สำหรับสตรีเรา นอกจากจะถูกคุกคามจากโรคทั่วไป เช่น เบาหวาน ความดัน โรคไต โรคตับ โรคหัวใจ โรคหอบหืด ภูมิแพ้ โรคกระเพาะลำไส้ เป็นต้น เช่นเดียวกับผู้ชายแล้ว ยังต้องเผชิญกับโรคสตรี ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของสตรีเอง เช่น ประจำเดือนไม่ปรกติ การตั้งครรภ์และการคลอดบุตร ให้นมบุตร ล้วนอยู่คู่กับสตรีมาตลอด ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดโรคต่างๆ เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ของสตรีไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
เมื่อไม่นานมานี้ มีผู้ป่วยสตรีท่านหนึ่งเล่าว่า ก่อนคลอดร่างกายแข็งแรงมาก ขณะกำลังท้องยังออกกำลังกายได้ เธอคลอดด้วยวิธีผ่าท้อง หลังผ่าคลอดมีอาการเจ็บฝ่าเท้าทั้ง 2 ข้าง ตื่นเช้ามาลงจากเตียงเท้าย่ำที่พื้นเจ็บมากจนไม่กล้าลงฝ่าเท้าแรงๆ เวลาเดินก็เจ็บ ปลายมือปลายเท้าไม่มีแรง
หลังคลอดไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ ผ่านไป 1 เดือนจึงได้ประคบด้วยแผนไทย 7 วัน แต่อาการเจ็บฝ่าเท้า ปลายมือปลายเท้าไม่มีแรงที่เกิดขึ้นหลังผ่าตัดยังไม่ดีขึ้น หลังคลอด 1 เดือน ตรวจพบเซลล์ปากมดลูกผิดปรกติ หมอผ่าตัดไป 1 ครั้ง ผ่านไป 3 เดือนผ่าอีก 1 ครั้ง
ตอนนี้รู้สึกร่างกายอ่อนเพลียมาก กลัวหนาว เวลาฝนตกหนาวเข้ากระดูก ยังเจ็บฝ่าเท้าเหมือนเดิม มือเท้าอ่อนแรง นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ขับถ่ายไม่ดี ปัสสาวะตอนกลางคืน ไม่สบายตัวไม่โล่ง ไม่สดชื่น รักษามาหลายที่ไม่หาย เครียดกังวลว่าจะอยู่ได้ถึงลูกโตหรือเปล่า
ตามหลักของแพทย์แผนจีนหลังคลอด 1 วัน (กรณีคลอดเอง) ต้องเอนนอนไม่ให้นอนราบ วันที่ 2 ให้กินอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย อาหารที่อบอุ่น วันที่ 3 ไม่ให้โดนลม โดนแอร์ ไม่สระผม ไม่ซักผ้า ไม่พูดมาก ไม่ใช้สายตา ดื่มน้ำร้อนกินอาหารที่มีฤทธิ์ร้อน ห้ามอาหารเครื่องดื่มหนาวเย็น อาหารที่บำรุงเลือด (ทำเช่นนี้ตลอดทั้งเดือน ที่เรียกกันว่าอยู่เดือนหรืออยู่ไฟ) วันที่ 4 ต้องกินยาขับน้ำคาวปลา หลังจากนั้น 10 วันจึงนอนราบได้ ใช้ฝ่ามือลูบท้องเพื่อให้น้ำคาวปลาไหลสะดวก หลังจากนั้นต้องบำรุงเลือด เพราะตอนคลอดเสียเลือดมาก พักผ่อนให้ดีตลอดทั้งเดือน
ถ้าทำไม่ได้ตามนี้ หลังคลอดร่างกายจะอ่อนแอมาก ที่เรียกกันว่า "โรคหลังคลอด" ผู้ป่วยจะไม่สบายเนื้อสบายตัว ปวดเนื้อปวดตัว ขี้หนาว พอฝนตกจะหนาวเข้ากระดูก ใส่เสื้อก็ไม่หายหนาว อ่อนเปลี้ยเพลียแรง ไม่สดชื่น พอไปตรวจร่างกายกลับไม่พบความผิดปรกติใดๆ เลย
เลือดสำคัญที่สุดสำหรับสตรี ตอนตั้งครรภ์ต้องใช้ชี่เลือดมาก ตอนคลอดก็เสียเลือดและเสียพลังชี่มาก การบำรุงชี่เลือดและพักผ่อนให้เพียงพอหลังคลอด จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แต่เธอก็พลาดนาทีทองไป ลูก 1 ขวบ 7 เดือนแล้ว อาการดังกล่าวกลับมากขึ้น จนหมดกำลังใจ หลังฝังเข็มไป 1 ครั้ง กินยาจีนบำรุงไป 5 วัน อาการเจ็บเท้าหายไป นอนหลับได้ลึกทั้งคืน ไม่ลุกปัสสาวะ สบายตัว สบายใจ ถ่ายดี ท้องไส้โล่ง มีกำลังใจว่าน่าจะอยู่จนเห็นลูกเข้ามหาวิทยาลัยได้
ไพรเวชคลินิก สาขา สวนผัก ตลิ่งชัน เปิดทำการแล้ว รายละเอียดที่เว็บไซต์ของไพรเวชคลินิก หรือ โทร.09-4636-6195 ค่ะ
ความเห็น 0