‘Maison RORU’ แบรนด์ที่ 17 ของ ‘ปลา-อัจฉรา’ บนเส้นทาง 26 ปี สู่อาณาจักรธุรกิจอาหาร
หากนับเส้นทางธุรกิจของ ‘ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์’นักธุรกิจหญิงที่ตอนนี้ขึ้นแท่นสู่เจ้าแม่แห่งอาณาจักรร้านอาหารขวัญใจคนกรุงเทพฯ ไปแล้ว เพราะมีเครือร้านอาหารมากมายกว่า 16 แบรนด์ ทั้งจากเครือ Iberry Group, ทองสมิทธ์ สยาม และเดอะ แพลทเทอส์ มหานคร
และเมื่อไม่กี่วันมานี้ ‘ปลา-อัจฉรา’ ได้โพสต์ Instagram เกี่ยวกับแบรนด์ที่ 17 ซึ่งเตรียมจะเปิดตัวในช่วงเดือนเมษายนปีนี้
นั่นคือ ‘Maison RORU’แบรนด์น้องใหม่ล่าสุดของปี 2025 และก็เป็นธุรกิจ ‘อาหารญี่ปุ่น’ แบรนด์แรกในอาณาจักรด้วย หลังจากที่มีอาหารยุโรปอย่าง FRAN’s และอาหารเวียดนามอย่าง Ăn Cơm Ăn Cá (อันเกิม-อันก๋า)
โดยที่มาของชื่อแบรนด์ ได้นำภาษาฝรั่งเศส ‘Maison’ ที่แปลว่า “บ้าน” กับภาษาญี่ปุ่น ‘RORU’ ที่แปลว่า “โรล” นำสองคำนี้มารวมกันจะแปลตรงตัวว่า “บ้านแห่งการโรล” คล้ายกับเป็นการเปิดบ้านเพื่อให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสความเป็นซูชิแฮนด์โรลในแบบของ ปลา-อัจฉรา
“แบรนด์ใหม่ล่าสุดของเราในปี 2025 ที่เกิดจากความร่วมมือกับเชฟมาซาโตะ ชิมิสุ (Masato Shimizu) เชฟชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงด้าน Sushi Omakase”ข้อความจาก Plaiberry
“สิ่งที่ทำให้ปลาตื่นเต้นที่สุดคือการที่ iberry Group ได้ก้าวเข้าสู่โลกของอาหารญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก และยิ่งพิเศษขึ้นไปอีกเมื่อได้ร่วมงานกับเชฟมาซาโตะ ชิมิสุ เจ้าของร้าน Sushi Masato ร้านโอมากาเสะชื่อดังในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านโปรดของปลาเอง และเป็นร้านที่ครอบครัวมักไปทานในโอกาสพิเศษเสมอ ไม่เพียงเพราะรสชาติที่ยอดเยี่ยม แต่ยังรวมถึงบรรยากาศและความใส่ใจที่เชฟมอบให้ในทุกจาน”
[ การทำแบรนด์ใหม่ = เพิ่มเมนูโปรดของตัวเอง ]
สิ่งหนึ่งที่ ปลา-อัจฉรา มักพูดถึงเสมอเกี่ยวกับการคิด การตัดสินใจที่จะเปิดธุรกิจใหม่ในแต่ละครั้งก็คือ ส่วนใหญ่เป็นเมนูโปรดของเธอเอง หรือไม่ก็ของคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์อาหารไทย หรืออาหารเวียดนามก็ตาม
สำหรับ ปลา-อัจฉรา เธอมองว่าการสร้างแบรนด์และคิดคอนเซปต์อาหารใหม่ๆ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง และเป็นความสนุกที่ได้ลองได้ทำ อย่างการแตกไลน์ ‘เมนู สู่ แบรนด์ใหม่’ เช่น ทองสมิทธ์ ที่ขายเฉพาะก๋วยเตี๋ยวเป็นหลัก หรือ ฟ้าปลาทาน ที่จะเน้นเฉพาะเมนูปลาเท่านั้น
สิ่งเหล่านี้คือเบื้องหลังวิธีคิดของ ปลา-อัจฉรา เพราะเธอมองว่า ร้านอาหารไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างครบเพื่อลูกค้า แต่สามารถแยกเมนูแล้วโฟกัสอย่างใดอย่างหนึ่งได้ (หากเราเข้าใจรสชาติที่ลูกค้าชอบ)
หลักการคิดที่ดูเหมือนจะง่ายแต่ทำยาก ต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มลูกค้าของตัวเองมากๆ ต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มีชั่วโมงบินสูง อย่างที่ปลา-อัจฉรา อยู่บนเส้นทางนี้มาแล้วกว่า 26 ปี นับตั้งแต่ที่ก่อตั้ง ‘ร้านไอศกรีม iberry’ ครั้งแรกที่ จ.เชียงใหม่ ในปี 2542
ปัจจุบันอาณาจักรแห่งนี้มีรายได้ และกำไรเกือบทุกเครือ อย่างเช่น
-บริษัท ไอเบอร์รี่ โฮมเมด จำกัด ที่มี 9 แบรนด์ ในปี 2566 มีรายได้ประมาณ 2,179 ล้านบาท กำไร 418 ล้านบาท
-บริษัท ทองสมิทธิ์ สยาม จำกัด ที่มี 3 แบรนด์ ในปี 2566 มีรายได้ประมาณ 856 ล้านบาท กำไร 195 ล้านบาท
-บริษัท เดอะ แพลทเทอส์ มหานคร จำกัด ที่มี 3 แบรนด์ ในปี 2566 มีรายได้ประมาณ 340 ล้านบาท กำไร 71 ล้านบาท
-บริษัทโอเอ็มจีเอ็ม แบงคอก จำกัด ที่ตอนนี้มี 1 แบรนด์ ‘Oh My Godmother’ ในปี 2566 มีรายได้ประมาณ 10 ล้านบาท แต่ยังขาดทุนอยู่ที่ 4.84 ล้านบาท อาจจะเป็นเพราะเพิ่งตัวได้ไม่นานเพียง 1 ปีเศษ
สำหรับ Maison RORU ส่วนตัวคิดว่าคนไทยมีพื้นฐานความชอบอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้ว ดังนั้น การเข้ามาในตลาดนี้ถือเป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะตลาดที่เป็น red ocean การแข่งขันดุเดือดมากๆ จะยิ่งทำให้สีน้ำทะเลเป็นแดงเข้มมากขึ้นหรือไม่ กับการเข้ามาของผู้เล่นรายใหญ่ของ ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์