“Dwayne The Rock Johnson” หรือนาม“เดอะร็อค” ชื่อที่ไม่ต้องบอกเสียด้วยซ้ำเขาคือใครมาจากไหน คือถ้าเป็นประวัติย่อในโซเชียลมีเดีย ก็คงจะบรรยายประมาณว่า “You know who I am” ซึ่งแน่นอนที่เราพูดถึง อดีตซูเปอร์สตาร์นักมวยปล้ำ เพราะเขากำลังจะมีภาพยนตร์เรื่องใหม่ Red One ภาพยนตร์แอ็คชั่นตลกโปกฮา ที่เตรียมเข้าฉาย 7 พฤศจิกายน 2024 นี้ และจะชวนพวกคุณไปดูหนังของพ่อหนุ่มกล้ามโตคนนี้ที่คุณห้ามพลาดเด็ดขาด
Related articles
รวม 8 หนัง Rom-com เรื่องรักโรแมนติกคอเมดี้ ที่ทำให้ใจฟู มีเรื่องอะไรน่าดูบ้าง?
รวม 8 หนังที่ไม่ควรมีภาคต่อ เพราะภาคแรกมันดีพออยู่แล้วไงล่ะ! จะมีเรื่องอะไรบ้างนะ ?
Dwayne The Rock Johnson นักมวยปล้ำอาชีพและนักแสดงชาวอเมริกันผู้โดดเด่นทั้งสองทาง
ดเวยน์ จอห์นสัน (Dwayne Johnson) เขาเกิดวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1972 ในเมืองเฮย์เวิร์ด แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นนักมวยปล้ำอาชีพ และนักแสดงชาวอเมริกัน เพราะความที่มีเสน่ห์และความเป็นนักกีฬาบนเวทีต่าง ๆ ทำให้เขาประสบความสำเร็จในทั้งสองสาขา
และคุณไม่ต้องแปลกใจที่เขาเติบโตเป็นนักมวยปล้ำ เพราะจอห์นสันเกิดในครอบครัวมวยปล้ำ โดย ปีเตอร์ ไมเวีย (Peter Maivia) ซึ่งเป็นปู่ของเขาคือ “ตัวท็อป” แห่งวงการมวยปล้ำอาชีพในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 ต่อจากนั้น พ่อของจอห์นสัน“โซลแมน” ร็อคกี จอห์นสัน (Soulman Rocky Johnson) ทำงานในวงจรมวยปล้ำระดับภูมิภาคของอเมริกาเช่นกัน โดยในปี 1974 เขาเป็นคู่ซ้อมของจอร์จ โฟร์แมน (George Foreman) นักมวยระดับตำนาน เพื่อดวลหมัด กับ มูฮัมหมัด อาลี (Muhammad Ali) อีกหนึ่งตำนานแห่งวงการมวยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จอห์นสันโดดเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย ตั้งแต่เป็นนักกีฬาระดับมัธยมปลาย และเขาเล่นในทีมฟุตบอล NCAA Championship ปี 1991 ที่มหาวิทยาลัยไมอามี หลังจากอาการบาดเจ็บทำให้อาชีพของเขาในอเมริกันฟุตบอลลีกแคนาดาต้องมีปัญหา ทำให้เขาก็หันมาเล่นมวยปล้ำแทน
Dwayne The Rock Johnson ก้าวสู่บัลลังก์แชมป์แห่งวงการมวยปล้ำจนถึงทุกวันนี้
จอห์นสัน มีพรสวรรค์ทั้งขนาดตัว ความเร็ว และความคล่องตัว รวมถึงทักษะพูดจาโน้มน้าวคนแบบที่ไร้ที่ติ (แบบที่เราเห็นบ่อย ๆ สมัยเขาเล่นมวยปล้ำ) จอห์นสันเปิดตัวสหพันธ์มวยปล้ำโลก WWF ในปี 1996 ในชื่อร็อคกี ไมเวีย (Rocky Maivia) คุณว่าชื่อคุ้น ๆ ไหม เพราะเป็นชื่อที่ยกย่องทั้งพ่อ และปู่ของเขา หลังจากนั้นไม่นานเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหน้าเป็นตาและเป็นที่โปรดปรานของฝูงชนในวงการมวยปล้ำจากการเปิดตัวเพียงไม่กี่เดือน จอห์นสันก็คว้าแชมป์ WWF Intercontinental ได้
