“มิ้ง โป๊ะแตก” คนเดียว! ชาวเน็ต “โป๊ะแตกทั้งประเทศ”!!
สวัสดีค่ะคุ้ณณณณณ สด ๆ ร้อน ๆ ร้อน ๆ สด ๆ แอร๊ยยยย เจ้อยากจะกรี๊ดแบบไม่ไหวแล้ววววว สาแก่ใจอีช้อยนักกับกระแสข่าวที่น้องมิ้งคนสวยออกมาบอกว่า "แท้ง" แล้วค่าาาาาา แหม… แท้งจริงหรือมั่วชัวร์หรือไม่ เจ๊ก็ไม่รู้นะคะ แต่เจ้เดาเอาว่าคงไม่ท้องตั้งแต่แรกอะ ว้ายยยยย
เจ้ไม่ได้บอกนะคะว่าหมายถึงมิ้งไหน คนชื่อมิ้งมีเป็นล้านคน อย่าเอาไปเล่าต่อนะคะว่าเจ้เอามาเม้าว่าหนูมิ้งตรงนี้ ว้ายยยย
แต่เอาเถอะค่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เจ้ก็ขอเล่าเรื่องแฮชแท็ก #มิ้งโป๊ะแตก หน่อยก็แล้วกันค่ะคุณขา คือเมื่อไม่นานมานี้เจ้ก็เห็นคนโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ไปทำนองว่า "มิ้งโป๊ะแตก" เนี่ยสะกดผิด
ตามนี้ค่ะ
เดี๋ยวก่อนหนู ใจเย็นเนาะ คือจะแหกชาวบ้านเนี่ย เราต้องมั่นใจก่อนว่ามีความรู้จริง ๆ ไม่ใช่แค่อยากจะแหกก็แหก อยากจะพูดก็พูด
คือหนูต้องเข้าใจก่อนว่า ม ม้า เป็นอักษรต่ำเนาะ ละคือถ้ามันเป็น "คำเป็น" เนี่ย ถ้าไม่มีเสียงวรรณยุกต์จะเป็นเสียงสามัญ ถ้าเป็นรูปวรรณยุกต์เอกมันจะอ่านเป็นเสียงโท ถ้าเป็นรูปวรรณยุกต์โทมันจะเป็นเสียงวรรณยุกต์ตรี คือต้องแยกให้ออกว่า "รูป" กับ "เสียง" มันคนละอย่างกัน ไม่ใช่ว่ารูปไม้เอกแล้วต้องเสียงเอก รูปไม้โทแล้วต้องเสียงโทเนาะ ต้องทำความเข้าใจใหม่เนาะ ความรู้ประถมเนาะ
อย่างเช่นคำว่า "ม้า" รูปวรรณยุกต์คือไม้โท แต่เสียงที่เราเปล่งออกมาเนี่ยมันเป็นเสียงตรี อย่างที่หนูเขียนคำว่า "นี้" อะ ใช้ทฤษฎีเดียวกันเลย คือ น หนูเป็นอักษรต่ำ คำนี้ไม่มีเสียงตัวสะกดและเป็นสระเสียงยาวก็จะเป็น "คำเป็น" เมื่อเป็นรูปวรรณยุกต์โทก็จะทำให้ออกเสียงเป็นเสียงรี เช่นเดียวกับคำว่า "มิ้ง" ไงคะหนู ม ม้าเป็นอักษรต่ำ แล้วพอมี ง งูมาสะกดก็แแสดงว่าเป็น "คำเป็น" ถ้าใช้ไม้เอกเป็น "มิ่ง" ก็จะเป็นเสียงวรรณยุกต์โท แต่ถ้าสะกดว่า "มิ้ง" รูปที่เรามองเห็นเป็นวรรณยุกต์โทแต่เสียงวรรณยุกต์เป็นเสียงตรี ซึ่งนี่คือการสะกดที่ถูกต้องของชื่อที่ออกเสียงว่า "มิ้ง" อย่างที่เห็นในข่าวเลยค่ะคุณขา อุ๊ปส์ เจ้ไม่ได้บอกนะคะว่าข่าวอะไร ว้ายยยยย แต่เจ้บอกเลยค่ะว่าทวีตนี้โป๊ะแตกไม่ต่างจากชีมิ้งเลยค่า
