดให้อ่านฟรีครบ 24 ชั่วโมงแล้วจะไล่ทยอยปิดตอนเก่า

คำเตือน : อ่านก่อนติดเหรียญถาวรนะคะสำหรับใครที่ซื้อแล้วไม่ต้องซื้อซ้ำนะคะ

ขอบคุณทุกการสนับสนุน

ฝากนิยายเรื่องเก่าด้วยนะคะ เป็นคนละแนวกันแต่สนุกไม่ต่างกัน

เป็นจอมเวทอยู่ดีๆ ตื่นมาอีกทีข้ากลายเป็นจอมยุทธ

https://writer.dek-d.com/yoklaaimek/writer/view.php?id=2319520

เกิดใหม่ทั้งทีข้าอยู่ในฐานะสตรีอุ่นเตียง

https://writer.dek-d.com/yoklaaimek/writer/view.php?id=2234434

หน่วยรบพิเศษ01

“ก่อนอื่นต้องกราบขออภัยจากใจที่นักเขียนหายไปนาน เนื่องด้วยผู้แต่งเป็นพวกไม่มั่นใจในตัวเอง ทดลองเขียนนั้นเขียนนี้นับสิบเรื่องกว่าจะลงตัว สุดท้ายจึงได้มาเป็นเรื่องนี้ ไม่กล้าพูดว่าดีที่สุดแต่หวังว่าจะชอบกันนะคะ”

หยกลายเมฆ

…………………..

เวิ้งฟ้าสีน้ำหมึกที่มืดสนิทจนมองไม่เห็นแม้แต่ปลายมือของตัวเอง ยิ่งในอุทยานแห่งชาติป่าดิบชื้นไห่หนานที่ใหญ่ที่สุดในจีน พื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการสำรวจมีมากมายบนถนนลูกรังเป็นหลุมบ่อขรุขระคดเคี้ยวราวกับงูตัวใหญ่กำลังเลื้อยผ่านป่า

รถบรรทุกสีดำสนิทฝ่าความมืดอย่างช้าๆ แสงจากไฟหน้ารถเป็นสิ่งเดียวที่ส่องสว่างท่ามกลางราตรีแสนมืดมิด จุดหมายที่รถบรรทุกคันนี้กำลังจะมุ่งหน้าไปคือสถาบันวิจัยลับที่เรียกตัวเองว่า

‘ฉยงฉี’

อสูรในตำนานจีนโบราณตัวแทนแห่งความยั่วยุ ตามตำราซานไห่จิงพรรณนาว่ามันมีรูปร่างเหมือนเสือติดปีกที่กลืนกินผู้มีปัญญาเป็นอาหาร

ท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาลคนกลุ่มหนึ่งหมอบต่ำจ้องไปยังอาคารสีดำทะมึนขนาดใหญ่ โดยมีหญิงสาวร่างเล็กแต่งกายด้วยชุดลายพรางสีดำสลับเทา พร้อมเกราะกันกระสุนสะพายปืนไรเฟิลจู่โจม QBZ-95 ไว้แนบลำตัวคุกเข่าลงข้างหนึ่ง

รายล้อมไปด้วยผู้ชายร่างกายกำยำที่ล้วนแต่สูงกว่าเธอไปสองช่วงศีรษะ มองปลายนิ้วของเธอที่ชี้ลงไปยังอาคารนั้น

“ทวนภารกิจนะพวกเราจะแอบเข้าไปยังอาคารนั้นจากนั้นขโมยข้อมูลการวิจัยกลับออกมาทำให้เงียบที่สุด”

ชายหนุ่มกำยำดวงตาคมเข้มใต้แว่นมองกลางคืนที่เปลี่ยนราตรีให้สว่างได้เหมือนกลางวันกลอกตามอง

‘ฟางหรู’ ผู้กองสาวแห่งหน่วยรบพิเศษหลี่เจี๋ย คนในกองทัพตั้งฉายาให้เธอว่ายัยหมาบ้า ที่แค่ทหารในกองร้อยได้ยินก็ส่ายหน้าหนี แม้นว่าจะสวยอยู่บ้างแต่อัดผู้ชายที่สูงกว่าเธอสองเท่าลงไปกองมานักต่อนักเอ่ยย้อนถาม