จอห์นสันสามารถทำให้ความนิยมเพิ่มขึ้นได้ ในปี 2002 เขาก็ยังครองใจผู้คนเวลาที่กลับมาเวทีเสมอ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นศึกใหญ่ของมวยปล้ำอย่างWrestlemania และ Royal Rumble แม้กระทั่งไปเล่นหนังเต็มตัว จนในยุคปัจจุบันที่กลับมาเป็นผู้บริหารในนาม TKO Group Holdings คอยดูและมวยปล้ำ WWE และ UFC ให้ยังดำเนินต่อไป เมื่อต้นปี 2024
เข้าสู่วงการฮอลลีวูดจากบทตัวรองจนกลายเป็น “เดอะแบก” แห่งวงการ
ด้วยเสน่ห์ที่จอห์นสันแสดงออกมาในบทพูดต่าง ๆ บนเวที WWE ทำให้ไม่แปลกใจที่มันจะส่งต่อมาที่ วงการฮอลลีวูด และการปรากฏตัวครั้งแรกของเขาใน The Mummy Returns (2001) แม้จะเป็นบทที่ออกไม่เยอะ แต่เริ่มส่งสัญญาณถึงก้าวใหม่ในอาชีพของเขา แม้ว่าจอห์นสันไม่ใช่นักมวยปล้ำอาชีพคนแรกหรือคนสุดท้ายที่มาวงการฮอลลีวูด แต่คนที่จะประสบความสำเร็จถือว่านับหัวได้เลย ต่อจากนั้นเขาก็ได้เล่นหนังต่อมาเรื่อย ๆ ทั้ง The Mummy Returns กับThe Scorpion King (2002) และ The Rundown (2003) ในปี 2004 หลังจากนั้น เขาก็ออกจากเวทีมวยปล้ำเพื่อมาวงการแสดงแบบเต็มเวลา
คุณไม่ต้องแปลกใจที่เขากลายเป็นกลายดราที่ดึงดูดให้ผู้ชมมาดูหนังของเขาในช่วงพีค ๆ ไม่ว่าจะเป็น G.I. Joe: Retaliation (2013), Pain & Gain (2013) และหนังชุด The Fast and the Furious —Fast Five (2011), Fast & Furious 6 (2013), Furious 7 (2015) และ The Fate of the Furious (2017) อีกทั้งหลายเรื่องที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกมากมาย
พูดง่าย ๆ เครดิตที่ผ่านมาของเขาทำให้ใครก็อยากร่วมงานด้วย แม้ช่วง 2-3 ปี หลัง อาจจะโดนค่อนขอดว่าการมีชื่อของเขาในหนังไม่สร้างแรงดึงดูดขนาดนั้น พูดง่าย ๆ เริ่มตกลงจากที่เคยพีคสุด ๆ แต่แฟนหนังก็ยังคงจ่ายเงินเพื่อดูเขาในโรงภาพยนตร์อยู่ดี
เพราะฉะนั้นเมื่อรับรู้ความเจ๋งของ Dwayne The Rock Johnson ขนาดนี้ เราจะพาไปดู The Best หรือหนังดีของเขาที่คุณไม่ควรพลาด
1 /8
The Rundown (2003)
ถ้า The Mummy Returns ในปี 2001 คือการเปิดเส้นทางของ เดอะร็อค ในวงการฮอลลีวูด แต่ The Rundown ทำให้เราได้เห็นฝีมือการแสดงและการรับเป็นบทนำช่วงต้น ๆ ของอาชีพเขาเลยก็ว่าได้ กับบทนักล่าค่าหัว ที่ได้รับการว่าจ้างให้ตามหา เทรวิส ที่รับบทโดย ฌอนน์ วิลเลียม สก็อตต์ (Seann William Scott) ออกตามหาสิ่งของที่สูญหายในบราซิล
