เคยได้ยินกันมาบ้างเรื่องยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน จนทำให้พฤติกรรมบางอย่างของเราเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่รู้ตัว ความอดทนลดน้อยลง, ใจร้อน, ขี้อวด ทำไมคนนั้นชีวิตดีจัง ไปเที่ยวต่างประเทศตลอดเลย ทำไมคนนี้ทำงานเก่งจังได้เลื่อนขั้นอีกแล้ว แต่แล้วทำไมเราเองยังอยู่ตรงนี้อยู่เลย? เมื่อเห็นชีวิตคนอื่นแล้วมันก็อดเปรียบเทียบกับชีวิตของตัวเองไม่ได้ใช่ไหมล่ะคะ เจ้าอาการชอบเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นนี่จัดว่าเป็นเสมือนโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่งที่ต้องได้รับการเยียวยารักษาเลยนะ รู้อย่างนี้แล้วงั้นเรามาเอาตัวเองออกจากภาวะนี้กันดีกว่า
อย่างแรกที่ควรทำคือสำรวจตัวเองก่อนว่าเราเป็นโรคชอบเปรียบเทียบประเภทไหน?
- ชอบเปรียบตัวเองกับคนที่รู้กว่าจนรู้สึกด้อยคุณค่า
- หรือชอบเปรียบเทียบกับคนที่ด้อยกว่าจนรู้สึกสูงส่ง
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหน หากคุณคิดซ้ำไปซ้ำมา คิดจนเป็นทุกข์ คิดจนเครียดไม่เป็นอันทำอะไร ท้อแท้ในโชคชะตาตัวเอง จุดนี้แหละที่คุณต้องหยุดเพื่อทบทวนตัวเองให้เร็วที่สุดก็ยิ่งดีค่ะ
"เลิกเปรียบเทียบ=มีความสุข"
สำหรับวิธีง่าย ๆ ที่จะเลิกเป็นคนที่ชอบเปรียบเทียบ ให้เริ่มที่ 'ความคิด' และ 'จิตใจ' ของเราเองเป็นหลัก
1.ทุกคนมีจุดแข็งของตัวเอง
อย่ามัวแต่มองว่าตัวเองทำสิ่งนี้ไม่ได้ ทำสิ่งนั้นไม่ดี แต่พยายามหาจุดเด่นที่ตัวเองทำได้ดีก่อน แล้วพัฒนาตรงนั้นให้มากขึ้นไปอีก Turn comparison into inspiration! พลิกวิกฤติ (ในใจ) ให้เป็นโอกาสในการส่งเสริมความสามารถต่าง ๆ ของเราเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
2.ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
ทำความเข้าใจก่อนว่า แม้แต่คนที่โชคดีที่สุดก็ยังมีข้อบกพร่อง เพราะว่ามนุษย์เราไม่มีใครสมบูรณ์ 100% อย่างแน่นอน มันเป็นสัจธรรม มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่สุดที่ทุกคนต้องเจอ
3.เทียบกับใครก็ไม่สู้เทียบกับตัวเราเอง
ลองทบทวนความเป็นเราในอดีตกับปัจจุบันว่าเราทำอะไรได้ดีขึ้นไหม แตกต่างจากตอนนั้นอย่างไร หยิบเอาข้อผิดพลาดมาเป็นตัวผลักดันให้เราดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะคนเราเกิดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หากมัวแต่เอาชีวิตตัวเองไปผูกกับโชคชะตาของคนอื่นก็ดูจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย สู้หันมามองสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่แล้ววางแผนพัฒนาตัวเองดีกว่า
4.ยอมรับความจริง
สำคัญที่สุด หากเรารู้จักตัวเองว่าเราเป็นคนอย่างไร เราเก่งอะไร เราด้อยตรงไหน แล้วยอมรับความจริงให้ได้ว่า บางอย่างเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อย่างที่เขาว่ากันว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ นี่คือเรื่องจริงที่สุด หากยอมรับความเป็นไปของชีวิตได้ก็ชนะได้ครึ่งหนึ่งแล้วล่ะ เพราะการยอมรับความจริงคือหัวใจของความก้าวหน้า
ไม่ใช่ว่าการเปรียบเทียบจะมีแต่ข้อเสียเสมอไปนะคะ มันจะแปรเปลี่ยนเป็นผลดีเมื่อเรารู้จักนำข้อแตกต่างนั้นมาปรับปรุงพัฒนาตนเอง ไม่ใช่จมปลักอยู่กับความรู้สึกด้อยเช่นนั้นอยู่ตลอดเวลา หากจะกล่าวว่า ดอกไม้มีความงามเฉพาะตัวฉันใด คนเราก็มีความสามารถเฉพาะตัวฉันนั้น ไม่ต้องเปรียบ ไม่ต้องเทียบกับใคร เป็นตัวเราเองให้เวอร์ชันที่ดีที่สุดน่าจะมีความสุขมากกว่าค่ะ