โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ความลับของห้าง ที่ทำให้เราช้อปเยอะขึ้น - เพจฉันเรียนแฟชั่นที่มิลาน

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 13 พ.ย. 2563 เวลา 13.52 น. • ฉันเรียนแฟชั่นที่มิลาน

เราเคยเดินหลงในห้าง วนหาบันไดเลื่อนกันจนงงมั้ยคะ หรือจะหาของซักชิ้นแต่ทำไมวางซะในสุดของห้างเลย เรื่องชวนปวดหัวเหล่านี้ จริงๆ แล้ว เค้าตั้งใจ และผ่านการวางแผนมาอย่างดีเยี่ยม เป็นเหมือนความลับในการเพิ่มกำไรที่ไม่อยากให้ลูกค้ารู้เลยล่ะค่ะ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. ผังห้างแสนสับสน ที่ทำให้เรายิ่งเดิน ยิ่งหาทางออกไม่เจอ

“Gruen transfer” คือชื่อเรียกปรากฎการณ์เวลาลูกค้าเดินเข้าไปในห้าง แล้วเดินวนหลงอยู่นานกว่าที่ตั้งใจไว้ การที่ห้างออกแบบมาให้เราใช้เวลาเดินเยอะ เช่นแทนที่บันไดเลื่อนมันจะต่อกันเลย ก็ต้องเดินอ้อมไปยังอีกฝั่ง หรือพอขึ้นมาชั้น2 ต้องเดินไปอีกฟากเพื่อไปชั้น3 เพราะเค้าตั้งใจให้เราได้เดินดูสินค้าชิ้นอื่นๆ ที่เราอาจจะจู่ๆ สะดุดตาซื้อขึ้นมา นอกเหนือจากชิ้นที่เราตั้งใจมาเลือกดูแต่แรก จะว่าไปคุณVictor Gruen ผู้ก่อตั้งห้างสรรพสินค้าห้างแรกในสหรัฐอเมริกาที่ถูกนำชื่อไปเรียกปรากฎการณ์นี้ ไม่ค่อยพอใจนัก เพราะใจจริงเค้าอยากออกแบบให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายๆ นะ

2. การตั้งชื่อชั้นในห้างสรรพสินค้า

สมัยแพรเรียนหนังสือ แพรเรียนที่ชั้น4 ของอาคาร เราก็เดินบันไดขึ้นไป1 2 3 4 อะคือชั้น4 แต่เมื่อไม่นานมานี้ แพรลองสังเกตลิฟต์ในห้าง เรามีชั้นG M แล้วค่อยนับ1 2 ชั้น4 ที่แพรคุ้นชิน จริงๆ ในห้างเค้าเรียกว่าชั้น2 เองนะเออ ทำไมเป็นแบบนั้นกันเนอะ

จริงๆ ต้องเข้าใจว่าถ้าเรียกตามระบบอังกฤษ เค้าจะเรียกชั้นพื้นดินว่าชั้นG หรือก็คือGround Floor จากนั้นนับขึ้นไปเป็น ชั้น1 2 3 ส่วนชั้นM คือMezzanine ให้แปลง่ายๆ ก็คือชั้นลอย แต่ส่วนใหญ่ห้างก็เอามาตั้งเป็นชั้นปกติหมดนี่แหละค่ะ(โดยเฉพาะห้างที่มีโถงตรงกลาง เพราะเรียกชั้นM ได้ไม่ผิด) สาเหตุคือไม่อยากให้ห้างดูมีหลายชั้นเพราะลูกค้ามักไม่อยากขึ้นชั้นสูงๆมันดูลำบากดูต้องใช้ความพยายามเยอะ

3. ไม่นำร้านค้าที่จำเป็นไว้ชั้นแรก

ห้างส่วนใหญ่มักจะนำซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่งเป็นตัวดูดคน เพราะคนมาใช้ซุปเปอร์กันเสมอๆ ไว้ชั้นใต้ดิน หรือไว้ชั้นพื้นดิน(ถ้าปกติอย่างเราๆ ที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า) สั้นๆคือไม่วางไว้ชั้นที่เราเข้าถึงได้ง่ายที่สุดก่อนอันนี้รวมไปถึงการไม่ค่อยมีห้องน้ำในชั้นแรกด้วย อย่างโรงหนังเอย ร้านอาหารเอยก็มักนำไปไว้ชั้นสูงๆ และลิฟต์ก็มักอยู่ด้านในๆ ของตัวห้าง ทั้งหมดก็เพื่อให้เราได้เดินดูของทั้งนั้นเลยจ้า เพราะกว่าเราจะถึงจุดหมาย เราอาจจะได้เลือกซื้อของอย่างอื่นเพิ่มเติมโดยไม่ได้ตั้งใจ

4. สลับตำแหน่งสินค้า

เวลาเราไปที่เดิมๆ เป็นประจำ เรามักจะเริ่มคุ้นเคย และจำตำแหน่งของสินค้าที่เราต้องการได้ โดยเฉพาะในซุปเปอร์ ที่นี้พอไปบ่อยๆ ต่อไป เราก็ไม่ต้องเดินวกวนอีก แต่เดินตรงดิ่งไปยังของที่เราต้องการ แล้วเดินไปจ่ายเงินได้เลย ซึ่งเป็นอะไรที่ร้านค้าไม่อยากให้เกิดขึ้นนัก เค้าอยากให้เราเดินดูของอย่างอื่นด้วย จนต้องงัดกลยุทธ์“การสลับตำแหน่งสินค้า” ออกมา นอกจากจะทำให้เรากลับมางง เดินเยอะ และของถามหาของเหมือนเดิม มันก็มีส่วนช่วยให้ร้านดูใหม่ เหมือนรีเฟรซร้าน ทำให้คนไม่เบื่อ เหมือนได้เดินร้านใหม่ไปซะงั้น

นอกจากเรื่องที่เล่ามา ยังมีเคล็ดลับอีกมากมาย ทั้งเรื่องการติดกระจกเพื่อให้คนหันไปดูร้าน การมีตะกร้ารถเข็นเพราะเราจะได้ซื้อได้เยอะๆ ไม่ต้องกลัวหนัก ทั้งหมดเป็นเทคนิคทางการตลาด ที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ แอบรู้ทันไว้ซักนิดก็มีประโยชน์ดีน้า จะได้ซื้อของได้แต่พอดี พอกลับบ้านแล้วจะได้แฮปปี้ไม่อุทานว่า“นี่ฉันเผลอหน้ามืดซื้ออะไรมาเนี๊ยะ!”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0