โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

PCE เทรดวันแรกพุ่ง 14% พร้อมทุ่มงบ 400-600 ลบ. ขยายกำลังผลิต ตั้งเป้าปี 67 รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%

Wealthy Thai

อัพเดต 02 ม.ค. เวลา 01.05 น. • เผยแพร่ 12 ก.ย 2567 เวลา 06.50 น.

PCE หรือ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ (12 ก.ย. 67) เป็นวันแรก โดยเปิดตลาดที่ราคา 2.60 บาท เพิ่มขึ้น 14.04% จากราคาไอพีโอที่ 2.28 บาท ล่าสุดปิดตลาดเช้าที่ระดับ 2.46 บาท เพิ่มขึ้น 7.89%
โดยนายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE เปิดเผยว่า ขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนใจหุ้น PCE อย่างล้นหลาม สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร ทีมผู้บริหารจะทำหน้าที่ทั้งในส่วนของการบริหารงาน เพื่อสร้างผลประกอบการให้เติบโต รวมถึงสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปเสริมศักยภาพการเติบโต โดยจะลงทุนขยายโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ เพิ่มกำลังการผลิตอีก 4-5 แสนตันต่อปี หรือราว 1 เท่าตัว จากเดิมที่มีกำลังผลิต 4-5 แสนตันต่อปี เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการจัดหาวัตถุดิบน้ำมันปาล์มดิบสำหรับนำเข้าสู่กระบวนการกลั่นต่อไป เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 400-600 ล้านบาท และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จสามารถเปิดดำเนินงานได้กลางปี 2568 ถึงต้นปี 2569
รวมถึงบริษัทจะนำเงินไปลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อใช้ในการบริโภคเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 เท่าตัวเช่นเดียวกัน จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 300 ตันต่อวัน โดยโรงงานทั้งสองแห่งเดินอัตราการใช้กำลังการผลิตไปแล้ว 80-90% ของกำลังการผลิตติดตั้ง
ตลอดจนใช้เงินระดมทุนเพื่อยกระดับประสิทธิภาพกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้น รองรับการขยายตลาดในทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและตลาดส่งออก พร้อมทั้งลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการวิจัย และพัฒนาต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และสร้างโอกาสในตลาดใหม่ๆ ในอนาคต
ส่วนแนวโน้มการเติบโตในปี 2567 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 24,722.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 310.73 ล้านบาท จากความต้องการน้ำมันปาล์มที่ขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับปริมาณผลผลิตปาล์มในประเทศที่คาดว่าจะสูงขึ้นตามพื้นที่การเพาะปลูกที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทยังมีการบริหารจัดการการดำเนินงานและต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ความสามารถในการรับรู้กำไรสูงขึ้น
นายกีรติ ไชยะกุล ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานบัญชีและการเงิน PCE กล่าวว่า นอกจากการลงทุนขยายโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนของบริษัทเองแล้ว บริษัทยังมีแผนจะเข้าซื้อกิจการหรือเข้าลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการสกัดน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มเติมด้วย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณารายหลาย เบื้องต้นบริษัทวางงบลงทุนในส่วนนี้ไว้ราว 500 ล้านบาท
“ปัจจุบันผลผลิตจากการสกัดน้ำมันปาล์มน้ำของบริษัทคิดเป็นเพียง 25% ของความต้องการทั้งหมดที่ถูกป้อนให้กับโรงงานเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 75% เป็นการรับซื้อจากข้องนอก จึงมีความต้องการอีกมาก ดังนั้นการขยายโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มนอกจากจะช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิตเข้าสู่โรงงานแล้ว ยังช่วยให้มาร์จิ้นส่วนนี้ปรับตัวดีขึ้นอีกด้วย”
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเน้นประเทศจีนและอินเดียที่มีความต้องการน้ำมันปาล์มดิบสูงเป็นหลัก โดยคาดว่าในอนาคตสัดส่วนรายได้จากการส่งออกจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 40%
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น จากการเน้นจำหน่ายสินค้าในกลุ่มที่ให้มาร์จิ้นสูงอย่างวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนประกอบของสินค้าอุปโภคและบริโภคมากขึ้น รวมถึงการใช้ระบบ AI เข้ามาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้านนายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า PCE ถือเป็นหุ้นที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจรรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีโอกาสเติบโตตามทิศทางขยายตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มทั้งจากกำลังซื้อภายในประเทศ และต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคอุปโภค กลุ่มพลังงานทดแทนที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการใช้โอเลโอเคมิคอลเพื่อเป็นส่วนประกอบในสินค้า เช่น เครื่องสำอาง สบู่ ครีมบำรุงผิว เป็นต้น ตลอดจนอุตสาหกรรมน้ำมันไบโอดีเซล ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศและเศรษฐกิจโลก
นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า มั่นใจว่า PCE จะเป็นหุ้น Growth Stock ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน ด้วยจุดเด่นในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร ที่มีความพร้อมการจัดการระบบซัพพลายเชน ที่ให้บริการลูกค้าได้แบบ One Stop Service ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี จึงทำให้เป็นผู้ประกอบการที่มีพันธมิตรทางการค้าอย่างเหนียวแน่น และการระดมทุนในครั้งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุน เพื่อนำไปใช้ขยายธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมาย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...