การบ้านเยอะไป หรือ เด็กไทยมันห่วย! “รับจ้างทำการบ้าน” ระบบการศึกษาไทยแลนด์ 4.0
สวัสดีครับ คอลัมน์ "ไทยทูเดย์" วันนี้ขอชวนทุกท่านมารำลึกถึงชีวิตวัยเด็กกันหน่อยแล้วกันนะครับ
จำกันได้ไหมครับว่าสมัยที่เรายังเป็นนักเรียนประถม-มัธยมนั้น คุณครูที่โรงเรียนให้การบ้านเรามากน้อยแค่ไหน บางวิชาก็ให้การบ้านพอดี ๆ ไม่มากไม่น้อย บางวิชาอาจจะให้การบ้านน้อยจนเหมือนไม่ได้ให้ ในขณะที่บางวิชาก็ให้การบ้านเยอะมาก ทำแบบฝึกหัดเป็นร้อย ๆ ข้อ จนเราแทบไม่มีเวลาไปทำอะไรอย่างอื่น บางวิชาก็ให้ทำแผ่นพับ ต้องตกแต่งสวยงามอลังการ บางวิชานะครับ คุณครูก็ให้การบ้านช่วงปิดเทอมด้วย แล้วการบ้านที่คุณครูสั่งนี่ก็ไม่ธรรมดานะครับ คือให้ลอกหนังสือทั้งเล่ม เขียนลงไปในสมุด นี่ก็ยังไม่เข้าใจจนถึงทุกวันนี้ว่าลอกหนังสือทั้งเล่มลงไปในสมุดแล้วมันได้ผลดียังไงกับชีวิตมากนักเหรอครับ โอเค ข้อดีอาจจะมีอยู่บ้างตรงที่ทำให้นักเรียนได้เห็นผ่านตาทุกเนื้อหาในบทเรียน แต่ถามว่านักเรียนลอกหนังสือทั้งเล่มลงไปในสมุดจริงไหม ครูจะอ่านทุกตัวอักษรของนักเรียนจริงเหรอ ผมว่าไม่น่าจะมีครูคนไหนอ่านขนาดนั้นหรอก
อ่านไปอ่านมา เหมือนผมจะต่อต้านการให้การบ้านนักเรียนนะครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกันไปครับ ผมว่า "การบ้าน" จะเกิดประโยชน์สูงสุดถ้าครูให้มาในปริมาณที่พอดี ๆ ครับ อะไรที่มัน "เกินไป" มันไม่ดีหรอกครับ แต่สมมติว่าถ้าครูให้การบ้านมากเกินไป นักเรียนทำไมทันจนต้องไปลอกจากเพื่อน หรือการที่นักเรียนไป copy เนื้อหาจากในเว็บมา paste ลงในรายการ มันก็ยังโอเคกว่าที่ไปจ้างคนอื่นทำโดยที่ตัวนักเรียนเองไม่ได้อ่านอะไรเลยแม้แต่น้อย
ใช่ครับ… เดี๋ยวนี้มีธุรกิจ "รับจ้างทำการบ้าน"
จริง ๆ ธุรกิจนี้ก็มีมาสักพักแล้วเหมือนกัน จำได้ว่าเคยออกข่าวใหญ่โตไปครั้งหนึ่ง แต่เรื่องก็เงียบหายไป จนมาช่วงนี้เห็นระบาดกันอีกแล้วตามสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม มีแอคเคาท์ "รับจ้างทำการบ้าน" เยอะแยะไปหมด
ถามจริง ๆ ครับว่าคนที่มาทำงานรับจ้างทำการบ้านแบบนี้นี่คุณรู้สึกดีจริง ๆ เหรอครับ สิ่งที่คุณทำนี่กำลังทำร้ายอนาคตของชาติอยู่หรือเปล่า คุณช่วยให้เด็กได้มีงานส่งครูก็จริงครับ แต่ว่ามันไม่ได้ช่วยให้เด็กได้พัฒนาทักษะอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
ผมว่าธุรกิจนี้คือหนึ่งใน "ธุรกิจบาป" หากินด้วยวิธีที่ทำร้ายนักเรียนไทยแบบซึ่ง ๆ หน้า ถามว่านักเรียนได้อะไรบ้างจากการจ้างคนทำการบ้าน บอกตรงนี้เลยครับว่าไม่ได้อะไรเลย นอกจากได้การบ้านไปส่งครู
เราลองมองย้อนไปดูวัตถุประสงค์ของ "การบ้าน" นะครับ ครูต้องการให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะ ได้เก่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้เรามีความรู้ถูกต้องแม่นยำ ตรงไหนที่เรายังบกพร่องเราก็จะได้รู้ และจะได้แก้ไขจุดนั้น ผมว่าการที่เราทำการบ้านด้วยตัวเองเนี่ย นอกจากเราจะได้พัฒนาตัวเองแล้ว เรายังไม่ต้องเสียเงินโดยใช่เหตุด้วย มีเงินเหลือเฟือเอาไปจับจ่ายใช้สอย เอาไปซื้อบัตรคอนเสิร์ตหรือบัตรจับมือได้อีกหลายใบครับ
แล้วเราจะแก้ปัญหานี้ได้ยังไงดีครับ
อย่างแรกเลย ผมว่าคนที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ก็มีอยู่ 4 ส่วนแหละครับ
1. นักเรียน ก็ต้องมุ่งมั่นแน่วแน่ในการทำการบ้านด้วยตนเอง ขอให้ลองทำด้วยตนเองก่อนครับ จะออกมาดีหรือไม่ดี สวยหรือไม่สวย ก็เป็นผลงานของเราเอง อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าตัวเองมีจุดเด่นจุดด้อยตรงไหน
2. ผู้ปกครอง ก็ต้องคอยสอดส่องดูแลบุตรหลานด้วยว่าทำการบ้านเองจริงไหม หรือว่าวันนี้มีพัสดุมีซองอะไรส่งมาที่บ้านหรือเปล่า ในกล่องในซองนั้นอาจจะเป็นการบ้านที่บุตรหลานคุณไปจ้างคนอื่นทำให้ก็เป็นได้ครับ
3. ครู ก็ต้องประเมินปริมาณการบ้านด้วยว่าเยอะเกินไปหรือไม่ บางครั้งครูอาจจะคิดว่าวิชาที่ครูรับผิดชอบนั้นให้เหมาะสมแล้ว แต่ครูลองดูด้วยครับว่าเมื่อการบ้านของครูทุกท่านรวมกันแล้ว มันยังพอดีอยู่ไหม ถ้าวิชาเดียวอาจจะพอดี แต่ถ้ารวมกับวิชาอื่นมันอาจจะเยอะเกินกว่าที่เด็กจะรับไหวก็ได้
4. คนรับจ้าง… เลิกเถอะครับ หางานอย่างอื่นทำเถอะครับ ธุรกิจออนไลน์มีตั้งหลายอย่างให้เลือกหามาขาย ทั้งเครื่องสำอาง อาหาร เครื่องเขียน ฯลฯ อะไรก็ว่าไป หรือจะรับจ้างทำอะไรก็ทำไป แต่เรื่องการบ้านนี่หยุดเถอะครับ หยุดเป็นส่วนหนึ่งที่จะฉุดรั้งความเจริญของประเทศดีกว่าครับ
แล้วกลับมาพบกับคอลัมน์ไทยทูเดย์ได้ใหม่ในสัปดาห์หน้านะครับ สวัสดีครับ
