โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รูปชีวิตแบบนี้ - วินทร์ เลียววาริณ

THINK TODAY

เผยแพร่ 31 ธ.ค. 2561 เวลา 07.34 น. • วินทร์ เลียววาริณ

คนจำนวนมากมีความเชื่อในเรื่องกรรมว่าเป็นเรื่องของชาติก่อน ชาตินี้ และชาติหน้า ชาติหน้าจะเกิดใหม่เป็นชีวิตนั้นชีวิตนี้ ถ้าไม่ทำดี ก็จะเกิดเป็นสัตว์ชั้นต่ำ ที่เรียกว่า เดรัจฉาน’

เรามีคำด่า คำขู่ หรือคำแช่งว่า ถ้าทำชั่ว ชาติหน้าจะเกิดเป็นหมาหรือสัตว์เลื้อยคลานบางชนิด ทั้งนี้เพราะเราถูกปลูกฝังภาพความคิดว่าสัตว์ ‘ต่ำต้อย’

ความจริงเมื่อแรกบัญญัติศัพท์ ‘เดรัจฉาน’ ไม่ได้มีความหมายของสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำแต่อย่างไร

ศัพท์คำนี้แค่อธิบายกายภาพของชีวิตเท่านั้น

เดรัจฉานแปลว่า ขวาง หมายถึงสัตว์ที่ร่างกายเจริญโดยขวาง สัตว์ส่วนใหญ่มีลำตัวขวาง

ไปๆ มาๆ เราก็ใช้คำนี้ในนัยของ ‘สัตว์ชั้นต่ำ’ และเทียบกับมนุษย์ที่ยืนตัวตรง แล้วสรุปว่ามีคำสอนว่าเรามีจิตใจที่ประเสริฐกว่า สูงกว่า

มนุษย์เราอาจเป็นสายพันธุ์เดียวที่ยกตัวเองเป็นสัตว์ประเสริฐ และติดป้ายสัตว์อื่นๆ ว่า ‘เดรัจฉาน’

ทว่าข้อเท็จจริงที่ตราไว้ในฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตตั้งแต่แรกเริ่มบนโลกคือ รูปชีวิต (lifeform) มนุษย์อาจแตกต่างจากสัตว์อื่นๆ แต่ก็คือชีวิตจากรากเดียวกัน มีจุดกำเนิดเดียวกัน เราทุกคนเป็นญาติสนิทกับ ‘เดรัจฉาน’ รวมถึงนก ไก่ ด้วง ต้นไม้ เห็ด รา แม้กระทั่งเชื้อโรค

เป็น ‘family tree’ เดียวกัน

ทุกชีวิตบนโลกใช้โครงสร้างดีเอนเอเดียวกัน กาลเวลาทำให้ชีวิตวิวัฒนาการแตกแขนงออกไปเป็นความหลากหลายอย่างนี้

เราเป็นพิซซาเนื้อแป้งเดียวกัน ต่างกันเพียงที่รูปทรงและเครื่องปรุงปะหน้า และเราก็เปลี่ยนตัวตนของเราได้เพียงเท่านั้น

เราเปลี่ยนจากสัตว์ทางขวางมาเป็นทางดิ่งเมื่อไร?

จากหลักฐาน สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนเริ่มยืนตัวตรงตั้งแต่ยังเป็น ‘เดรัจฉาน’ ราวสี่ล้านปีก่อน นานก่อนเราเริ่มประดิษฐ์เครื่องมือหิน

มีหลายทฤษฎีว่าทำไมเราจึงยืนตัวตรง ทฤษฎีหนึ่งว่า เพราะสภาพโลกที่แอฟริกา ถิ่นกำเนิดมนุษย์ เมื่อราวสามล้านปีก่อน อากาศแห้ง ป่าหดหาย กลายเป็นทุ่งหญ้าโล่ง การยืนตัวตรงช่วยทำให้มองเห็นไกล แต่ทฤษฎีนี้ถูกยิงตกไปไม่นานมานี้ เมื่อเราค้นพบฟอสซิลของมนุษย์วานรในช่วงนั้นที่ประเทศเอธิโอเปีย พบว่าเวลานั้นพื้นที่นั้นยังเป็นป่าอยู่ และเราก็เริ่มเดินสองขาแล้ว