“ข้อมูลแบบไหน”

“นั้นไม่ใช่เรื่องที่นายต้องรู้…รู้แค่ว่าพวกมันกำลังสร้างอาวุธที่อันตรายสุดๆ ขึ้นมา”

ชายหนุ่มอีกคนที่นั่งถัดไปหัวเราะในลำคอตบบ่าคนที่เพิ่งถูกเธอห้ามปรามไป

“ศูนย์สามนายถามเพื่อให้ถูกเจ๊ด่าใช่ไหมโรคจิตจริงๆ เลย”

คนถูกเปิดโปงหันขวับ “ศูนย์สองหุบปากไปเลย”

เธอไม่ได้ต่อว่าอะไรทั้งที่กำลังจะทำภารกิจเสี่ยงตายยังคุยเล่นกันได้แสดงว่ากำลังใจดี ทุกคนเป็นหัวกะทิของหน่วยรบพิเศษหลี่เจี๋ย (ฮีโร่) ที่คัดมาเฉพาะทหารชั้นยอดจากคนชั้นยอดอีกที

ทุกคนทิ้งตัวตนของตัวเองปิดทุกอย่างเป็นความลับเรียกขานกันด้วยโค้ดเนมมีแต่เธอที่รู้จักชื่อและประวัติของทุกคนกล่าวว่า

“ห้ามตายนะ นี้เป็นคำสั่ง”

“ครับ” ทุกคนขานรับในลำคอเสียงแผ่ว

เจ๊…ศูนย์เก้ามาแล้ว”

ชายหนุ่มโค้ดเนมศูนย์หกนอนราบอยู่บนพื้นหญ้าแนบดวงตากับท้ายกล้องที่วางอยู่บนปืนสไนเปอร์ McMillan TAC-50 เจ้ากระบอกที่เคยสร้างสถิติยิงไกลที่สุดในโลกไว้

เธอพยักหน้าเตือนทุกคนอีกครั้ง “เตรียมตัวทันทีที่ศูนย์เก้าให้สัญญาณพวกเราจะลงมือทันที”

ไม่มีเสียงตอบทุกคนพยักหน้ารับในความมืด บรรยากาศสนุกสนานสลายไปหลงเหลือไว้แต่บรรยากาศเคร่งขรึม “ประตูเปิดแล้วนับสาม…สอง…หนึ่ง”

ปัง!

รถบรรทุกที่ขับเข้ามายางแตกพอดิบพอดีตรงระหว่างกลางของประตู เสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นทันที

“ใครก็ได้หยุดไอ้สัญญาณบ้านี้ที” ทหารยามที่เฝ้าประตูหันไปบอกพวกพ้องของตน คนขับรถบรรทุกลดกระจกลงใช้นิ้วอุดหู

“โอ๊ยหูจะแตก…ปิดสัญญาณก่อน”

ทหารยามที่เพิ่งสั่งให้พวกพ้องของตนปิดสัญญาณคุ้นหน้าอีกฝ่ายดีตบประตูรถ “ขยับเข้าสิวะปิดประตูทางเข้าไม่ได้”

คนบนรถล้วงซองบุหรี่จากกระเป๋าเสื้อใส่ปากคาบแล้วจุดก่อนจะส่งต่อให้อีกฝ่าย

“ก็ยางแตกจะให้ขยับยังไงช่วยเข็นหน่อยสิพวก”

ทหารยามเฝ้าประตูรับบุหรี่จากมืออีกฝ่ายมาสูบต่อหันไปสั่งคนของตัวเอง

“เฮ้ย…ช่วยเข็นหน่อยสิจะได้ปิดประตู”

ตอนนี้เสียงสัญญาณเงียบลงแล้วศูนย์หกที่นอนราบอยู่บนเนินสูงเอ่ยปากทันที “ตอนนี้แหละสัญญาณเงียบแล้ว”

