7 พระ-นาง ย้อนวัยเยาว์ เล่าวีรกรรมรับ 'วันเด็ก 2568' พร้อมคำอวยพรดี ๆ กับเยาวชนรุ่นใหม่
7 พระ-นาง ย้อนวัยเยาว์ เล่าวีรกรรมรับ ‘วันเด็ก 2568’ พร้อมคำอวยพรดี ๆ กับเยาวชนรุ่นใหม่
ต้อนรับวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ด้วยความสดใส เมื่อ 7 พระนางจากช่อง 7HD พร้อมใจมาแชร์เรื่องเล่าเรียกรอยยิ้ม วีรกรรมวัยเด็ก พร้อมส่งคำอวยพรดีๆ ให้กับน้องๆ เยาวชนรุ่นใหม่
เริ่มกันที่ “ไต้ฝุ่น ตากเพชร เลขาวิจิตร” ที่ขอเล่าวีรกรรมตอนเด็กให้ฟังว่า เมื่อครั้งอายุประมาณ 6-7 ขวบ ที่บ้านจะเอาขนมพวกผลไม้ นมมาใส่ในกระเป๋านักเรียนไว้ให้ทุกวัน แล้วด้วยความที่เป็นเด็กติดเล่นมาก บางวันก็ไม่ค่อยได้กิน บางทีก็เผลอนั่งทับ ก็เลยจะมีกลิ่นเหม็นเลอะเทอะเต็มไปหมด
“หลังจากนั้นเลยคิดแก้ปัญหาแบบเด็กๆ พอไม่อยากกิน เราก็โยนทิ้งตรงหน้าต่างห้องเรียน เพราะห้องที่ฝุ่นเรียนอยู่ชั้น 2 ติดกับรั้วที่เป็นป่าโล่งๆ จนวันหนึ่งมีคนงานถือกล่องนมของเรามาในสภาพเนื้อตัวเปียก มาฟ้องครูว่านักเรียนห้องนี้ชอบโยนนมลงไปตลอด แล้ววันนั้นไปลงกะละมังที่เขากำลังซักผ้าอยู่พอดี ฝุ่นก็เลยโดนครูเรียกไปดุแล้วโดนตี เป็นวีรกรรมที่ไม่ดีที่ผมจำได้ไม่ลืม เราทำตัวไม่ดี ไม่น่ารักเลย เด็กๆ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ”
“ในวันเด็กนี้ อยากให้ทุกคนเป็นเด็กสุขภาพดี แข็งแรง มีจิตใจที่ดี มีความมุ่งมั่น มีความฝันที่สวยงาม เป็นเด็กที่น่ารักของครอบครัวและคนรอบข้างนะครับ”
ขณะที่นางเอกสาว “ชิงชิง คริษฐา สังสะโอภาส” นั้นก็เล่าว่า ด้วยความที่โตมากับพี่น้องผู้ชายเยอะ เลยทำให้ค่อนข้างเป็นเด็กซนคนหนึ่งจนถูกส่งไปเรียนเสริมความเป็นกุลสตรีเลยทีเดียว
“ตอนเด็กชิงชิงไม่ค่อยเล่นอะไรแบบเด็กผู้หญิง เพราะเรามีพี่น้องเป็นผู้ชายเยอะ โตมากับพี่ๆ ผู้ชาย แล้วมีครั้งหนึ่งชิงชิงกระโดดขึ้นเล่นชิงช้า ทั้งที่มันยังแกว่งอยู่ค่ะ แล้วพลาดหน้าฟาดไปที่พื้น ปากแตก ผู้ใหญ่ที่บ้านก็ตกใจกันใหญ่ เพราะว่าเลือดกบปาก เลือดออกเยอะมาก”
“แต่เหตุการณ์ช่วงนั้นชิงชิงจำไม่ค่อยได้มากนัก แต่แม่บอกว่าเกิดขึ้นตอนชิงชิงอยู่ประถม ช่วงอายุ 6-7 ขวบ เรียกว่าค่อนข้างเป็นเด็กทะโมน เล่นซนเหมือนเด็กผู้ชาย ปีนป่ายต้นไม้ ที่บ้านก็เลยส่งไปเรียนพิเศษอะไรที่มันเป็นผู้หญิงขึ้น ให้ไปเรียนบัลเลต์ เรียนดนตรีไทย ตีขิม”