ทฤษฎีหนึ่งว่าการยืนตัวตรงช่วยให้การควบคุมอุณหภูมิร่างกายดีขึ้น เพราะได้รับแสงอาทิตย์น้อยกว่ายืนตัวขวาง แต่นี่ก็คือการคาดเดาว่าเราต้องอยู่กลางทุ่ง จึงจะรับแสงแดดมากขนาดนั้น และทำไมสัตว์อื่นๆ ไม่ยืนตัวตรงด้วย

ทฤษฎีหนึ่งว่า มนุษย์วานรอาจต้องเดินทางและต้องยกของ เช่นอาหารที่หามาได้ ฯลฯ จำต้องวิวัฒาการให้ยืนสองขา เพื่อใช้สองมือได้สะดวกขึ้น สัตว์ในยุคปัจจุบันหลายชนิดก็ใช้สองมือจับสิ่งของ เช่น ชิมแปนซี บางครั้งก็ยืนสองขาเมื่อต้องยกของ

ทฤษฎีสุดท้ายคือ มนุษย์วานรอาจอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ต้องเดินลุยน้ำลุยโคลน การใช้สองขาสะดวกกว่าสี่ขา นี่ไม่เพียงปรับให้เดินสองขา ยังทำให้เราสลัดขนบนร่างกายทิ้ง เนื่องจากทำให้เราว่ายน้ำได้สะดวกและเร็วขึ้น

ไม่ว่าอะไรคือสาเหตุของการอัพเกรดจาก ‘เดรัจฉาน’ เป็น ‘มุนษย์ประเสริฐ’ เวลาสี่ล้านปีของการเปลี่ยนแปลง เทียบกับสเกลอายุของโลก ก็ถือว่าสั้นมาก แค่พริบตาเดียว

และในเวลาที่น้อยกว่าพริบตานั้น มนุษย์สมัยใหม่เช่นตัวเราในวันนี้เพิ่งปรากฏบนโลก เพียงสองแสนปีนี้เอง

สองแสนปีน้อยเกินไปที่จะลบสัญชาตญาณดิบออกไปหมดสิ้น

เราก็คือ ‘เดรัจฉาน’ ชนิดหนึ่งเท่านั้น อาจเป็นเดรัจฉานเวอร์ชั่น 10.1 หรือ 11.2 ไม่มีอะไรพิเศษนอกจากสมองใหญ่กว่า ทว่าเราก็ใช้สมองในการทำลายสายพันธุ์อื่นๆ เราทำลายชีวิตอื่นมากมายนับไม่ถ้วนจนสูญพันธุ์

หากให้ทุกสายพันธุ์ในโลกโหวตออกเสียง คะแนนน่าจะเป็นเอกฉันท์ว่า เราชาวมนุษย์ต่างหากที่เป็น ‘เดรัจฉาน’

เราคิดเองเออเองว่าเราเหนือกว่าสัตว์

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ‘สัตว์ประเสริฐ’ อย่างเรายังไม่หยุดวิวัฒนาการ หากให้เวลาอีกสี่ล้านปี เราอาจเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าของมนุษย์ในวันนี้

และถ้ามนุษยชาติทำลายตัวเองก่อนถึงเวลานั้น บางทีเดรัจฉานในวันนี้ก็อาจวิวัฒนาการแซงหน้าเรา และพวกมันก็อาจสอนลูกหลานว่า มนุษย์เป็นสัตว์ชั้นต่ำ พวกมันเป็นสัตว์ประเสริฐ

เอาละ ความจริงก็คือ ณ นาทีนี้ เราอยู่ในรูปชีวิตของคน มีโครงสร้างแบบคนอย่างนี้ และเราก็อยู่ในยุคสมัยที่มนุษย์ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตแบบนี้ กินข้าวโดยทำให้สุกก่อน แบ่งงานกันทำ ว่างๆ ก็ดูละคร อ่านข่าวดาราตีกัน นินทาชาวบ้าน ไปเลือกตั้ง ฯลฯ

ชีวิตเป็นการเดินทางจากทารกสู่คนแก่ เกิดแล้วตาย แต่มีอะไรมากกว่านี้หรือไม่?

