ช็อกทั้งบ้าน หนุ่มซิ่งปิกอัพเสียหลักเหินฟ้า พุ่งขึ้นหลังคาชั้น2 บ้านพังยับ
หนุ่มซิ่งปิกอัพแฉลบน้ำพุ่งเหินฟ้าทะลุหลังคาบ้านชั้น 2 คน รถพังยับคนขับเจ็บเล็กน้อย เจ้าของบ้านเผยนาทีชีวิตรอดตาย แต่บ้านและรถยนต์ที่บ้านพังยับ
วันที่ 13 มิ.ย. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถปิกอัพชนบ้านประชาชนรถพุ่งไปอยู่บนหลังคาบ้าน ที่ถนนทางเข้าบ้านนาดอน หมู่16 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฯ มูลนิธิสว่างเมธาสถานฯ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหลังหนึ่ง ติดริมถนน และเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น บนหลังคาบ้านพบรถปิกอัพ โตโยต้ารีโว่ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน กม 1339 อุดรธานี ติดอยู่บนหลังคาชั้น 2 จากนั้นรถค่อย ๆ เลื่อนไถลลงมาติดหลังคาห้องที่ติดอยู่กับบ้านด้านล่าง ขณะที่คนขับเป็นชาย อายุ 21 ปี ขับมาคนเดียว ค่อย ๆ เปิดประตูรถลงมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แขนขวามีรอยถลอก
ขณะที่เจ้าของบ้านและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ต่างพากันมามุงดูจำนวนมาก ขณะเดียวกันบริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน พบรถปิกอัพโตโยต้า รีโว่ สีดำ สภาพด้านหน้าจากห้องคนขับไปถึงตัวเครื่องพังยับเยิน ซึ่งเป็นรถของเจ้าของบ้าน นอกจากนี้ยังพบว่าตัวบ้านพังไปครึ่งหนึ่ง จั่วหน้าบ้านก็ถูกแรงชนของรถจนเสาเอียง
นางแก้วกัลยา อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน ยังมีอาการช็อก เปิดเผยว่า ไม่รู้เหมือนกันรถขึ้นไปได้ไง กำลังนอนหลับนอนฝันอยู่ดี ๆ ประมาณตี 2 ครึ่งได้ยินเสียงโครม เท่านั้นแหละบ้านก็สะเทือนแรงมาก ตนสะดุ้งตื่นตกใจวิ่งออกมาจากบ้าน เห็นรถขึ้นไปอยู่บนหลังคาชั้น 2 แล้ว ตกใจและขาสั่น รีบวิ่งบอกลูกและลูกสะใภ้ออกมา แต่โชคดีที่เขาไปนอนอีกห้อง หากนอนห้องที่อยู่ข้างบ้าน ชีวิตคงไม่รอดแน่ งงมากทางหน้าบ้านเป็นถนนตรง รถขึ้นไปหลังคาบ้านได้อย่างไร หากรถคันนี้ไม่ชนรถคันดำของแม่ รับรองรถพุ่งเข้าบ้านมีคนตายแน่นอน
ส่วนลูกสะใภ้เจ้าของบ้าน บอกว่า ขณะที่หลับอยู่ได้ยินเสียงโครมรีบตื่นออกมาวิ่งมาหน้าบ้านก็เห็นรถไปอยู่บนหลังคาแล้ว เบื้องต้นเขาอ้างว่า รถที่วิ่งสวนมาเปิดไฟสูงใส่ทำให้เสียหลักพุ่งชนบ้านเหาะไปถึงหลังคา ขณะที่เจ้าหน้าที่ฯ ตรวจสอบทราบว่า คนขับรถมาด้วยความเร็ว คาดว่าจะตกหลุมน้ำขังที่อยู่บนบ่อกลางถนนทำให้รถเสียหลักพุ่งเหาะเหินฟ้าขึ้นบ้านทะลุหลังคา
จากการตรวจสอบ พบร่องรอยของรถที่คาดว่าจะตกหลุมบ่อกลางถนนแล้วเสียหลักพุ่งไปชนรถของเจ้าของบ้านแล้วเหินฟ้าขึ้นไปบนหลังคาชั้น 2 โดยเจ้าของบ้านยังตกใจไม่หาย แต่ก็โชคดีที่รอดมาได้ทั้งบ้าน
ด้าน นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า เมื่อวานฝนตกมาตอนเย็น แต่ตอนกลางคืนอากาศร้อน ปกติจะนอนข้างบ้านทุกวัน แต่เมื่อคืนรู้สึกร้อนรุ่มยังไงไม่รู้ จึงพาภรรยาและลูกไปนอนภายในบ้าน รอดตายมาได้ เชื่อเจ้าที่ปกป้องคุ้มครองบ้าน ดลใจให้ไปนอนที่อื่นจะต้องมีเหตุร้ายแน่ จากนั้นไปคงพากันทำบุญสะเดาะห์บ้านครั้งใหญ่อีกที ส่วนค่าเสียหายคงต้องไปแจ้งความดำเนินคดีและพูดคุยกับคนขับรถว่าจะเอาอย่างไร ดูค่าเสียหายทั้งรถและบ้านไม่ต่ำกว่าล้านแน่