มาดูข้อดี ข้อเสียเมื่อต้องทำงานแบบ Work from home กันดีกว่า

อย่างที่รู้กันดีว่าตอนนี้สถานการณ์ไวรัส Covid-19 ยังคงแพร่ระบาดเป็นอย่างมาก ทำให้เราต้องงดการออกมาอยู่รวมกันจนกว่าโรคนี้จะหยุดการแพร่ระบาดได้ สิ่งที่หลายคนจะเผชิญหลังจากที่ออฟฟิศมีนโยบายให้ทำงานอยู่ที่บ้าน หรือเป็นการทำงานแบบ Work from home มีมากมายเลย เพราะหลายๆ คนไม่เคยต้องเอางานกลับมาทำที่บ้านอย่างจริงจังสักครั้ง ถือว่าเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่มากๆ เลย รู้สึกแปลกๆ ทำตัวไม่ถูกเลยก็มี ดังนั้นเรามาดูทั้งข้อดีและข้อเสียของการทำงานแบบ Work from home ไปพร้อมกันเถอะ

ข้อดี ของการทำงานแบบ Work from home คือ

#1. ไม่ต้องเดินทาง

โดยเฉพาะคนที่ต้องเข้าออฟฟิศไปทำงานอยู่ในตัวเมือง แค่ค่ารถไปกลับไม่ว่าจะเป็นค่ารถไฟฟ้า BTS หรือค่ารถ MRT ก็ใช้เงินต่อวันมากแล้ว การที่ไม่ต้องออกจากบ้านไปทำงาน ทำให้ประหยัดเงินขึ้นได้มากเลยทีเดียว ส่วนคนที่ขับรถเองก็ไม่ต้องเปลืองค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน ยิ่งถ้าใครยังได้เงินเดือนแบบเต็มๆ อยู่แล้วล่ะก็ จะทำให้เก็บเงินเพิ่มขึ้นได้อีกเยอะเลยล่ะ แน่นอนว่าเราไม่ต้องเสียเวลาที่เคยต้องเดินทาง ไปทิ้งไว้ที่รถติดบนท้องถนนหลายๆ ชั่วโมงเหมือนเคยด้วย ทำให้มีเวลาเหลือเพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยใช่ไหมล่ะ?

#2. สามารถพักและทำงานได้ทุกเมื่อ

สำหรับบางบริษัทจะไม่กำหนดเวลาการทำงาน กำหนดแค่เวลาการส่งงานเท่านั้น เราก็จะสามารถกำหนดเวลาทำงานได้ตามสะดวกเลย อย่างเช่น เราชอบที่จะตื่นสายก็สามารถที่จะเริ่มงานสายให้ร่างกายรู้สึกพร้อมมากกว่านี้ก่อนได้ และจะแบ่งเวลาพักผ่อน ทำความสะอาดบ้าน ดูแลใส่ใจสัตว์เลี้ยงก็ได้ทั้งนั้น มีอะไรที่คุณสามารถทำได้มากมายกว่าตอนอยู่ที่ออฟฟิศ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่ดีไม่น้อยเลยล่ะ

#3. มีความสุขและผ่อนคลายมากกว่า

เมื่ออยู่ในที่ที่คุ้นเคยอย่างบ้านของเราเอง เราก็สามารถที่จะใช้ชีวิตได้ตามสบาย ไม่รู้สึกเกร็งหรือมีคนจับตามองเราอยู่ บางทีก็ได้อยู่กับคนในครอบครัว คนรัก รวมถึงสัตว์เลี้ยงของเราเองด้วย ได้ทำงานโดยที่ไม่ต้องอยู่ห่างกัน ได้มีเวลาให้กันมากขึ้น ก็อาจจะรู้สึกมีความสุขอบอุ่นใจดีอยู่เหมือนกันนะ แถมเบื่อๆ เหนื่อยก็พักเล่นเกม ดูซีรี่ส์สักนิดก็ไม่เลวเหมือนกันนะ

#4. ไม่มีใครมารบกวนเวลาที่ทำงานอยู่

เวลาอยู่ที่ออฟฟิศมีผู้คนมากมายหลากหลายที่พร้อมจะเข้ามาชวนคุยบ้าง หรือหางานมาเพิ่มให้กับเรา แต่ถ้าเราต้องอยู่บ้านคนเดียวตามลำพังแล้ว เราจะสามารถทุ่มเทให้กับงานได้อย่างเต็มที่เลย โดยที่ไม่มีอะไรมารบกวน และบางทีอาจจะทำให้งานเสร็จเร็วกว่าการทำที่ออฟฟิศด้วยซ้ำไปนะ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนรักสันโดษชอบอยู่คนเดียวไม่วุ่นวายกับใครด้วยแล้ว นี่จะเป็นโอกาสที่ดีมากๆ เลยล่ะ