เราไม่รู้หลายเรื่อง แต่เรารู้ว่าเรามาอยู่ในโลกนี้ในรูปชีวิตนี้ ชั่วเวลาหนึ่ง รูปชีวิตต่อไปของเรา (ถ้ามี) เป็นอะไร เราไม่รู้ และก็ไม่จำเป็นต้องรู้

เมื่อเกิดเป็นคนแล้ว ก็ใช้ชีวิตอย่างคน

ยุคสมัยอื่นสังคมและวิถีมนุษย์อาจต่างจากวันนี้ แต่ ณ วันนี้เราเป็นอย่างนี้ ก็คงต้องยอมรับสภาวะนี้ และใช้ชีวิตให้ดีจนถึงวันสิ้นรูปชีวิตนี้

หากชีวิตเป็นการเดินทางในสายการบินพาณิชย์ ก็ทำตามที่กัปตันบอกว่า “Relax and enjoy the flight.”

…………..

วินทร์ เลียววาริณ

winbookclub.com

เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/

ธันวาคม 2561

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 9

  • ทางพุทธศาสนากล่าวประมาณว่า (เอาที่ผมพอเข้าใจ)​ขึ้นอยู่กับสภาพและคุณภาพของจิต ที่จะได้กายภาพนั้นๆมาอาศัยในช่วงเวลาหนึ่งของจิตนั้นๆ จนกว่าจิตดวงนั้นๆจะถึงซึ่งความวิมุตตินิพพาน (สภาวะหนึ่งที่ไม่ต้องมาวนเวียนเกิดตายกลายสภาพ)​ ซึ่งก็้ต้องฝึกฝนบำเพ็ญตนกันอย่างยาวนาน เพราะงั้นอย่างไปตึงไปหย่อนมากกับชีวิต ไม่เบียดเบียนตนและคนอื่น คือพื้นฐานของสภาพจิตที่ดี 🤟😄
    31 ธ.ค. 2561 เวลา 12.00 น.
  • ต๋อง
    อคนละมาตรวัดครับ ตามความเชื่อ มาตรวัดเป็นดังนี้ สัตว์นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน มนุษย์ เทวดา พรหม ตามวิวัฒนาการ เอาแค่สัตว์มีกระดูกสันหลังคือเลื้อยคลาน ครึ่งบกครึ่งน้ำ เลี้ยงลูกด้วยนม มนุษย์อยู่ในเลี้ยงลูกด้วยนม สมองแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน สมองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นอกจากมีสมองสัตว์เลื้อยคลานและครึ่งบกครึ่งน้ำแล้ว ยังมีที่เป็นของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโดยเฉพาะด้วย ไม่สามารถเอา “เดรัจฉาน“ ไปเทียบกับ “มนุษย์“ ได้ เหมือนกับไม่สามารถเอา “เซ็นติเมตร“ ไปเทียบกับ “นิ้ว“ ได้ ต้องแปลงให้เป็นมาตรเดียวกันก่อน
    31 ธ.ค. 2561 เวลา 11.23 น.
  • @...
    ทำไมผมถึงคิดไปว่าคงอาจจะเป็นเพราะในเรื่องของการดำรงค์ชีพจึงได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่างๆขึ้นมาได้.
    31 ธ.ค. 2561 เวลา 18.36 น.
  • สุทธิรัตน์ อิสมันยี
    ดีค่ะประทับใจ เป็นแง่มุมให้คิดตามวันแบบนี้มีอะไรดีๆให้อ่านค่ะ
    01 ม.ค. 2562 เวลา 05.31 น.
  • 😽🍦Ice-creammy🍦😻
    เป็นบทความดีๆ ที่อ่านเป็นบทความแรกของปี2562
    31 ธ.ค. 2561 เวลา 17.29 น.
ดูทั้งหมด