ไม่ต้องสั่งซ้ำหญิงสาวพร้อมพวกพ้องวิ่งฝ่าความมืดมือข้างหนึ่งยกชูเครื่องจักรหน้าตาคล้ายโดรนขนาดเล็กแต่มีพลังมหาศาลสามารถใบพัดทั้งสี่หมุนด้วยความเร็วสูงโดยไร้เสียงแค่พริบตาเดียว

หญิงสาวพร้อมคนในหน่วยทั้งเจ็ดก็ลอยอยู่กลางอากาศ คนบนรถกำลังสนทนากับทหารยามอีกฝ่ายยังคาบบุหรี่คาปากอยู่ ศูนย์หกปืนลั่นไกทันที ปัง! ศีรษะแตกกระจุยต่อหน้า ร่างกายไร้หัวไหลพรือลงไปกองกับพื้น ทหารยามเฝ้าหน้าตาเลิกลั่กรีบร้องเตือนกัน

“ถูกลอบ…”

หน่วยรบพิเศษ 02

ปัง! ปัง! ปัง!

ยังพูดไม่ทันจบประโยคคนขับรถบรรทุกก็ชักปืนยิงเข้าศีรษะทหารยามทั้งสามอย่างแม่นยำ พวกมันไม่ทันขยับตัวก็ร่วงลงไปกองกับพื้น

ทหารยามอีกคนที่ยืนอยู่อีกด้านมองไม่เห็นเหตุการณ์แต่ทันทีที่ได้ยินเสียงปืนก็รู้ว่าทุกอย่างผิดปกติแล้ว ยกปืนขึ้นประทับบ่าปากเพิ่งอ้าออกยังไม่ทันจะเปล่งวาจา

ปัง!

บนรถบรรทุกฝั่งคนนั่งมีชายอีกคนดีดตัวขึ้นจากเบาะยิงปืนสั้นทะลุกระจก เจาะเข้ากลางหน้าผากของมันอย่างพอดิบพอดี หงายหลังล้มฟาดเข้ากับกำแพง ชายที่นั่งฝั่งคนขับถอดแว่นกันแดดที่สวมก่อนจะลูบบริเวณลำคอ

ตัวเองลอกหน้ากากหนังออกเปลี่ยนใบหน้ากลายเป็นหัวหน้าทหารยามที่เพิ่งรับบุหรี่จากมือมันใน พริบตาเดียว คนที่นั่งฝั่งคนนั่งยักคิ้ว

“วิชาปลอมตัวเห็นตอนไหนก็ทึ่งนะนี้”

อีกฝ่ายลูบใบหน้าอีกครู่ตรวจสอบว่าไม่มีจุดบกพร่อง ค่อยหยิบแว่นดำกลับขึ้นมาสวม “แต่แววตาเปลี่ยนไม่ได้นี้แหละข้อเสีย”

[ศูนย์สี่เจ๊พร้อมแล้ว]

คนที่ถูกเรียกว่าศูนย์สี่ยกมือแตะวิทยุสื่อสารที่ใส่ไว้ในหูเอ่ยตอบรับ “รู้แล้ว…ศูนย์เก้าไป” หันไปพยักหน้าให้พวกพ้องอีกฝ่ายกระโดดลงจากรถส่วนตัวเองขับรถบรรทุกที่ยางแตกเข้ามาด้านในก่อนจะกระโดดตามลงมาประตูทางเข้าค่อยๆ ปิดลง

ศูนย์เก้าวิ่งอ้อมมาปีนขึ้นหลังรถที่ถูกผ้าใบคุมปรายตามองไปยังเครื่องกวนสัญญาณขนาดใหญ่ที่ทำลายระบบกล้องวงจรปิดทั้งหมดในระยะยี่สิบกิโลเมตร ศูนย์สี่เดินไปยังศพของหัวหน้าทหารยามจัดการถอดเสื้อผ้าอีกฝ่ายเอามาสวมแทน ชักมีดออกจากด้านหลังตัดนิ้วโป้งของร่างไร้วิญญาณออกมา

เดินย้อนกลับไปข้างแผงควบคุมที่ส่งเสียงร้องดังมาตั้งแต่เมื่อครู่เมื่อแตะนิ้วที่เพิ่งตัดมาลงไป หน้าจอสีดำก็ติดขึ้นคนที่อยู่อีกฝั่งเห็นว่าเป็นคนคุ้นหน้าไม่ได้สงสัยอะไรรีบถามกลับ

“เกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆ ปิดระบบสัญญาณเตือนภัยมีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่ากล้องวงจรปิดก็ตัดภาพไปเฉยเลย”

ศูนย์สี่เอ่ยตอบ “ไม่มีอะไร…ทางนี้ทุกอย่างปกติดี”

“งั้นเหรอแต่เหมือนระบบจะมีปัญหาจะบูทระบบรักษาความปลอดภัยนะ”

“อืม….เอาเลย” พูดจบจอตรงหน้าก็มืดดำไปอีกครั้ง ครู่ถัดมาเลเซอร์ที่อยู่เหนือตัวอาคารก็หายไป ศูนย์หกที่เฝาสังเกตการณ์รีบรายงาน

[เจ๊ระบบรักษาความปลอดภัยถูกปิดแล้วลงมือเลยมีเวลาแค่สามนาที] หญิงสาวที่เกาะโดรนลอยอยู่เหลียวมองผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนเตรียมตัวพร้อม

“ลงมือพร้อมกันในสาม…..สอง…..หนึ่ง” ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตาเดียวเธอคลายมือที่จับโดรนออก ยังไม่ทันถึงพื้นทหารยามสองคนที่ยืนอยู่ใกล้จุดที่เธอจะตกได้ยินเสียงลมแหงนหน้าขึ้น

ปัง! ปัง! กระสุนสองนัดจากที่ไกลๆ พุ่งฝ่าความมืดเจาะกะโหลกกระจุย

เสี้ยวพริบตาที่ปลายเท้าเธอแตะพื้นลงขอบกำแพงได้อย่างพอดิบพอดีกลิ้งตัวชักมีดเล่มเล็กออกมาจากด้านหลัง ทหารยามสองคนที่ถูกยิงร่างส่ายโงนเงน

เพื่อนของพวกมันทียืนเฝ้าประตูทางลงลิฟต์อยู่ห่างออกไปร้องถาม “เฮ้ย…เป็นอะไรไป”

มีดสั้นสองเล่มก็พุ่งแหวกความมืดปักเข้ากลางหน้าคนฝั่งขวา คนฝั่งซ้ายโชคดีกว่าตวัดด้ามปืนกระแทกมีดสั้นที่พุ่งมาให้กระเด็นพ้นตัวไปได้

“เฮ้ย”

ปัง! ร้องได้คำเดียวกระสุนอีกนัดก็พุ่งเจาะหน้าผากมันแทน

เธอวิ่งตัดผ่านทั้งสองร่างไร้วิญญาณที่ถูกศูนย์หกยิงจากระยะไกลไปปล่อยให้คนที่วิ่งตามหลังหิ้วร่างนั้นไปซ่อนก่อนที่ใครจะมาเห็น

ศูนย์สามที่วิ่งตามมายกปืนประทับบ่ายิงเฉียดผ่านด้านหลังของเธอ วัตถุสีดำคล้ายหัวลูกศรพุ่งปักลงไปที่ประตูลิฟต์อย่างแม่นยำ

ประตูที่ต้องการเปิดจากคนในห้องควบคุมเปิดออกช้าๆ ทันทีที่แสงเลเซอร์เหนืออาคารทำงานอีกครั้ง หญิงสาวพร้อมทีมเข้ามายืนด้านในลิฟต์ได้สำเร็จ

อาวุธมนุษย์ 01

“ทำไมกล้องวงจรปิดยังกลับมาทำงานไม่ได้อีก” ชายหนุ่มสวมแว่นส่งเสียงอย่างไม่พอใจทั้งที่รีบูทระบบแล้วกล้องวงจรปิดควรจะกลับมาทำงานได้แล้วแต่เหมือนมีอะไรรบกวนระบบอยู่

ตึ่ง!

