โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ดอมินิก-ภูวสวัสดิ์ จักรพงษ์ : เปลี่ยนทัศนคติต่อขยะพลาสติก จุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่

Khaosod

อัพเดต 08 พ.ค. 2562 เวลา 03.49 น. • เผยแพร่ 02 พ.ค. 2562 เวลา 11.37 น.

ดอมินิก-ภูวสวัสดิ์ จักรพงษ์ : เปลี่ยนทัศนคติต่อขยะพลาสติก จุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่

การคิดค้น ‘พลาสติก’ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่มนุษยชาติที่ถูกนำมาใช้ทำเป็นหีบห่อ ภาชนะ หรือเครื่องใช้ต่างๆ แต่นานวันปริมาณการใช้เพิ่มมากขึ้น แปรผันตามกับจำนวนประชากร เมื่อพลาสติกที่มีคุณสมบัติคงทนแข็งแรงหมด ‘หน้าที่’ สุดท้ายก็กลายเป็น ‘ขยะ’ ที่ยากต่อการกำจัด กลายเป็นมลพิษทางสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศ ซึ่งยากต่อการแก้ไขฟื้นฟู

บทสนทนาครั้งนี้เราได้พบกับ ดอมินิก-ภูวสวัสดิ์ จักรพงษ์ หรือ คุณกู้ หนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ประธานโครงการPrecious Plastic Bangkok ผู้เปลี่ยนฝาขวดพลาสติก ให้กลายของใช้สุดพิเศษ

นอกจากบทบาทนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ‘คุณกู้’ ยังเป็นน้องชายของ ‘ฮิวโก้’ – จุลจักร จักรพงษ์ ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี พื้นที่ที่ใช้พูดคุยครั้งนี้จึงเกิดขึ้นภายใน ‘วังจักรพงษ์’ ซึ่งมีมุมทำงานขนาดเล็กของคุณกู้ซ่อนตัวอยู่

คุณกู้เล่าว่าส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ กลับไทยบ้างช่วงเวลาสั้นๆ แต่ประมาณ 2 ปีที่แล้วได้ย้ายมาประจำที่ไทยถาวร ด้วยความที่สนใจด้านสิ่งแวดล้อม และเรียนจบมาทางด้านนี้โดยเฉพาะ ทำให้มองเห็นถึงปัญหาขยะพลาสติกของไทยที่กำลังเข้าขั้นวิกฤต

“เกือบทุกก้าวที่เดินไปตามชายหาด จะต้องพบกับขยะพลาสติก ทั้งในแม่น้ำลำคลอง และเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ก็เต็มไปด้วยขยะพลาสติก” นี่คือคำพูดหนึ่งของคุณกู้ ที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน อันเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงและแก้ไขสิ่งแวดล้อม

จากปัญหาที่เกิดขึ้น ผมก็ได้แต่ถามว่า เรายังจะทนอยู่ต่อไปแบบนี้หรอ?
มันถึงจุดที่พอได้แล้ว ควรเกิดการเปลี่ยนแปลงเสียที เพราะไทยถือเป็นประเทศที่มีขยะพลาสติกมากอันดับต้นๆ ของโลก

ตอนนั้นคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง และต้องเริ่มจากในระดับชุมชน (Community) เท่าที่เห็นการทำงานของทางรัฐบาลจะมีขั้นตอนในการออกกฎหมายคุ้มครองและปกป้องสิ่งแวดล้อมช้า นอกจากนี้คนทั่วไปก็ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และการรีไซเคิลขยะ

จนวันหนึ่งผมจึงได้พบกับโครงการที่ชื่อว่าPrecious Plastic ก่อตั้งโดย Dave Hakkens ชาวเนเธอแลนด์ ซึ่งโครงการนี้มีแบบแผนของการสร้างเครื่องบด และเครื่องหลอมพลาสติก ให้ดาวน์โหลดฟรี (พิมพ์เขียว) และสามารถนำไปประกอบเองได้ ผมจึงนำมาลองทำบ้าง และเลือกวิธีนี้เพราะเป็นการรีไซเคิลที่ง่าย และราคาถูก เพราะใช้เพียงฝาขวดพลาสติกที่ไม่ใช้แล้ว นำมาบดให้ละเอียด ก่อนนำมาหลอม และขึ้นรูปทรงต่างๆ กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปจำหน่ายได้ โดยได้ร่วมมือกับกลุ่ม Trash Hero ในเวลาต่อมา

