JRงานพรึ่บดันมาร์จิ้น เงินแกร่ง-ผลงานQ2พุ่ง
#JR #ทันหุ้น – JR แย้มผลงานปีนี้พุ่ง ชูไตรมาส 2 ผลงานจะเติบโตก้าวกระโดด งานรับรู้รายได้แตะ 500-600 ล้านบาท ขณะที่มาร์จิ้นจะเด่นตามการรับงานที่เพิ่มขึ้นกดต้นทุนลง การเงินแกร่งหนี้สินมีดอกเบี้ยต่ำเข้าตาแบงก์ ขณะที่เทรดดิ้งมาแรงเตรียมขายกลีเซอรีนให้จีน 200 ตัน ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเทรดดิ้ง 20-30% รวมถึงหาพันธมิตรในกลุ่ม Oil & Gas เพิ่มความหลากหลายธุรกิจ
นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2568 จะเติบโตก้าวกระโดด เนื่องจากบริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากหลายส่วน ทั้งงานส่งมอบอุปกรณ์ไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ประมาณ 100 กว่าล้านบาท ตลอดจนงานอื่นๆ ที่จะรับรู้เข้ามาอีกมาก ซึ่งจะส่งผลให้ยอดการรับรู้งานโดยรวมจะกระโดดขึ้นไปเป็น 500-600 ล้านบาท จากปกติที่จะมียอดงานเฉลี่ยต่อไตรมาส 300-400 ล้านบาท
@คุมต้นทุนอยู่หมัด
ทั้งนี้ในเชิงของต้นทุน เริ่มกลับมาควบคุมได้ดีแล้ว ขณะเดียวกันปริมาณการรับรู้งานที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทประหยัดต่อขนาดในด้านของต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ช่วยกดต้นทุนให้ต่ำลง ส่งผลให้อัตรากำไร หรือมาร์จิ้น ของบริษัทจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีความแข็งแกร่งในด้านการเงินสวนทางกับบริษัทก่อสร้างอื่นอาจจะมีปัญหาบ้าง
ทำให้บริษัทเป็นที่สนใจในการเสนอปล่อยกู้ของธนาคาร ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินต่อทุน หรือ D/E อยู่ประมาณ 1.5 เท่า แต่ส่วนใหญ่เป็นหนี้การค้าซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ขณะที่หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย (Interest Bearing Debt) ต่ำมาก อยู่ที่ 0.24 เท่า ทำให้มีโอกาสที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัทยังมีโอกาสในการขยายธุรกิจต่อเนื่องโดยเฉพาะธุรกิจกลุ่ม Oil & Gas ที่บริษัทได้เดินหน้าในการรับงานอย่างต่อเนื่องและเป็นงานที่มีมาร์จิ้นสูง นอกเหนือจากงานด้านระบบไฟฟ้า และโทรคมนาคม ตลอดจนบริษัทยังเน้นรับงานที่รับรู้รายได้เร็ว หรือ Quick Win ซึ่งส่งผลดีต่อการรับรู้รายได้ที่เร็วขึ้น
“ปีนี้ในเชิงของมาร์จิ้น กลับมาแน่นอนอยู่แล้ว เพราะปีที่แล้วมันบางมาก แต่ปีนี้มันจะกลับมาจากตัวส่วนหนึ่งเกิดการที่เราได้รับงานเยอะด้วย ทำให้ต้นทุนต่อบุคลากร หรือ โอเวอร์เฮด ต่ำลง เป็นอีโคโมนิออฟสเกล ยิ่งบริษัทมีไดเรกชั่นงานใหม่ๆ ที่ดีด้วยก็จะทำให้ต้นทุนต่ำลง”
@ งานเทรดดิ้งรุ่ง
นอกจากนี้บริษัทยังได้เดินหน้าในธุรกิจเทรดดิ้งเพิ่มเติมและประสบความสำเร็จ โดยได้เจรจารับงานใหม่ขายกลีเซอรีน (Glycerin) ให้จีน จำนวน 200 ตัน แม้จะเกิดปัญหาสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน แต่การค้าขายระหว่างไทยกับจีนยังทำได้อยู่และไม่ได้อยู่ในจุดที่เสี่ยงในการขายของให้จีน อย่างไรก็ตามบริษัทจำเป็นต้องติดตามค่าเงินด้วยเช่นเดียวกัน
บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากงานก่อสร้าง งานไฟฟ้า กว่า 90% และธุรกิจเทรดดิ้ง เช่นการขายอุปกรณ์ติดตั้งไม่เกิน 5% อุปกรณ์ติดตั้ง โดยเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนการเทรดดิ้งให้เป็น 20-30%
รวมถึงยังมีงานผู้รับเหมาทั่วไป (EPC) ไม่ใช่งานไฟฟ้า เช่น งาน Oil & Gas โดยบริษัทได้มีการรวบรวมกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกับรับงาน Oil & Gas ตั้งใจจะให้ JR จะเป็น Channel Marketing เพื่อเพิ่มความหลากหลายในธุรกิจ
@ เดินหน้าเก็บหุ้นเข้าพอร์ต
นายจรัญ ยอมรับว่าที่ผ่านมา ได้เดินหน้าเก็บหุ้นเข้าพอร์ตแบบต่อเนื่องไม่ได้กังวลในช่วงที่หุ้นลง เนื่องจากมั่นใจถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มผลงานปี 2568 ยังคงสดใสทั้งจากมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่ตุนไว้กว่า 7,646.20 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ยาว 2-3 ปี ยังไม่นับรวมงานใหม่ที่จะเข้าประมูลในปีนี้อีกเพียบ