ประตูของห้องควบคุมเปิดออกช้าๆ ชายหนุ่มสวมแว่นอดประหลาดใจไม่ได้คนที่ปรากฏตัวใบหน้าคุ้นเคยเป็นทหารยามเฝ้าอยู่ตรงส่วนประตูหน้าที่เพิ่งสนทนากันเมื่อครู่

สวมแว่นกันแดดปิดปังดวงตาใส่เสื้อเกราะกันกระสุนยกปืนประทับบ่ามาพร้อมคนที่ตัวเองไม่คุ้นหน้าอีกคน ไม่พูดพร่ำไม่บอกจุดประสงค์ ศูนย์สี่กับศูนย์เก้าเหนี่ยวไกยิงทันที

ปัง! ปัง! ปัง!

“อ๊าก…อ๊าก” คนในห้องควบคุมที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์จู่ๆ ก็ถูกยิงหมอบลงหนีตายจ้าละหวั่น ทหารสองคนที่ดูแลห้องควบคุมเป็นเป้าหมายแรกล้มกองสิ้นใจก่อนจะยกปืนประทับบ่าด้วยซ้ำ

“หมอบลง…แจ้งผู้บุกรุก” ชายหนุ่มสวมแว่นร้องบอกลูกน้องของตัวเองที่หมอบหลบหลังโต๊ะ กระสุนหลิวว่อนเหนือหัว ใกล้กับปุ่มสีแดงใหญ่สำหรับส่งสัญญาณเตือนทางนั้นกลั้นใจพยักหน้า

“ครับ”

ปัง!

“อ๊าก”

เด็กหนุ่มที่ยื่นแขนขึ้นไปเตรียมจะกดสัญญาณ ดิ้นพราดกุมข้อมือตัวเองที่ถูกยิงจนกระจุย เสียงปืนดังอยู่นานเกือบๆ สองนาทีค่อยสงบลง คนในห้องควบคุมเกินครึ่งร้องโอดครวญกับพื้นอีกส่วนก็สิ้นลมหายใจ ชายหนุ่มสวมแว่นรวบรวมความกล้าร้องตะโกน

“อาเติ้งแกทำอะไรทรยศองค์กรรึไง”

ศูนย์สี่หัวเราะลูบหน้าตัวเองถอดแว่นดำมาแขวนไว้ที่คอเสื้อ

“หมอนี้ชื่ออาเติ้งเหรอเพิ่งรู้นะนี่” ชายหนุ่มสวมแว่นค่อยๆ โผล่หน้าออกมาจากหลังโต๊ะปากสั่นหน้าซีดจนแทบจะเป็นกระดาษขาว

“แกเป็นใครกัน” ศูนย์สี่ยกปืนฟาดบ่ามืออีกข้างคีบบุหรี่ออกจากปากพ่นควันเป็นวงกลมก่อนตอบ “คนใกล้ตายจะรู้ไปทำไมอย่าขยับดีกว่าเปลืองกระสุน”

ศูนย์เก้าเดินอ้อมผ่านกลุ่มคนที่บาดเจ็บบนพื้นทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งแตะเครื่องมือสื่อสารในหูตัวเอง “เจ๊ทางนี้เรียบร้อยแล้วจะส่งเจ๊ลงไปข้างล่างเดี๋ยวนี้”

ฟางหรูยืนในส่วนที่ลึกที่สุดของลิฟต์โดยมีผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอยืนขวางหน้าไว้เป็นการคุ้มกันเธอในตัว หญิงสาวเอ่ยตอบ

“พร้อม” สิ้นเสียงตัวลิฟต์เคลื่อนที่ลงทันทีเร็วเท่าความคิดพวกเธอถูกส่งลงมายังใต้ดินที่ลึกจากพื้นผิวดินเกือบสองพันเมตร

ตึ่ง! ประตูลิฟต์เปิดออกหน่วยรบพิเศษหลี่เจี๋ย ตั้งโล่ใสวิ่งโถมออกไปพร้อมกันทันที

แต่เมื่อทั้งหมดเห็นภาพตรงหน้าผิดจากที่คาด คิดว่าจะเจอกองทหารคอยต้อนรับแต่ที่เห็นกับเป็นห้องสีขาวสะอาดขนาดใหญ่เพดานสูงสุดลูกหูลูกตาสว่างจ้า

