โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เปิดตำนาน เทศกาลดนตรี Coachella วัฒนธรรมทางดนตรีที่ดีที่สุดในอเมริกา

MThai.com

เผยแพร่ 30 ต.ค. 2562 เวลา 01.25 น.
เปิดตำนาน เทศกาลดนตรี Coachella วัฒนธรรมทางดนตรีที่ดีที่สุดในอเมริกา
ปี 1993 มีเหตุการณ์สำคัญในวงการดนตรีแดนลุงแซมเกิดขึ้น เมื่อ Pearl Jam วงร็อคชื่อดังในยุคนั้นปฏิเสธการขึ้นเล่นคอนเสิร์ตที่ Los Angles เพราะปัญหาไม่ลงรอย เรื่อง Sevice charges ค่าตั๋วกับคู่กรณี Ticketmaster…

ปี1993 มีเหตุการณ์สำคัญในวงการดนตรีแดนลุงแซมเกิดขึ้น เมื่อPearl Jam วงร็อคชื่อดังในยุคนั้นปฏิเสธการขึ้นเล่นคอนเสิร์ตที่Los Angles เพราะปัญหาไม่ลงรอย เรื่องSevice charges ค่าตั๋วกับคู่กรณีTicketmaster Entertainment, Inc. โชว์จึงถูกย้ายมาจัดที่ Empire Polo Club เมือง Indio รัฐ California โดยโชว์ครั้งนั้นมีแฟนเพลงเข้าชมเกือบ 25,000 คน ด้วยฝีมือของ Paul Tollett ผู้จัดคอนเสิร์ตจาก บริษัท Goldenvoice ทำให้เมล็ดพันธุ์ของ Coachella Music Festival จึงถูกหว่านลง ณ ที่แห่งนี้เป็นต้นมา

Coachella Begin !

ช่วงปี 1997 Goldenvoice พยายามที่จะจองคอนเสิร์ตจากบริษัทใหญ่เพื่อมาแสดง แต่พวกเขาไม่สามารถเสนอการรับประกันได้สูงเท่ากับคู่แข่งอย่าง SFX Entertainment ทำให้บริษัทสูญเสียโชว์ไปหลายวง Paul Tollett และทีมงานเริ่มระดมสมองด้วยความคิดที่ว่า ไม่จำเป็นจะต้องจองศิลปินยอดนิยมที่ฮิตติดชาร์ท “บางทีถ้ารวมศิลปินเข้าด้วยกัน นั่นอาจเป็นแม่เหล็กสำหรับคนจำนวนมาก” จึงผุดเป็นไอเดีย Music Festival ขึ้นมา ถึงแนวคิดจะเกิดขึ้นแล้ว แต่แนวทางก็ยังไม่ชัดเจน ในปีเดียวกันนั้น Tollett ได้ไปเทศกาลดนตรี Glastonbury เขาได้รับแผ่นพับสำหรับศิลปินและผู้จัดการ ซึ่งทำให้เขาเห็นภาพของ Empire Polo Club ที่เขาเคยเนรมิตคอนเสิร์ตให้ Pearl Jam เป็นเทศกาลดนตรีขึ้นมา

หลังจากสำรวจสถานที่หลายแห่งเพื่อจัดงานเทศกาล Paul Tollett และ Rick Van Santen co-president ของ Goldenvoice กลับไปที่ Empire Polo Club ในปี 1998 พวกเขาประทับใจกับความเหมาะสมของสถานที่ จึงตัดสินใจจัด Music Festival ที่นั่น งานถูกจัดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 9-10 ตุลาคม 1999 ด้วยชื่อ Coachella Valley Music and Arts Festival พร้อมการแสดงกว่า 40 โชว์

ก้าวที่ยากลำบาก ของ Coachella

ช่วงแรกยังไม่สำเร็จนัก พวกเขาขายตั๋วได้ประมาณ 17,000 ใบในวันแรก และ 20,000 ใบในวันที่สอง ซึ่งห่างจากเป้าหมายถึง 70,000 ใบ จนแผนในปี 2000 มีอันต้องพับใส่กระเป๋า กระทั่งในปี 2001 หลังจาก Paul Tollett ขาย Goldenvoice ให้แก่ Anschutz Entertainment Group (AEG) มีการนำ Coachella มาปัดฝุ่นอีกครั้ง และย้ายไปจัดช่วง Summer โดยยังมี Tollett ดูแลเช่นเดิม ซึ่งการดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น ถึงแม้จะถูกตัดเวลาเหลือวันเดียว ก็ยังมีผู้เข้าร่วมถึง 32,000 คน แต่ Tollett ยังคงประเมินว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำอยู่ดี

Oasis – Go Let it Out | Coachella 2002
Oasis – Go Let it Out | Coachella 2002

ในปี2002 Coachella กลับมาเป็น 2 วันเช่นเดิม โดยในปีนี้เล่นใหญ่ด้วยโชว์จาก Björk นักร้องสุดติสท์แตก (นึกภาพ Lady Gaga แห่งยุค มิลเลเนี่ยม), Oasis วงร็อค แอนด์ โรล จอมขบถ, การรียูเนี่ยนของ Siouxsie and the Banshees และไฮไลท์ของงานอย่าง Queens of the Stone Age วงดนตรีท้องถิ่นวงแรกที่เล่นในเทศกาลนี้ ด้วยพลังจากท้องถิ่น ปีนี้มีผู้เข้าร่วม 55,000 คน ถือว่าเป็นสัญญานที่ดีในการเติบโต

Coachella สู่การเป็น “America’s Best Music Festival”