โดยเราจะได้เห็นพวกเขาต้องร่วมมือกันเพื่อเอาสิ่งของนั้นกลับบ้านให้ได้ แล้วคุณจะได้เห็นแอ็คชั่น ตลกโปกฮา น่าตื่นเต้น และกลิ่นอายเต็มไปด้วยความเป็นผู้ชายของหนังเรื่องนี้
Photo Credit: Myles Aronowitz – © 2003 Universal Studios. All Rights Reserved. via IMDB
2 /8
Fast Five (2011)
มหากาพย์ภาพยนตร์ชิงปล้นลักทรัพย์แอ็คชั่นมันเต็มระห่ำสำหรับหนังตระกูล Fast & Furious ที่ภาค 5 ได้ เดอะร็อคเข้าเสริมทัพในบทบาท เจ้าหน้าที่ลุค ฮอบส์ เปิดตัวแฟรนไชส์ของเขาในฐานะตัวแทน DSS ที่ได้รับมอบหมายในการนำโดมินิก โทเร็ตโตและไบรอัน โอคอนเนอร์ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ภายใต้หนัง Fast Five มาด้วยเจ้าหน้าที่กางเกงลายพรางและรัดรูปภายใต้เกราะกันกระสุนที่ให้ความเท่ไม่น้อย แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม การดวลหมัดตัวต่อตัวของเขากับดอม โทเร็ตโต ที่มันถึงใจ แม้จะถูกแซวว่า ต้องแลกหมัดเพื่อความเท่าเทียมก็ตาม
Photo Credit: Jaimie Trueblood – © 2011 Universal Studios. ALL RIGHTS RESERVED. via IMDB
3 /8
Fast & Furious 6 (2013)
มันช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่หนังตระกูล Fast & Furious และการมี เดอะร็อค อยู่ มันทำให้หนังดูเพิ่มความมันแบบช่วยไม่ได้ เป็นภาคต่อเนื่องที่เป็นหนึ่งในภาคต่อที่ดีที่สุดของซีรีส์นี้ แม้บทของเจ้าหน้าที่ลุค ฮอบส์ จะจืดจางไปเสียหน่อย แต่การกลับมาของดเวย์น จอห์นสัน ในภาคนี้ก็ยังดูดีและเข้าพวกกับเหล่าแกงสเตอร์ Fast & Furious ได้อย่างลงตัว
Photo Credit: Giles.Keyte – © 2013 – Universal Pictures via IMDB
4 /8
Fast & Furious 7 (2015)
จอห์นสัน กลับมารับบทลุค ฮอบส์ ที่ซัดปากกับเด็คคาร์ด ชอว์ ที่นำแสดงโดย เจสัน สเตแธม (Jason Statham) จอมวายร้ายที่เข้ามาขวางทาง ยิ่งภาคนี้ได้ผู้กำกับเจมส์ วาน (James Wan) เจ้าพ่อหนังผี มันเลยให้ความรู้สึกไม่เหมือนกับภาพยนตร์ Fast & Furious เรื่องอื่น ๆ มันเข้มกว่า และท้าทายกว่า แม้ว่าภาคนี้จะต้องเผชิญกับการสูญเสียของ พอล วอล์คเกอร์ (Paul Walker) ก็ตาม
Photo Credit: Scott Garfield – © 2015 – Universal Pictures via IMDB
5 /8
The Scorpion King (2002)
การรับบท “ราชาแมงป่อง” ใน The Scorpion King เป็นภาพยนตร์ต้นกำเนิดของ The Mummy Returns ในภาพยนตร์เรื่องราวต้นกำเนิดของเขา แม้ว่าหนังจะดู จักร ๆ วงศ์ ๆ ไปหน่อย แต่ก็ทำให้ ดเวย์น จอห์นสัน เป็นมากกว่า “นักมวยปล้ำ” เริ่มต้นการเดินทางบนเส้นทางอันยาวไกลในวงการฮอลลีวูด
