โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สาวเปิดใจ แฉช่างสักร้านดังนครสวรรค์ ลวนลาม-ขอมีอะไรด้วย เตรียมแจ้งความ

Khaosod

อัพเดต 02 ส.ค. 2566 เวลา 08.47 น. • เผยแพร่ 02 ส.ค. 2566 เวลา 08.28 น.

สาวเปิดใจ แฉช่างสักร้านดังนครสวรรค์ พูดบูลลี่ ลวนลาม ขอมีอะไรด้วย เหยื่อเพียบเตรียมรวมตัวเข้าแจ้งความเอาผิด

กรณี สาวรายหนึ่ง ออกมาแชร์เรื่องราว แฉช่างสักมีพฤติกรรมลวนลามลูกค้า รวมทั้งพูดจาบูลลี่ ระบุว่า "มีเรื่องจะมาเหลา ร้านสักชื่อดังร้านนึงในตัวเมืองนครสวรรค์ มีพฤติกรรมที่ไม่ดีกับลูกค้า เคยมีน้องมาเล่าให้ฟังครั้งนึงว่าโดนลวนลาม ตอนแรกก็ไม่ปักใจเชื่อ เพราะสักร้านนี้เหมือนกัน วันนั้นไปกับแฟน มีการไลฟ์ระหว่างสัก แต่โดนบูลลี่จริง แต่ไม่คิดอะไร คิดว่าแซวเล่น จนมาวันนี้น้องส่งทวิตนี้มาให้ดู เราว่ามันไม่ปกติแล้ว ซึ่งเราคิดว่าต้องมีคนโดนจำนวนมากกว่านี้ เราอยากให้ทุกคนที่โดนรวมตัวกันไปแจ้งความ หรือทำอะไรสักอย่าง เพราะนี่มันภัยสังคมชัด ๆ"

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 2 ส.ค. 66 คุณแคท เจ้าของเรื่อง หนึ่งให้ผู้เสียหายจากการโดนบูลลี่ เปิดเผยกับ 'ข่าวสดออนไลน์' ว่า เริ่มแรกเลยมีน้องที่รู้จักกันกับตน ทักมาถามตนว่า ตนไปสักที่ร้านไหนมา ใช่ร้านดังกล่าวนี้หรือไม่ ตนก็ตอบว่าใช่ ก่อนน้องจะเล่าให้ฟังว่า โดนลวนลาม ตอนแรกตนก็ยังไม่เชื่อ เพราะว่าขณะที่ตนไปนั้นก็ไม่ได้โดนลวนลาม แต่ว่าโดนคำพูดเชิงบูลลี่มากกว่า กระทั่งเมื่อวันก่อนได้เห็นทวิตเตอร์ ที่มีคนออกมาโพสต์ ถึงพฤติกรรมของช่างสักคนนี้ บอกว่าโดนลวนลามและโดนพูดจาบูลลี่เหมือนกัน จึงแคปโพสต์ต่างๆแล้วนำมาโพสต์เตือนภัย

โดยตนได้ไปสักที่นี่แค่ครั้งเดียว เมื่อหลายปีก่อน และเป็นรอยสักแรกที่ตนสักด้วย ซึ่งในกรณีของตนนั้นที่โดนบูลลี่ มักพูดว่าทำไมตัวดำจัง มืดจัง อยู่ประมาณ 2-3 รอบ ในระหว่างที่สัก และในวันนั้นที่ร้านเขาก็มีการไลฟ์สดไปด้วย เลยโชคดีที่ไม่โดนลวนลาม หลังจากที่ตนมีการโพสต์เตือนภัยถึงพฤติกรรมของช่างสักคนนี้ ก็มีคนทักแชทมาบอก และมาแสดงความคิดเห็น บอกว่าเคยโดนช่างสักคนนี้ลวนลาม บูลลี่ กอด หอม พยายามเอามือของลูกค้าไปจับที่เป้าของตัวเอง ทั้งที่หลายครั้ง ผู้เสียหายก็ได้บอกว่าแฟนช่างสักคนนี้ก็อยู่ด้วยแต่ยังกล้าทำ