ภายหลังการเสียชีวิตของ Rick Van Santen และการลาออกของ Paul Tollett ในปี2003 ทำให้กรรมสิทธิ์ของ Coachella Valley Music and Arts Festival ตกเป็นของ AEG อย่างสมบูรณ์

Thom Yorke of Radiohead at Coachella 2004. Saturday May 1, 2004. Photo by Brian Moghadam
Thom Yorke of Radiohead at Coachella 2004. Saturday May 1, 2004. Photo by Brian Moghadam

ในปี2004 วงAlternative Rock ระดับตำนานอย่างRadiohead ปรากฏตัวกลาง Empire Polo Club Tollett ยอมรับเลยว่านี่คือการยกระดับ Coachella อย่างแท้จริง นอกจากRadiohead และThe Cure แล้วยังมีLine-up มากกว่า80 วง ทำให้ครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 110,000 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลก และยังได้รับเสียงชมจาก Robert Hilburn นักเขียนและนักวิจารณ์ดนตรีชื่อดัง และ นิตยสาร Rolling Stone ที่ออกมาการันตีว่า Coachella เป็น“America’s Best Music Festival”

Coachella เมล็ดพันธุ์ทางดนตรีไม่หยุดเติบโต

นับถึงวันนี้ เป็นเวลา 2 ทศวรรษแล้วที่ The Coachella Valley Music and Arts Festival สร้างสีสันในฐานะ เทศกาลดนตรีที่ดีที่สุดในอเมริกา และยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการรวบรวมดนตรีทุกแนวบนโลกนี้มาแสดงบนเวทีต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาถึง10 เวที มีผู้เข้าร่วมกว่า700,000 คน เพิ่มเวลาจัดงานถึง2 Weekend และศิลปินระดับโลกมากมายมาขึ้นแสดง อาทิAC/DC | Guns N’ Roses (original members) | Drake | Calvin Harris | Lady Gaga | Kendrick Lamar | The Weeknd | Beyoncé | Eminem| Khalid | Ariana Grande | Black Pink | etc.

Angus Young of AC/DC | Slash of Guns N’ Roses at Coachella 2016
Angus Young of AC/DC | Slash of Guns N’ Roses at Coachella 2016

มากกว่าแค่ ดนตรี แต่ Coachella คือ Culture

The Coachella Valley Music and Arts Festival ยังมีสิ่งที่ขึ้นชื่อนอกจากเทศกาลดนตรี นั่นคือการเนรมิตงานให้เป็นเสมือนรันเวย์กลางแจ้งที่ใหญ่และฮิปที่สุดในโลก ในสไตล์ฮิปปี้ โบฮีเมียน และเราอาจจะได้มีสิทธิ์กระทบไหล่ดาราฮอลลีวู้ด และเซเลบริตี้ชื่อดังระดับอินเตอร์ อย่าง Gigi Hadid, Kylie Jenner, Vanessa Hudgens, Shay Mitchell ที่มาร่วมงาน

และยังมีอีเวนต์สร้างแรงบันดาลใจด้วยงานศิลปะ จากศิลปินยุคใหม่สุดร่วมสมัยและดีไซเนอร์ชื่อดัง ที่มาร่วมละเลงไอเดียให้กลายเป็นแลนด์มาร์กสไตล์หลุดโลก หลากหลายแนว ทั้งเพ้นท์ติ้ง อาร์ตอินสตอลเลชั่น ผสานเทคโนโลยีเสมือนจริง พร้อมแสง-สี-เสียง เต็มพื้นที่

โดยในปี2020 นี้ เป็นอีกครั้งที่เชื่อได้เลยว่า The Coachella Valley Music and Arts Festival จัดใหญ่ไม่น้อยหน้าปีอื่นแน่นอน รอชม Line-up กันได้เลย และใครที่หลงใหลในเมโลดี้ ทั้ง Rock / Indy / Hip-Hop / EDM / etc. ต้องลองไปสัมผัสความยิ่งใหญ่และความขลังของ “America’s Best Music Festival”กันให้ได้สักครั้งในชีวิต

แค่ได้ไปเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลดนตรีระดับโลกแบบนี้ก็ว่าสุดยอดแล้ว แต่ถ้าหากได้ไปร่วมทริปแบบเหนือระดับยิ่งกว่าวีไอพี ใกล้ชิดกับศิลปิน จะฟินขนาดไหน ไม่ได้พูดเล่น แต่โปรแกรม JOY หรือ The Ultimate JOY Experience จัดให้จริง เตรียมมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ฝันของคนรักเสียงดนตรีเป็นจริงขึ้นมาได้ ในทริป JOY GO COACHELLA – California ที่จะพาทุกคนไปกระทบไหล่ขอลายเซ็นจากศิลปินและเซเล็บคนดัง ด้วยบัตร Artist Guest ประเภทสูงสุด สิทธิ์แทบจะเทียบเท่ากับศิลปิน เข้าได้ถึงพื้นที่วีไอพีหลังเวที เกาะติดหน้าเวทีได้แบบเอ็กซ์คลูซีฟของจริง และไม่มีวางขายทั่วไป แต่พิเศษ #ONLYwithBMW! สำหรับ JOY GO COACHELLA – California เท่านั้น

ประสบการณ์พิเศษ สำหรับเจ้าของรถยนต์ BMW ทุกรุ่นที่อยากเข้าร่วมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่โปรแกรม The Ultimate JOY Experience จัดให้ สามารถจองได้ก่อนใคร แล้วจึงเปิดให้บุคคลทั่วไปจองได้หากยังมีตั๋วเหลือ ทริป JOY GO COACHELLA – California จะจัดขึ้นวันที่ 15-22 เมษายน 2563

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0