แคปซูลสูงราวสองเมตรจำนวนนับร้อยด้านในมีเด็กชายหญิงวัยราวเจ็ดแปดขวบที่กำลังนอนอย่างสงบราวจำศีลในของเหลวสีฟ้าเคลื่อนไหวดุจฟองอากาศ

ศูนย์สองที่ถือโล่ใสปากอ้าค้างกวาดตามองอุทานออกมา “นี้มันเรื่องบ้าอะไรวะ”

ฟางหรูไม่สนใจนี้ไม่ใช่เป้าหมายของเธอ “ไม่ใช่เวลามาสงสัยภารกิจมาก่อน”

อีกฝ่ายไม่ยินยอมง่ายๆ “แต่เจ๊เด็กพวกนี้ไม่รู้ว่าถูกจับมารึเปล่าจะไม่ช่วยเหรอครับ” เธอกัดฟันมองเด็กสาวที่หลับตาพริ้มอยู่ในแคปซูลรายละเอียดภารกิจก็ไม่มีเรื่องนี้ ตัดสินใจด้วยตัวเองน้ำเสียงแข็งกร้าว “งั้นกวาดให้เกลี้ยงฉันรับผิดชอบเอง”

“ครับเจ๊” ทุกคนขานรับ

ตอนนี้ชายหนุ่มชุดกาวน์เดินหักเลี้ยวหักศอกตัดผ่านออกมาจากหลังแคปซูล ต่างฝ่ายสบตากันครู่หนึ่งแล้วก็ร้องโวยวายขึ้นทันที

“ผู้บุกรุก…อ๊าก…” ร้องจบประโยคศูนย์สองประทับท้ายปืนกับบ่าเหนี่ยวไกอย่างแม่นยำเจาะหน้าผากอีกฝ่ายเขามีลูกชายคนหนึ่งอายุใกล้เคียงกับเด็กที่นอนหลับอยู่ในแคปซูล

ไม่รู้ว่าไอ้พวกเดรัจฉานนี้จับเด็กมาทำการทดลองอุบาทว์อะไรแต่สมควรตายแล้ว สิ้นเสียงร้องพวกคนของศูนย์วิจัยรู้ตัวถึงผู้บุกรุกแล้วเธอสั่ง

“ศูนย์สองศูนย์สามช่วยเด็กๆ ที่เหลือตามฉันมา”

“ครับเจ๊” คนที่เหลือขานรับวิ่งตามเธอไป หญิงสาวเอ่ยปากถามคนที่อยู่ในระบบสื่อสารกับตัวเอง “ศูนย์เก้าไปทางไหน” ตอนนี้ในห้องควบคุมศูนย์เก้านั่งอยู่หลังมอนิเตอร์ที่บอกแผนผังของตัวศูนย์วิจัยนี้ทั้งหมดกล่าวตอบ

“ตรงไปสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายผมเปิดประตูให้”

ปัง! ปัง! เสียงปืนดังไปทั่วบริเวณเคล้าเสียงหนีตายของนักวิจัยที่ไร้อาวุธ ศูนย์เจ็ดศูนย์แปดวิ่งนำหน้าสุดเลี้ยวหักศอกก็เผชิญหน้ากับทหารยามกลุ่มหนึ่งสองฝ่ายยิงปะทะ

ฟางหรูกระโจนออกจากด้านหลังของผู้ใต้บังคับบัญชาโยนระเบิดแสงไปตกลงตรงหน้าคนพวกนั้นพอดิบพอดี

ตูม!

แสงสว่างวาบออกมา “อ๊าก…ฆ่าพวกมัน…” พวกมันร้องเสียงสูงตาพร่ามัว ยิงสะเปะสะปะกระสุนพุ่งอย่างไร้ทิศทาง ยิงถูกกระจกของแคปซูลจนแตกออก

เพล้ง!! น้ำเจิ่งนองเด็กที่อยู่ด้านในไหลออกมาตามน้ำ “อย่ายิงมั่วเดี๋ยวโดนตัวทดลอง” คนที่ร้องเตือนพวกพ้องสิ้นเสียงก็ถูกพวกของหญิงสาวส่งกระสุนเจาะร่างเป็นรูพรุนล้มตึง

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...