เอ้า! มีคนส่งอีเอ็มเอสมาถามเจ้อีกว่าทำไมต้องเป็น "โป๊ะแตก" ด้วยคะ ได้ค่ะได้ เจ้พร้อมตอบทันที
คือคำว่า "โป๊ะ" เนี่ย ตามพจนานุกรม แปลว่าอุปกรณ์สำหรับดักปลาทะเล ทำด้วยเสาไม้จริงปักเป็นวงไม้ไผ่ทำเป็นเฝือกกรุข้างใน มีประตูตรงกลาง ข้างประตูโป๊ะใช้เสาไม้ไผ่จริงปักยาวเหยียดออกไปทั้ง 2 ข้าง เพื่อกั้นปลาให้ว่ายเลียบเลาะเข้ามาโป๊ะ หรือถ้าใครอ่านแล้วไม่เข้าใจก็รู้แค่ว่า "โป๊ะ" แปลว่าอุปกรณ์ดักจับสัตว์ทะเลพวกกุ้ง หอย ปู ปลา นั่นแหละ ละพอ "โป๊ะ" มันแตก บรรดาอาหารทะเลต่าง ๆ นานก็จะออกมามากมาย
ซึ่งถ้าเราไปเปิดในพจนานุกรม เขาก็จะบอกว่า "โป๊ะแตก" แปลว่า ชื่ออาหารอย่างหนึ่ง ใช้ของทะเล เช่น หอยแมลงภู่สด ปลากะพง ปูม้า ปลาหมึก กุ้ง ต้มในน้ำเดือดซึ่งมีตะไคร้ ใบมะกรูด หัวหอม รากผักชี ปรุงรสเปรี้ยวเค็มด้วยมะขามหรือมะนาว น้ำปลา พริกขี้หนู พริกแห้งเผา
โอ๊ยยยย พูดไปละเจ้ก็อยากจะสั่งโป๊ะแตกมากินสักหม้อสองหม้อ แต่เจ้ว่าอย่าเพิ่งดีกว่าค่ะ เพราะว่ามีเรื่องของหนูน้องมิ้งเผ็ดแซ่บร้อนแรงเกินหน้าต้มยำโป๊ะแตกไปอี๊กกกกก
เอ้า! มีคนถามมาอีกว่า "โป๊ะแตก" ที่ปรากฏในแฮชแท็ก #มิ้งโป๊ะแตก นี่เกี่ยวอะไรกับชื่ออาหารไหม ได้! เจ้จะตอบให้ คือถ้าเอาจริงก็ไม่เกี่ยวเท่าไหร่หรอกค่ะ แค่ชื่ออาหารชนิดนี้มันดันไปพ้องกับความจริงที่เกิดขึ้นเท่านั้นเองค่ะ
คือคำว่า "โป๊ะ" ในภาษาของคนสมัยนี้มีความหมายว่า การทำอะไรไม่ดีจนชาวบ้านชาวช่องเห็นกันทั่วหรือการที่ใครโกหกอะไรสักอย่างแล้วถูกจับได้ บางครั้งก็จะเรียกว่า "โป๊ะแตก" หรือ "ถูกจับโป๊ะ" นั่นเอง อย่างกรณีของน้องคนนี้เนี่ย ก็ตั้งแต่ที่น้องออกมาให้ข่าวว่าท้องกับนัดแสดงชายคนหนึ่ง แล้วก็มีชาวเน็ตมากมายรุมประณามน้องผู้ชายแบบแทบไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด เทใจให้ฝ่ายหญิงแบบมีเท่าไหร่เอาใจไปเลยจ้าาาาา แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ท้องน้องผู้หญิงก็ไม่ได้โตขึ้นสักที สิ่งที่เพิ่มก็น่าจะมีแค่ยอดเงินในบัญชีที่ผันตรงตามปริมาณสปอนเซอร์ต่าง ๆ ที่มาจ้างน้องนางถือผลิตภัณฑ์โพสต์ลงไอจีโดยที่ก็ไม่รู้ว่านางใช้จริงหรือเปล่า แต่เจ้คิดว่าไม่หรอก ว้ายยยยยย