Photo Credit: © Universal Studios – All rights reserved via IMDB
6 /8
Jumanji: Welcome to the Jungle (2017)
ใครจะไปคิดว่าว่า Jumanji กลับมารีบูตแล้วดูดีกว่าภาคดั้งเดิมเสียด้วยซ้ำ สำหรับ Jumanji: Welcome to the Jungle ภาคต่อของเกมคลาสสิกดั้งเดิมที่นำแสดงโดย โรบิน วิลเลียมส์ (Robin Williams) โดยในภาคปี 2017 พวกเขามาเป็นร่างอวาตาร์ที่รับบทโดย ดเวย์น จอห์นสัน รับบทเป็น ดร.สโมลเดอร์ เบรฟสโตน ผู้กล้าหาญในเกม เป็นหนังที่สร้างความปั่นป่วนตลกโปกฮา เชื่อหลายคนจะหลงรักภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเหมาะกับผู้ชมทุกวัยเสียจริง ๆ
Photo Credit: Frank Masi – © 2016 CTMG. All Rights Reserved. via IMDB
7 /8
Gridiron Gang (2006)
Gridiron Gang เป็นอีกเรื่องที่สามารถพูดได้ว่า เดอะร็อค สามารถเล่นบทดราม่าได้แบบไม่อายใคร เพราะเป็นหนังไม่กี่เรื่องที่เขาเข้าบทบาทการเล่นหนังดราม่า โดยเดอะร็อค รับบทเป็นโค้ชทีมฟุตบอลที่ให้คำปรึกษาแก่เยาวชนในลอสแอนเจลิส เพื่อทำให้พวกเขาเลิกยาเสพติด
การแสดงของ ดเวยน์ จอห์นสัน ที่ชวนน่าติดตามเปรียบเสมือนพ่อพระให้กับเยาวชนในเรื่อง ซึ่งจะว่าไป จอห์นสัน ก็ไม่ได้กลับเล่นบทแนวดราม่าแบบนี้อีกเลยก็ว่าได้
Photo Credit: Gridiron Gang via IMDB
8 /8
Moana (2016)
Moana คือแอนิมชันการผจญภัยของวัยรุ่นสาวที่มีอุดมการณ์อยากช่วยพรรคพวกของเธอ จนโมอานามาพบกับ เมาวี ผู้นำทางเธอในภารกิจของเธอ ซึ่งให้เสียงโดยเดอะร็อค พวกเขาร่วมกันล่องเรือข้ามมหาสมุทรไปด้วยกัน และน่าจะเป็นไม่กี่ครั้งที่ เดอะร็อคจะมาให้เสียงในการ์ตูนแอนิเมชัน
ที่สำคัญภาค 2 กำลังจะมาในเร็ว ๆ นี้
Photo Credit: © 2016 – Walt Disney Studios Motion Pictures via IMDB
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟสไตล์คนเมือง ร้านอาหารเด็ดดัง แฟชั่นล่าสุด สุขภาพ และความงาม พร้อมกับ เรื่องราวทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ที่ Lifestyle Asia Main, Hero and Featured images:Frank Masi/Netflix © 2021 via IMDB, Karen Neal/Prime via IMDB, Black Adam via IMDB, Jaimie Trueblood - © 2014 Warner Bros. Entertainment Inc. via IMDB
References: https://www.imdb.com/list/ls021603197/ https://www.britannica.com/sports/bodybuilding https://editorial.rottentomatoes.com/guide/all-dwayne-johnson-movies-ranked-by-tomatometer/
Note : The information in this article is accurate as of the date of publication.