โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

มติกัมพูชาฉลุย! ยื่นข้อพิพาทชายแดนไทย ฟ้องศาลโลก

อีจัน

อัพเดต 02 มิ.ย. เวลา 13.00 น. • เผยแพร่ 02 มิ.ย. เวลา 05.35 น. • อีจัน

วันนี้ (2 มิ.ย. 68) ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติและคณะกรรมการร่วมวุฒิสภา ว่า การที่กัมพูชาเชิญชวนให้ไทยเข้าร่วมกับราชอาณาจักรในการยื่นคดีร่วมต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นวิธีการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาทางการทูตแก่ราชอาณาจักรเพื่อนบ้านอย่างมีเกียรติ

พร้อมกล่าวย้ำว่า หากไทยยังคงหลบเลี่ยงทางเลือกนี้ต่อไป “ก็ชัดเจนว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่เบื้องหลัง”

ฮุน เซน ตั้งข้อสังเกตว่า บันทึกความเข้าใจปี 2000 ที่ลงนามโดยทั้ง 2 ประเทศนั้นใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากผ่านไป 25 ปีแล้วที่ยังไม่มีข้อยุติ พร้อมเน้นย้ำถึงข้อเท็จจริงที่ทหารกัมพูชาเสียชีวิตในการปะทะครั้งล่าสุด

“หากเราไม่ปล่อยให้ศาลตัดสิน เรื่องนี้ก็จะเหมือนกับกาซา ระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลที่ไม่มีวันจบสิ้น มีการสู้รบอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ทำไมต้องกลัวการขึ้นศาล ถ้าเราจริงใจ” ฮุน เซน กล่าว

ในระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมรัฐสภาและวุฒิสภา จำนวนสมาชิกวุฒิสภาและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวม 182 คน ได้ลงคะแนนเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลที่จะนำประเด็นชายแดนไทย ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

ด้าน ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่ากัมพูชาไม่มีเจตนาที่จะยึดครองดินแดนของใครอื่น และเพียงแต่พยายามรักษาพรมแดนทางบกที่หลงเหลือจากอาณานิคมของฝรั่งเศส และสืบต่อมาภายใต้พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ได้สูญเสียดินแดนไปเป็นจำนวนมากแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่เป็นเพียงหยิบมือเดียวและเราต้องปกป้องมัน

“กัมพูชาตั้งใจแน่วแน่ ที่จะนำประเด็นนี้เข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ไม่ว่าไทยจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม ขณะที่การเจรจาผ่านคณะกรรมการชายแดนร่วมยังคงดำเนินต่อไป เขาเรียกร้องให้นักการเมืองและประชาชนกัมพูชายืนหยัดเคียงข้างกองทัพ”

“นี่คือเวลาที่ประเทศของเรา จะต้องร่วมมือกันเตรียมพร้อมที่จะปกป้องประเทศและบูรณภาพแห่งดินแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยืนหยัดเคียงข้างกองกำลังติดอาวุธของเรา ความแตกต่างทางการเมืองสามารถหารือได้ในโอกาสอื่น แต่สิ่งใดก็ตามที่ส่งผลกระทบต่อจิตวิญญาณและดินแดนของเราควรถูกละทิ้งไป นี่ไม่ใช่เวลาที่จะแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองภายในหรือการต่อต้าน” ฮุน มาเนต กล่าว

ขอบคุณข้อมูล : The Phnom Penh Post

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...