ส่วนข้อเสียของการทำงานแบบ Work from home คือ

#1. เสียสมาธิค่อนข้างง่าย

ไม่ใช่ทุกบ้านที่พร้อมสำหรับเป็นสถานที่สำหรับทำงาน บางบ้านก็มีของเยอะและมีสถานที่คับแคบอุดอู้เอามากๆ รวมถึงมีสมาชิกอยู่ในบ้านมากมายหลากหลายคนที่พร้อมจะรบกวนเราอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่เข้าใจว่าการอยู่บ้านของเรานั้นเป็นการทำงาน ไม่ใช่การพักผ่อนก็อาจจะรบกวนเวลาที่เราต้องทำงานและใช้สมาธิอย่างมาก ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นนัก

#2. ไม่สะดวกเท่าทำงานที่ออฟฟิศ

ไม่ใช่ทุกงานที่เหมาะจะนำมาทำที่บ้านเลย ไม่ว่าจะเป็นเพราะเอกสารหรือข้อมูลต่างๆ นั้น ล้วนแล้วแต่อยู่ในที่ทำงานทั้งหมด หากว่าเตรียมมาไม่พร้อม หรือไม่สามารถเปิดสั่งการจากที่อื่นได้ อาจจะทำงานสะดุด ไม่สามารถเริ่มต้นหรือทำต่อได้เลย แล้วถ้าหากติดต่อเพื่อนร่วมงานด้วยไม่ได้อีก ก็ยิ่งทำให้ต้องลำบากในการทำงานมากยิ่งขึ้นไปด้วย รวมถึงระบบออนไลน์ที่บ้านเอง ก็อาจจะไม่พร้อมสำหรับการใช้ทำงานด้วยเช่นเดียวกัน

#3. ปัญหาด้านสุขภาพ

เวลาทำงานอยู่ที่บ้านเรามักจะนั่งเป็นเวลานานๆ เพราะร่างกายจะไม่ค่อยได้ใช้พลังงาน จะรู้สึกอ้วนขึ้น ร่างกายอ่อนแอลง เพราะไม่ได้ลุกมาเดิน หรือยืดเส้นยืดสายบ้าง ทำให้เกิดสภาวะเหนื่อย ตึง เพราะไม่ได้เปลี่ยนสภาพแวดล้อมในแต่ละวัน เช่น ออกไปกินข้าว ไปเดินเล่นที่อื่นบ้าง อีกทั้งเหงาและสุขภาพจิตเสีย เพราะไม่ได้พบเจอพูดคุยกับผู้คนตัวต่อตัว ซึ่งเป็นปัญหาของคนที่เป็น Extrovert ที่มักไม่ชอบอยู่คนเดียว หรือใช้ชีวิตตามลำพังเป็นเวลานานเกินไป

#4. ค่าใช้จ่ายสูง

แม้จะไม่มีภาระเรื่องค่าเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศแล้วก็ตาม แต่ก็จะมีภาระด้านอื่นๆ เพิ่มแทน ทั้งค่าไฟที่จะต้องเปิดคอมพิวเตอร์ทำงานทั้งวัน แถมอากาศร้อนทนไม่ไหวก็อาจจะต้องเปิดแอร์ทำงานอีก ยิ่งทำให้ค่าไฟเพิ่ม รวมถึงอาจจะต้องสั่งอาหารกิน หากละแวกบ้านไม่มีร้านอาหารถูกๆ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นได้ ใครว่าอยู่บ้านไม่ต้องใช้เงินก็ไม่จริงเสมอไป ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีต้นทุนด้วยกันทั้งนั้น

สถานการณ์ไวรัสระบาดนี้ก็ดูแล้วมีท่าทีจะไม่สามารถสงบลงได้ง่ายๆ และคงจะยืดเยื้อไปอีกสักระยะเลย ทำให้เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะต้องทำงานอยู่ที่บ้านแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ รวมถึงต่อให้กลับไปทำงานที่ออฟฟิศตามปกติได้แล้วก็ตาม แต่อาจจะทำให้บริษัทมีนโยบาย Work from home เพิ่มเติมมาอีกก็ได้ ถ้าโดยรวมแล้วมีข้อดีและลดต้นทุนต่างๆ ได้ ดังนั้นเรามาลองปรับตัวทำงานแบบนี้กันดู เผื่อว่าจะได้ใช้ประโยชน์ในอนาคตกันมากขึ้นค่ะ