จากการสอบถามบาง คนที่เจอพฤติกรรมแบบนี้ก็นิ่ง และอยู่จนสักเสร็จ เพราะว่ากลัว ไม่กล้าทำอะไร ตัวช่างสักคนนี้ค่อนข้างน่ากลัวและไม่มีใครกล้าไปแจ้งความ เพราะพูดไปกลัวไม่มีคนเชื่อและร้านนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงและมีคนรู้จักเยอะเป็นร้านดังประจำจังหวัด

น.ส.แคท กล่าวอีกว่า มีเคสล่าสุด ที่ลงทวิตเตอร์ บอกว่าโดนจับหน้าอกและดูดหน้าอก ซึ่งทราบว่าน้องน่าจะสักตรงสีข้างและเขาได้บอกว่าให้ถอดชุดชั้นในออก ตอนแรกน้องก็งงว่าสักแค่ตรงสีข้างทำไมต้องถอดชุดชั้นใน และอีก 1 เคส คือระหว่างสักนั้นก็มีการลวนลาม แต่ผู้เสียหายคนนี้นิ่งไม่กล้าทำอะไร ก่อนช่างสักคนนี้จะพูดประมาณว่าขอมีอะไรด้วย แล้วจะให้สักฟรี ผู้เสียหายคนดังกล่าวจึงขัดขืนแล้วออกมา ทุกครั้งที่เข้าไปในร้านสักเขาจะห้ามไม่ให้เล่นโทรศัพท์ ซึ่งเหมือนว่าเขารู้ตัวแล้วป้องกันตัวเองไว้แล้ว ต้องเก็บโทรศัพท์ทุกครั้ง พอเข้าไปในห้อง จะมีม่านปิดอยู่

ขณะนี้ตนรวบรวมได้ประมาณ 10 กว่าคนแล้วพี่โดนช่างสักคนนี้บูลลี่และลวนลาม โดยสร้างกลุ่มในเฟซบุ๊ก ซึ่งระยะเวลาเพียงแค่ 1 วัน ก็มี 10 กว่าคนแล้วที่ได้รับผลกระทบนี้ และตนคิดว่าน่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าก็ยังมีคนทักเข้ามาอยู่ตลอด และยังเห็นมีคนมาแสดงความคิดเห็นในโพสต์อยู่อีกหลายคน และหลังจากนี้จะไปแจ้งความดำเนินคดีโดยนัดกลุ่มผู้เสียหายไว้ เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ณ ตอนนี้ ตนคิดว่าช่างสักคนนี้เริ่มรู้ตัวแล้ว ว่ามีผู้เสียหายออกมาแฉพฤติกรรมแบบนี้ จึงได้มีการปิดเฟซบุ๊ก และปิดเพจร้านไปแล้ว และไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรอีก และคิดว่าหน้าร้านน่าจะปิดไปแล้ว พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ยิ่งรู้เรื่องว่ามีผู้เสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งช็อก ซึ่งแต่ละเรื่องที่เล่ามามันทำให้ตนรู้สึกว่ามันมากเกินไป ที่จะต้องโดนแบบนี้ มันไม่ควรที่จะต้องโดนช่างสักทำแบบนี้ ยิ่งเขาเป็นผู้ชายและคนโดนเป็นผู้หญิง ยิ่งเสียหายมากขึ้น

ส่งผลให้บางคนถึงขั้นกลัวและอยากลบรอยสักของร้านนี้ทิ้งไปเลย หลายคนกลัวและเกลียดรอยสักที่ช่างคนนี้สักให้ บางคนก็ไม่สักต่อจนเสร็จกลายเป็นลายไม่สวย และถ้ามีใครรู้ตัวว่าไปสักร้านนี้แล้วโดนทำพฤติกรรมแบบนี้ ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือว่ามากกว่านี้ ตนก็อยากให้มารวมกลุ่มกัน จะได้ไปแจ้งความและมีข้อมูลให้กับตำรวจเยอะๆ

“พี่เป็นคนมีชื่อเสียงมากนะคะ ผลงานพี่ก็ดี พี่ไม่ควรทำอย่างนี้กับใคร ทุกคนที่โดนเขาเสียใจมากบางคนเกือบเป็นโรคซึมเศร้า พี่ไม่ควรทำอย่างนี้กับใครเลยค่ะ เสียดายผลงานพี่มาก” น.ส.แคท กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...