อย่าคิดไปเอง ! 8 ความเชื่อผิด ๆ ที่ไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งเต้านม

เชื่อหรือไม่..คนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งมากกว่าอุบัติเหตุ สถิตินี้เป็นเรื่องน่าตกใจที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติพยายามออกมาบอกถึงความน่ากลัวของโรคมะเร็งให้คนไทยรับรู้กันอยู่บ่อย ๆ แต่ข้อมูลการเสียชีวิตดังกล่าวกลับไม่ได้ลดลงเลย

มะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคือมะเร็งตับ แต่ถ้าลงรายละเอียดให้ลึกลงไปอีกก็คือผู้ป่วยเพศชายเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนผู้ป่วยเพศหญิงเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งเต้านมเป็นอันดับหนึ่ง สถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นแล้วว่ามะเร็งน่ากลัวแค่ไหน

แต่จนถึงป่านนี้ก็ยังไม่มีสถาบันแพทย์ใดสามารถระบุได้ว่ามะเร็งเต้านมเกิดจากอะไร แต่สิ่งที่อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งเต้านมได้ก็คือฮอร์โมน พันธุกรรม และการใช้ชีวิต นอกเหนือจากนั้นล้วนเป็นความเชื่อผิด ๆ ที่ส่งต่อกันมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว โดยเฉพาะ 8 ความเชื่อเหล่านี้ที่ผิดไปจากความจริงไกลโขทีเดียว

1. กินเนื้อสัตว์มากไปเสี่ยงมะเร็ง

ไม่เคยมีหลักฐานใด ๆ ออกมาสนับสนุนทฤษฎีที่ว่ากินเนื้อสัตว์มากไปจะเป็นมะเร็ง นอกเสียจากจะเป็นเนื้อสัตว์ที่ปิ้งหรือย่างจนไหม้เกรียมที่มีสารพิษเจือปนเท่านั้นถึงจะก่อให้เกิดมะเร็งได้ แต่ปริมาณที่บริโภคเข้าไปนั้นไม่ได้ทำให้เกิดมะเร็งแต่อย่างใดเลย ดังนั้นถ้าเลือกกินอย่างเหมาะสม ยังไงก็ไม่เป็นมะเร็งเต้านมแน่นอน

2. เสื้อชั้นในไม่มีผลแต่อย่างใด

การใส่เสื้อชั้นในขณะนอนหลับ และการใส่เสื้อชั้นในแบบมีโครงหรือมีลวดไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมแต่อย่างใด ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดมะเร็งเต้านมในประเทศสหรัฐอเมริกาเคยออกมาระบุแล้วว่า ยังไม่มีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ได้เลยว่าการใส่บราตอนนอนไม่ดีหรืออันตราย อย่างมากก็แค่ทำให้อึดอัดเท่านั้น

นอกจากนี้ชั้นในแบบมีโครง มีลวดก็ไม่ได้เชื่อมโยงอะไรกับการเป็นมะเร็งเต้านมด้วยเช่นกัน เรียกว่าเป็นความเชื่อผิด ๆ ที่ถึงจะพิสูจน์แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังหลงเชื่อกันอยู่ดี

3. นมเล็กหรือนมใหญ่ก็เป็นมะเร็งได้ทั้งนั้น

จริง ๆ แล้ว ขนาดของเต้านมไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง แต่ต่อมหรือท่อน้ำนมที่ผิดปกติต่างหากที่ทำให้เป็นมะเร็งเต้านม

นมเล็กหรือใหญ่ก็แค่เนื้อเยื่อไขมันที่อยู่ในร่างกาย ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับการเป็นมะเร็ง เพราะฉะนั้นการศัลยกรรมเสริมหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมะเร็ง

