16 กรกฎาคม 2567 "ปลาหมอคางดำ" สัตว์น้ำ "เอเลี่ยนสปีชีส์" ที่แพร่ระบาดทำลายระบบนิเวศของไทย ล่าสุด โลกออนไลน์ต่างแชร์เมนูเด็ด จากปลาหมอคางดำ จากหลากหลายเมนู เพื่อแก้แค้นให้ธรรมชาติ
คำถามที่ว่า ปลาหมอคางดำ กินได้ไหม อันตรายไหม ได้รับการยืนยันว่ารับประทานได้ ไม่อันตราย "รสชาติ และเนื้อสัมผัสเหมือนปลานิล" พวกมันกินสัตว์น้ำเป็นอาหาร "ไม่ต่างจากปลาแม่น้ำประเภทอื่นๆ" เพียงแต่ที่ต้องช่วยกันกินเยอะๆเพราะพวกมันกำลังทำลายความอุดมสมบูรณ์ทางน้ำของไทยนั่นเอง
อ้างอิงจากข้อมูลปลาหมอ calforlife.com พบว่าปริมาณ 100 g มีพลังงานทั้งหมด 77 กิโลแคลอรี่, โปรตีน 17 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 0 กรัม, ไขมัน 1 กรัม
ข้อมูลจาก หนังสือปลาน้ำจืด โดย นณณ์ ผาณิตวงศ์ ครีเอทเมนู "ปลาทอดกรอบจิ้มซีฟู้ด" ระบุว่า "กลิ่นคาวกว่าปลานิล กลิ่นคล้ายๆปลาแปบ (ปลากินเนื้อขนาดเล็กตระกูลปลาตะเพียน) เผยปลาหมอคางดำ "รสชาติดี ไม่มีก้างฝอย" โดยมีชาวเน็ตมาคอมเมนท์เพิ่มเติมว่าทำเป็น ปลาราดพริก, ผัดกะเพรา หรือตากเค็ม ก็อร่อยเหมือนกัน
ขณะที่ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างแชร์ ไอเดียเมนูอาหาร จากปลาหมอคางดำ มากมาย
-ข้าวเกรียบปลา
-ไส้อั่วปลา
-แกงส้มปลาหมอคางดำ
-ฮือก้วยหมอคางดำ
-ปลาทอดกรอบ
-ภาควิชาผลิตภัณฑ์ประมง คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แนะนำเมนูเด็ด “ขนมจีนน้ำยาปลาหมอคางดำ”
-ปลาแดดเดียว อันนี้ หากจับได้ตัวเล็กๆ สามารถนำมาทอดกรอบทั้งตัวจิ้มกับพริกน้ำปลา หรือถ้ามีขนาดใหญ่สามารถแล่เนื้อออกมา ปลาหมอคางดํามีก้างใหญ่ เลาะเนื้อได้ไม่ยาก นำมาปรุงรส ตากแดดให้พอแห้ง ทอดให้เหลืองกรอบกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เข้ากันดีนัก
-ปลาหวาน นำ ปลาหมอคางดํา หรือ ปลาหมอสีคางดํา แล่เฉพาะเนื้อปลาออกมาหั่นเป็นเส้นๆ แล้วปรุงรสตามกรรมวิธีทำปลาหวานที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ทุกเสียงยืนยันว่า ความอร่อยไม่แพ้ปลาริวกิวหวานที่หลายคนชอบรับประทานกันเลยทีเดียว หรือจะนำมาหมักเป็นปลาร้า ก็อร่อยไม่เบานะ