โดยเดินทางไปตามชุมชนต่างๆ เพื่อให้ความรู้ และวิธีการเปลี่ยนรูปขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ และใช้พลาสติกอย่างรู้คุณค่า

คุณกู้กล่าวตอนหนึ่งอย่างน่าสนใจว่า
“การใช้ชีวิตไปพร้อมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หลายครั้งต้องมีราคาที่ต้องจ่ายสูง หลายคนจึงเลือกทางที่ง่ายแทน”

แต่แนวทางของโครงการ Precious Plastic ไม่ต้องจ่ายแพงเลย แค่มีเครื่อง และฝาขวดพลาสติก โดยผมดำเนินการอย่างจริงจังเมื่อประมาณ 9 เดือนที่แล้ว ซึ่งเริ่มแปรรูปฝาขวดและนำผลิตภัณฑ์มาขายได้ประมาณ 6 เดือน ช่วงแรกเป็นในขั้นของการทดลอง จะทำเป็นถ้วย ต่อมาเริ่มทำเป็นกระถางต้นไม้ และภาชนะรูปทรงที่หลากหลายมากขึ้น

โดยใช้กระบวนการแปรรูป 3 แบบ คือ Extrusion (หลอมละลายพลาสติกให้เป็นเส้นๆ ก่อนนำมาขึ้นรูปตามแบบ) Injection (หลอมละลายพลาสติก แล้วอัดฉีดใส่ลงบล็อก) และ Compression (นำพลาสติกที่บดแล้วใส่ลงบล็อก ก่อนกดอัดด้วยความร้อน)

ปัจจุบันได้ตั้งจุดรับฝาขวดประมาณ 10 แห่งทั่วเมือง เพื่อให้คนนำฝาขวดมาทิ้ง อีกทางหนึ่งผู้สนใจสามารถรวบรวมฝาขวดแล้วส่งมาทางไปรษณีย์ (ตามแผนที่ในลิ้งค์นี้)

ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงจากจุดเล็กๆ ก็คือการรีไซเคิลฝาขวดน้ำ ที่เป็นพลาสติกประเภท 2 หรือที่เรียกว่า HDPE (High Density Polyethylene) เพราะหากนำส่วนที่เป็นขวดซึ่งเป็นพลาสติกประเภท PET (Polyethylene terephthalate) มาละลายในอุณหภูมิ 160 – 180 องศาเซลเซียส มันจะเกิดการไหม้ แต่สำหรับฝาขวดจะไม่เกิดการไหม้ เพราะเป็นพลาสติกที่มีคุณภาพสูง ไม่เกิดอันตรายต่อสุขภาพขณะหลอมละลาย จึงเป็นที่มาของโครงการ Precious Plastic

ผลตอบรับตั้งแต่เริ่มโครงการ Precious Plastic

จนถึงตอนนี้รวบรวมฝาขวดมาได้ประมาณ 100 กิโลกรัม ผมมองว่าเป็นตัวเลขค่อนข้างเยอะพอสมควร ถือเป็นตัวแสดงว่า คนเริ่มจะตระหนักว่าตัวเองกำลังสร้างมลพิษให้แก่โลกอยู่ และคนไทยก็อยากจะเป็นส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

แต่ฝาขวดจำนวน 100 กิโลกรัม ยังถือว่าน้อยมากหากเทียบกับจำนวนพลาสติกที่เราใช้กันทั้งหมด เป็นเพียง ‘หยดน้ำ ในมหาสมุทร’

ส่วนคำดูหมิ่นเรื่องนิสัยของคนไทยที่ยากจะเปลี่ยนแปลงนั้น ผมคิดว่าการเปลี่ยนแปลงจะเป็นกระบวนการแบบทีละเล็กทีละน้อย และจำนวนฝาที่ได้รับมาขนาดนี้ มันหมายความว่า ‘คนตระหนักรู้มากขึ้นแล้ว’

“เราไม่ได้พยายามจะสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบมโหฬารขนาดนั้น เพราะหากเปลี่ยนแปลงแบบทันทีทันใดไป จะทำให้คนรู้สึกต่อต้าน ฝาขวดเป็นสิ่งเล็กๆ แต่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่หลวงได้ คนเราเปลี่ยนข้ามคืนไม่ได้”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...