โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

กอช. x ทรูมันนี่ เปิดฟีเจอร์ ‘ออมเงิน รัฐให้เพิ่ม’ เริ่มออมขั้นต่ำเพียง 50 บาท

TODAY

อัพเดต 31 ม.ค. 2567 เวลา 16.44 น. • เผยแพร่ 31 ม.ค. 2567 เวลา 09.38 น. • workpointTODAY

กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จับมือทรูมันนี่ ช่วยคนไทยมีเงินออมผ่านฟีเจอร์ ‘ออมเงิน รัฐให้เพิ่ม’ ออมขั้นต่ำ 50 บาทต่อครั้ง แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปีและรัฐสมทบสูงสุด 100% แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี

‘จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ’ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า จากสถิติภาพรวมการออมเงินเพื่อการเกษียณของคนไทยในปี 2566 พบว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 คนไทยมีพฤติกรรมการออมเงินเพื่อการเกษียณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยบวกที่ส่งผลให้การออมเงินเพื่อการเกษียณเพิ่มขึ้นมีปัจจัยสำคัญมาจากเทรนด์ของผู้บริโภคที่ให้ความสนใจในการลงทุนและให้ความสำคัญกับการออมเงินเพื่อการเกษียณมากขึ้น

โดย กอช.ได้เข้ามาสนับสนุนการออมผ่าน Digital Marketing ของประชาชนที่มีอายุ 15-60 ปี ให้สามารถเริ่มออมตั้งแต่ 50 บาท แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปีและรัฐสมทบสูงสุด 100% แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี ดังต่อไปนี้

  • อายุ 15-30 ปี รัฐสบทบ 50% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
  • อายุ 30-50 ปี รัฐสบทบ 80% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี
  • อายุ 50-60 ปี รัฐสบทบ 100% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี

จากเทรนด์การออมที่เพิ่มขึ้นทำให้ปัจจุบัน กอช.มีฐานสมาชิกกว่า 2.58 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงใช้บริการในรูปแบบผ่านหน่วยงานในพื้นที่สูงถึง 85%

อย่างไรก็ตาม กอช. ยังมุ่งพัฒนาเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น จึงเกิดเป็นความร่วมมือกับ ‘ทรูมันนี่’ ในครั้งนี้เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบอาชีพอิสระและแรงงานนอกระบบให้เข้าถึงการออมเงินเพื่อเกษียณมากขึ้น

‘ธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันทรูมันนี่มีผู้ใช้งานกว่า 27 ล้านคนทั่วประเทศ และล่าสุดยังได้รับการจัดอันดับเป็นแอปที่ได้รับการดาวน์โหลดมากสุดในประเทศไทย

ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าแอปทรูมันนี่ได้รับความนิยมสูงสุดและสามารถให้บริการทางการเงินครอบคลุมผู้ใช้หลากหลายกลุ่มอายุและอาชีพ ซึ่งรวมถึงแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าแม่ค้า รวมไปถึงเกษตรกร ฯลฯ

สำหรับความร่วมมือกับ กอช.ในครั้งนี้ จะช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าถึงการออมแบบเดิมของแรงงานเหล่านี้ ให้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการออมเพื่อสร้างสุขภาพทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ ด้วยบริการออมเงินกับ กอช.ผ่านแอปพลิเคชั่นทรูมันนี่

ภายหลังเปิดทดลองให้บริการไม่ถึงสองเดือน มียอดออม กอช. ผ่านแอปทรูมันนี่แล้วประมาณ 4 ล้านบาท และเราคาดการณ์ว่ายอดออมดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาท และมีผู้ใช้รวม 1 ล้านบัญชีภายในสิ้นปี 2567

โดยผู้ที่สนใจสามารถเปิดบัญชีและใช้งานบริการออมเงินกับ กอช. ผ่านทรูมันนี่ได้ง่ายๆ ใน 3 นาที ผ่าน ‘ออมเงิน รัฐให้เพิ่ม’ ในทรูมันนี่ โดยมีขั้นต่ำเพียง 50 บาทต่อครั้ง และสูงสุด 30,000 บาทต่อปี

ทั้งนี้ ผู้ออมเงินจะได้รับสิทธิประโยชน์ เงินสมทบจากรัฐสูงสุดถึง 100 เปอร์เซ็นต์สิทธิในการลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท/ปี และรับเงินราวๆ 12,000 บาทต่อเดือนหลังเกษียณ

ด้าน ‘ชาญวิทย์ นาคบุรี’ รองปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรกลุ่มคนวัยทำงานก็มีจำนวนลดน้อยลง ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุวัยเกษียณในอนาคตได้

ซึ่งรัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของสถานการณ์ดังกล่าวนี้ และได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังจัดตั้งระบบการออมเงินภาคสมัครใจสำหรับแรงงานนอกระบบและผู้ประกอบอาชีพอิสระผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช.

มองว่าเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่มั่นคงหลังวัยเกษียณอายุของคนไทย ให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่เท่าเทียมกันในทุกกลุ่มอาชีพ และในฐานะตัวแทนจากภาครัฐ

ในฐานะภาครัฐรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ภาคเอกชนอย่าง ‘ทรูมันนี่’ เข้ามาร่วมเป็นภาคีผลักดันนโยบายส่งเสริมการออมของรัฐบาลให้เดินหน้า เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีและเป็นกำลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...