“ยังไงก็ วันเด็กปีนี้ ก็ขอให้น้องๆ โตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของสังคมนะคะ หาตัวตนของตัวเองให้เจอไวๆ รู้ว่าตัวเองชอบ หรือไม่ชอบอะไร จะได้ง่ายต่อการตั้งเป้าหมายในการใช้ชีวิตค่ะ”
ด้านพระเอกหนุ่ม “ภูมิ เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์” ก็เล่าถึงวีรกรรมสมัยเด็กที่จำได้ไม่ลืม ช่วง ป.6 กำลังจะขึ้น ม.1 ถึงเหตุการณ์หลังเลิกเรียน ที่ก็วิ่งเล่นรอคุณพ่อมารับอยู่ในห้องกับเพื่อนๆ แล้วดันวิ่งชนเก้าอี้ ล้มปากแตก ทำให้เป็นแผลเป็นมาจนถึงทุกวันนี้
“เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่อยากจะให้เป็นตัวอย่างกับน้องๆ หนูๆ ว่าเล่นอะไรก็ให้ระวังตัวกันด้วยนะครับ และสำหรับวันเด็กปีนี้ ภูมิก็อยากให้น้องๆ ทุกคนเป็นลูกที่ดีของคุณพ่อ คุณแม่ หรืออยู่กับผู้ปกครอง ก็ขอให้น่ารักกับครอบครัวที่ดูแลเราให้มากๆ”
“ไม่ได้หมายถึงแค่เด็กเล็กๆ นะครับ เราทุกคนยังเป็นเด็กในสายตาผู้ใหญ่ในบ้านเราเสมอ อยากให้น่ารักกับผู้ใหญ่ในครอบครัวกันครับ”
อีกหนึ่งพระเอก “แทน บุรันช์รัตน์ หอมบุตร” ย้อนเล่าไปถึงสมัยอนุบาล 3 ที่คุณแม่เคยเล่าวีรกรรมให้ฟังว่า “มีวันหนึ่งคุณพ่อคุณแม่พาแทนไปสนามเด็กเล่นท้ายหมู่บ้านที่แทนอยู่ เราก็ไปปีนอุปกรณ์ เครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นตามประสาเด็กกำลังซน แล้วก็เกิดอุบัติเหตุ ตกลงมาจากเครื่องเล่น ทำให้ขาเจ็บ ต้องเดินกะเผลกๆ หลายวัน เรียกว่าเป็นความซนที่จำไม่ลืม”
พร้อมเตือนเด็กๆ ว่า “อย่าซนเกินขอบเขตแบบพี่”
“และสำหรับวันเด็กในปีนี้ ก็อยากให้ทุกคนตั้งใจเรียน เพราะการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ เป็นเด็กดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ทั้งต่อตัวเอง และก็ผู้อื่นนะครับ”
ขณะที่นางเอกสาว “เจนนี่ ชยิสรา วัฒนะนาวิน” เผยว่า “จำได้ว่าตอนเด็กเป็นคนขี้อายมาก แล้วทุกคนที่รู้จักก็จะเห็นตรงกันว่าหนูเป็นเด็กที่ไม่กล้าพูดเลย มีครั้งหนึ่งไปทานอาหารแล้วไม่กล้าสั่ง คุณแม่บอกว่าถ้าไม่สั่งเอง ก็ไม่ต้องกิน หนูก็เลยไม่กิน ยอมอดข้าว เพราะไม่กล้าสั่ง ตอนนั้นอายุน่าจะประมาณ 6 ขวบได้”
“แต่หนูจะเป็นเฉพาะกับคนแปลกหน้านะคะ กับคนที่เราสนิทแล้วจะไม่เป็น ซึ่งเป็นบุคลิกที่ต่างจากตอนโตมากๆ ถามว่าตอนนี้ยังเป็นอยู่ไหม ก็มีบ้างเฉพาะกับคนแปลกหน้า แต่ไม่หนักเท่าตอนเด็กที่ไม่พูดเลย ก็เป็นภาพจำของคนรอบตัวที่รู้จักหนูเลย”
