โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

จำคุก 12 ปี ไม่รอลงอาญา "นางมาวดี" ลูกสาวอาม่าฮวย ลักทรัพย์ 24 ล้าน

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 01 พ.ย. 2565 เวลา 16.20 น. • เผยแพร่ 01 พ.ย. 2565 เวลา 15.54 น.

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกนางมาวดี ศรีวิรัตน์ ลูกสาวอาม่าฮวย 12 ปี ไม่รอลงอาญา ลักทรัพย์ 24 ล้าน ทนายดัง ลั่น ฎีกาก็ลำบากแล้วกรรมที่ทำกับมารดา คือกรรมหนัก

จากกรณี วันที่ 1พ.ย.65 เมื่อช่วงเวลา 9.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 41 ศาลอาญาพระโขนง ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้นจำคุกนางมาวดี ศรีวิรัตน์ ลูกสาวอาม่าฮวย ศรีวิรัตน์ 12 ปี ไม่รอลงอาญา จากกรณีที่อาม่าฮวย มีบัญชีเงินฝากอยู่ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีสวนหลวง และ ถนนศรีนครินทร์(อุดมสุข) อีกจำนวน 24,000,000 บาท นางมาวดี ได้ถอนเงินจากบัญชีนางฮวย ไปซื้อกองทุนในนามตนเองซื้อประกันชีวิตในนามตนเอง และโอนเข้าบัญชีตนเอง เป็นจำนวนถึง 24,000,000 บาท

ทั้งนี้ ทางด้านทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช ได้เผยว่า นางฮวย(อาม่าฮวย) จึงได้ฟ้องนางมาวดีฯ เป็นคดีอาญา ที่ศาลอาญาพระโขนง คดีหมายเลขดำที่ อ.1668/2563 ระหว่างนางฮวย ศรีวิรัตน์ โดยนางสาวมินตรา ศรีวิรัตน์ ผู้รับมอบอำนาจ โจทก์ กับ นางมาวดี ศรีวิรัตน์ จำเลย ข้อหาลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,334 ซึ่งต่อมาศาลอาญาพระโขนง ได้คำพิพากษา ว่า

จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 ปีจำนวน 6 กระทง รวมจำคุก 12 ปี พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว การกระทำความผิดของจำเลยเป็นการกระทำต่อโจทก์

ซึ่งเป็นบุพการีโดยใช้โอกาสที่จำเลยเป็นผู้ดูแลระหว่างโจทก์เจ็บป่วย ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทั้งเงินที่จำเลยลักไปเป็นเงินจำนวนสูงมากนับเป็นเรื่องร้ายแรง ดังนั้นแม้ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน กรณีก็ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ จำเลยยื่นอุทธรณ์ และวันนี้ศาลอุทธรณ์ก็ได้มีคำพิพากษา

ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยยาวมากครับ แต่ที่สำคัญ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า…. จำเลยอาศัยความป่วยเจ็บของโจทก์ พาโจทก์ไปเบิกเงินยังธนาคารต่างๆ โดยที่โจทก์ไม่ยินยอม ทั้งการซื้อกองทุนในนามจำเลย ซื้อประกันชีวิตในนามจำเลย และนำเงินเข้าบัญชีในนามของจำเลยเอง…การยักย้ายถ่ายโอนเงินของโจทก์เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ถือเป็นการทุจริต อีกทั้งผิดวิสัยของผู้เป็นบุตรผู้พึงกตัญญูรู้คุณมารดา แต่กลับลักเอาเงินของโจทก์ ซึ่งเป็นมารดาไปโดยทุจริต และจำเลยนำเงินบางส่วนไปลงทุนในกิจการรีสอร์ทของจำเลยตามภาพถ่ายการก่อสร้างทั้งตั้งรีสอร์ท และสำเนาโฉนดที่ดิน เอกสาร จ.44 พฤติการณ์จำเลยมีเจตนาเอาเงินของโจทก์ไปโดยทุจริต….พิพากษายืน

ฎีกาก็ลำบากแล้วครับนางมาวดี !

กรรมที่ทำกับมารดา คือกรรมหนักครับ !

น่าสงสารอาม่าฮวยจริงๆ ครับ ผมอยากให้ทุกท่านได้มาเห็นสภาพอาม่าฮวยในตอนนี้จริง ๆ แล้วท่านจะพูดว่า… “ไม่น่าทำกับแม่เลย ! “

หมายเหตุ ส่วนคดีที่ศาลอาญาพระโขนง คดีหมายเลขดำที่ 3228/2562 ฯ ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ นางฮวย เป็นโจทก์ร่วม กับ นางมาวดี กับพวกรวม 5 คน เป็นจำเลย ที่ถูกกล่าวหาว่า ลักเงินไปจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด จำนวน 200 กว่าล้านบาทนั้น ศาลอาญาพระโขนงนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.30 น.

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0