Telegram เริ่มปิดกั้นช่องทางสื่อสารของกลุ่มฮามาส
Telegram เริ่มปิดกั้นช่องทางเผยแพร่ข่าวสารของกลุ่มฮามาส หลังสมาชิกกลุ่มแชตของกองกำลังฮามาสเติบโตอย่างรวดเร็วนับจากเริ่มสงครามอิสราเอล-ฮามาส
วันที่ 27 ตุลาคม 2566 สำนักข่าว CNN รายงานว่า Telegram ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียประเภทแอปส่งข้อความ ได้จำกัดการเข้าถึงห้องสนทนาหลายช่องทางที่มีความใกล้ชิด หรือดำเนินการโดยกลุ่มฮามาส ซึ่งใช้เป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
ในคอลัมน์ Tech Times โดย มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ ใน “ประชาชาติธุรกิจ” ได้พูดถึงแพลตฟอร์ม Telegram ในช่วงต้น ๆ ของสงครามว่าเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่มีการอนุญาตให้กลุ่มฮามาส ซึ่งถูกหมายหัวจากสหรัฐ และยุโรปว่าเป็นผู้ก่อการร้ายใช้งานได้
เนื่องจากจุดเด่นของแพลตฟอร์ม คือ การไม่ต้องคอยกลั่นกรองเนื้อหาและไม่ต้องคอยเซ็นเซอร์ เปิดกลุ่มใช้งานง่าย ทำให้มีความนิยมใช้งานในพื้นที่ที่ขัดแย้งสูงที่สื่อกระแสหลักโดนเซ็นเซอร์รุนแรง
เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน ชาวรัสเซียผู้ต่อต้านสงครามใช้ Telegram เป็นช่องทางสื่อสาร ในมุมของนักเคลื่อนไหวต่อต้านเผด็จการทั้งในอิหร่าน เบลารุส หรือฮ่องกง Telegram เป็นหนึ่งในไม่กี่ช่องทางที่สามารถใช้กระจายข่าวหรือสื่อสารได้ เช่นเดียวกับที่นักสิทธิมนุษยชน มองว่า Telegram คือ เครื่องมือในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ประสบภัยในเขตสงครามหรือพื้นที่ที่มีการใช้ความรุนแรง
และหากมองในมุมของประชาชนที่เป็นเหยื่อสงคราม Telegram อาจเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่เปิดให้ใช้ขอความช่วยเหลือจากโลกภายนอก
Telegram จึงได้ชื่อว่าเป็น “โซเชียลมีเดียในแดนสงคราม” และได้รับการยอมรับจากสื่อนานาชาติหลายสำนักในฐานะเป็น “หน้าต่าง” ที่เปิดให้ชาวโลกได้มีโอกาสเกาะติดสถานการณ์ในพื้นที่ในยามที่สื่อกระแสหลักโดนทางการเซ็นเซอร์อย่างหนัก เช่นเดียวกับสงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ที่สื่อกระแสหลักสำนักใหญ่อย่าง CNN ก็ดึงข้อมูลจาก Telegram มารายงานด้วย
ในขณะที่ถูกปิดกั้นจากแพลตฟอร์มอเมริกัน อย่าง X, Facebook และ Google กองพลน้อยอัล-กอสซัม (Al-Qassam Brigades) ของกลุ่มฮามาส ก็ใช้ Telegram เป็นสื่อกลางในการติดต่อกับสาวกและผู้สนับสนุน ตั้งแต่ปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลเริ่มขึ้น ช่องหรือแชนเนลของกลุ่มอัล-กอสซัม บน Telegram มียอดวิวคลิปเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า
โดยยอดวิวเฉลี่ยต่อคลิปเพิ่มจาก 25,000 วิว เป็น 300,000 วิว ในขณะที่ยอดฟอลจากเดิมที่มีอยู่ 2 แสน ก็เพิ่มขึ้นเป็น 6 แสน แต่ไม่ได้เป็นผู้สนับสนุนกลุ่มฮามาสทั้งหมด เพราะมีนักวิชาการและสื่อมวลชนจำนวนไม่น้อยที่ฟอลกลุ่มนี้อยู่เพื่อเกาะติดสถานการณ์
ล่าสุด CNN รายงานว่า ช่อง Telegram สำคัญของกองพลน้อยอัล-กอสซัม มีผู้ติดตามมากกว่า 700,000 คน ไม่สามารถเข้าถึงได้
อีกบัญชีหนึ่งที่ทราบกันว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มฮามาส ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 500,000 คน และเพิ่งโพสต์วิดีโอจากโฆษกของกลุ่ม ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับตัวประกันชาวอิสราเอลที่กลุ่มฮามาสจับไป ถูกจำกัดไว้สำหรับผู้ใช้แอป iOS แต่ยังสามารถเข้าถึงได้บนแอนดรอยด์
ข้อจำกัดดังกล่าวถือเป็นการปราบปรามแหล่งโฆษณาชวนเชื่อที่สนับสนุนฮามาสนับตั้งแต่สงครามอิสราเอล-ฮามาสเริ่มต้นขึ้น
ผู้ใช้ Telegram ทั้งเวอร์ชั่น Android และ iOS ไม่สามารถค้นหากลุ่มหรือช่องทางสื่อสารที่ถูกจำกัดได้ (กลุ่มคำที่เกี่ยวข้องกับฮามาส) โดยได้รับการแจ้งเตือน
หรือกล่าวได้ว่า คนที่อยู่ในกลุ่มหรือในช่องของฮามาสบางช่องอยู่แล้วอาจยังเข้าถึงได้ในโทรศัพท์แอนดรอยด์ แต่ไม่สามารถค้นหากลุ่มใหม่ ๆ ได้