เรียกได้ว่าเป็นข่าวครั้งเดียว รวย ๆ ๆ ๆ มีเงินไปเลี้ยงลูกในท้องที่ไม่มีตัวตนไปอีกนานเลยค่าาา เอ…เลี้ยงลูกหรือเลี้ยงแม่ เจ้ก็ชักไม่แน่ใจ
อีกเรื่องที่เป็นตัวอย่างของคำว่า "โป๊ะ" หรือ "โป๊ะแตก" ในความหมายนี้ได้เป็นอย่างดี ก็ตอนที่นังหนูออกมาแถลงว่าท้องใหม่ ๆ น่ะค่ะ ชาวเน็ตก็พร้อมใจกันทวีต เข้าข้างฝ่ายหญิง เพราะตอนนั้นกระเสด้านบวกเทไปที่นางไม่น้อย ก็ร้องไห้สวยขนาดนั้นอะเนาะ
ชาวเน็ตเหล่านี้คิดว่า "กัปตันกับคุณแม่" เป็นฝ่ายผิด เลยออกมาด่าเสีย ๆ หาย ๆ แต่พอความจริงปรากฏขึ้นมา มีคนออกมาจับโป๊ะ ชาวเน็ตบางคนก็หน้าแตกแหกกระจายไปค่ะ บางคนก็รีบลบโพสต์หนีความผิด ไม่คิดแม้แต่จะออกมาขอโทษที่ได้ด่าไปแล้ว ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้จะรู้เรื่องรู้ราว ไม่รู้สี่รู้แปดเลยสักนิด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็สามารถเรียกว่า "โป๊ะแตก" ได้เหมือนกันค่ะ ก็กลับตาลปัตรกันไป กลายเป็นว่าคนที่ถูกแหกต่อก็คือคนที่มาด่า กัปตันกับคุณแม่ เสีย ๆ หาย ๆ นี่แหละ
เจ้เห็นก็มีหลายคนอยู่นะคะที่ออกมาให้ความเห็นว่าคนที่ "โป๊ะแตก" นอกจากชีมิ้งก็คือ "ชาวเน็ตทั้งประเทศที่ออกตัวแรง" แหละ
บางส่วนก็ดีนะคะที่รู้ตัวว่าผิดก็ออกมาขอโทษด้วย อันนี้เจ้ชื่นชมจากใจค่ะ ชื่นชมที่มาขอโทษนะคะ แต่เจ้ว่าจะน่าชื่นชมกว่านี้ค่ะ ถ้ารู้ความจริงแล้วค่อยแสดงความเห็น ไม่ใช่สักแต่ว่าอยากจะรีบเกาะกระแสโดยยังไม่ทันรู้ข้อเท็จจริง ละอีกอย่างที่เจ้ล่ะง้งงงก็คือ ตอนด่าเนี่ยด่าเป็นร้อยเป็นพัน แต่มาขอโทษกันไม่ถึงสิบ!
เอาล่ะค่ะ เจ้ว่าเจ้ก็พล่ามเรื่อง #มิ้งโป๊ะแตก มามากพอแล้วเนาะ บางคนถามมาอีกว่าทำไมเจ้ไม่เล่าลงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน่อย เจ้ขอบอกตรงนี้เลยค่ะว่าเจ้ก็เป็นเพียงป้าข้างบ้านตัวเล็ก ๆ เจ้ไม่ได้รู้เรื่องชาวบ้านเยอะไปกว่าที่แอบส่องอยู่ข้างรั้วหรอกค่ะ ไม่ใช่เรื่องของเจ้ด้วย เจ้ว่าเจ้ไม่เผือกดีกว่า เจ้กลัวโป๊ะแตก ว้ายยยยยยย