4. โรลออนกับมะเร็ง เป็นคนละเรื่องกันเลย

ก่อนหน้านี้มีการแชร์ข้อมูลอย่างกว้างขวางว่าผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นใต้วงแขนหลายยี่ห้อที่มีส่วนประกอบเป็นสารอลูมิเนียมคลอไฮเดรต อาจก่อให้เกิดมะเร็งเต้านม ซึ่งจนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือทางการแพทย์ใด ๆ ที่ยืนยันแน่ชัดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะก่อให้เกิดมะเร็งได้

5. ซีสต์กับมะเร็ง ก็เป็นคนละเรื่องเหมือนกัน

ซีสต์ที่เต้านมหรือถุงน้ำในเต้านมมีลักษณะเป็นถุงน้ำ มีเซลล์ต่อมน้ำนมล้อมรอบและภายในเป็นน้ำ เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงปกติของเต้านม ไม่ใช่ลักษณะเริ่มต้นของมะเร็ง ที่สำคัญซีสต์ไม่สามารถกลายเป็นมะเร็งเต้านมได้ เพราะซีสต์ไม่ใช่ความผิดปกติที่ตัวเซลล์ จึงไม่มีความเสี่ยงที่จะพัฒนาเป็นมะเร็งได้ เพียงแต่มะเร็งบางชนิดอาจมีรูปร่างเหมือนซีสต์จนทำให้ความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้

6. ก้อนเนื้อในเต้านมไม่ใช่มะเร็งเสมอไป

80% ของก้อนเนื้อเหล่านั้นมักเป็นแค่เนื้องอกธรรมดา หรือซีสต์ เพราะฉะนั้นถ้าคลำเจอก้อนเนื้อในเต้านมอย่าเพิ่งสรุปว่าตัวเองเป็นมะเร็ง แค่ต้องรีบพบแพทย์โดยด่วนเพื่อวินิจฉันว่าก้อนเนื้อดังกล่าวเกิดจากอะไร

7. แมมโมแกรมไม่ได้เพิ่มความเสี่ยง

แมมโมแกรมคือการตรวจภาพรังสีเต้านมโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยให้มองเห็นรายละเอียดภายในเนื้อเต้านมได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ใด ๆ ยืนยันเลยว่ารังสีที่ใช้ในการตรวจแมมโมแกรมทำให้เกิดมะเร็งได้ อีกทั้งรังสีดังกล่าวก็มีปริมาณน้อยนิดเสียจนไม่สามารถก่อให้เกิดโรคใด ๆ ได้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเองด้วยการไม่ตรวจเช็กแมมโมแกรมเลย

8. ผู้ชายก็เป็นมะเร็งเต้านมได้

อย่างที่บอกว่านมเล็กหรือใหญ่ไม่ได้มีผลกับความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมเลย เพราะฉะนั้นเป็นผู้ชายก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เสี่ยง เพียงแต่มีโอกาสน้อยกว่าเท่านั้นเอง โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ที่เป็นเพศชายเพียง 1 รายต่อเพศหญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมทุก ๆ 1 แสนคน ซึ่งเซลล์มะเร็งจะเกิดขึ้นในเนื้อเยื่อเต้านมจำนวนเล็กน้อยที่มีอยู่ใต้หัวนมของผู้ป่วยเพศชาย อาการที่พบบ่อยที่สุดคือก้อนที่แข็งและไม่เจ็บปวดในหน้าอก

การรักษาก็คล้ายกับมะเร็งเต้านมในเพศหญิง ส่วนปัจจัยที่ทำให้ผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม แม้จะไม่มีการระบุสาเหตุที่แน่ชัด แต่เรื่องของอายุ โรคอ้วน โรคตับแข็งก็มีโอกาสทำให้เป็นมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เราสามารถเช็กความผิดปกติของเต้านมได้อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งหลังจากมีประจำเดือน 1 อาทิตย์ ยิ่งเราเช็กบ่อยเท่าไหร่ โอกาสที่จะไม่เป็น หรือเป็นแล้วรักษาหายก็ยิ่งมีมากเท่านั้น