ส่วนวันเด็กปีนี้ เจนนี่บอกว่า “อยากให้เด็กๆ ทุกคนใส่ใจสุขภาพตัวเอง เพราะเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ แล้วก็อยากให้ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี เป็นตัวของตัวเองที่น่ารักกับทุกคน นึกถึงคนอื่น อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะตัวเราค่ะ”
มาที่ประสบการณ์ตลกๆ วัยเด็กของ “ปิ่น ชรินพร เงินเจริญ” ที่เจ้าตัวเล่าพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะว่า
“คุณแม่เล่าให้ฟังว่า ตอนเด็กปิ่นมีเรื่องตลกมาก ตอนนั้นน่าจะอยู่อนุบาล 2 ซึ่งจะต้องนอนกลางวัน แต่น้องปิ่นไม่ยอมนอนเพราะว่านอนแล้วโดนยุงกัด แล้วปิ่นก็เลยเกิดข้อสงสัยว่ายุงเกิดมาได้ยังไง อยากรู้ว่ายุงออกมาจากไหน ก็เลยไปนั่งสังเกตการณ์ในห้องน้ำดูว่ายุงบินออกมายังไง แล้วตอนนั้นคุณครูก็คืองงว่าน้องปิ่นหายไปไหน เลยออกตามหา จนมาเจอว่าหนูนั่งดูยุงอยู่ในห้องน้ำ”
“คุณครูก็เลยพาหนูไปห้องผู้อำนวยการ คือจะให้หนูไปนอนที่นั่น แต่สุดท้ายหนูก็ไม่ได้นอนกลางวันอยู่ดี เพราะว่าไปเล่นกับ ผอ.แทน”
“สำหรับวันเด็กในปีนี้ ปิ่นขอให้น้องๆ ทุกคนเป็นเด็กดี เชื่อฟังคำสั่งสอนของคุณพ่อคุณแม่ คุณครู ไม่ดื้อไม่ซน เติบโตอย่างสดใส ใช้ชีวิตของตัวเองให้มีความสุขนะคะ”
ปิดท้ายกันที่ “มิ้นชิ เสฏฐนันท์ ทองสมบุญ” กับเรื่องราววีรกรรมความน่ารักในช่วงอนุบาลให้ฟังว่า
“เย็นวันนึงคุณพ่อขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับหนูที่โรงเรียนเพื่อกลับบ้าน หนูก็นั่งอยู่ด้านหน้าของคุณพ่อ แล้วมีจังหวะที่คุณพ่อขี่มอเตอร์ไซค์ตกหลุมค่ะ แล้วฟันหน้าที่มันโยกๆ อยู่มันหลุดออกมา หนูก็ตกใจ ร้องไห้ดังมาก พอถึงบ้านหนูก็เลยรีบไปบอกคุณแม่ ทีนี้คุณพ่อเขาก็เลยบอกว่าเดี๋ยวค่อยไปซื้อกาวมาติด ด้วยความเป็นเด็กก็นึกว่ามันติดได้ เลยเลิกงอแง”
“จนคุณพ่อคุณแม่มาเฉลยทีหลังว่ามันเป็นฟันน้ำนม มันติดกลับคืนมาไม่ได้ นี่แหละค่ะก็เป็นวีรกรรมวัยเด็กที่ไม่รู้ประสีประสาของหนู”
“สำหรับวันเด็กในปีนี้นะคะ ก็ขออวยพรให้เด็กๆ ทุกคนพบเจอแต่ความสุข เจอความสนุกสนาน แล้วก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้านะคะ”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : 7 พระ-นาง ย้อนวัยเยาว์ เล่าวีรกรรมรับ ‘วันเด็ก 2568’ พร้อมคำอวยพรดี ๆ กับเยาวชนรุ่นใหม่
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th