โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดประวัติ “พระยาราชนุกูล” มีศักดิ์เป็นพระอัยการัชกาลที่ 1 บรรพบุรุษ ‘ราชวงศ์จักรี’

Khaosod

อัพเดต 18 ธ.ค. 2566 เวลา 14.33 น. • เผยแพร่ 18 ธ.ค. 2566 เวลา 14.33 น.

เปิดประวัติ “พระยาราชนุกูล” มีศักดิ์เป็นพระอัยการัชกาลที่ 1 บรรพบุรุษ ‘ราชวงศ์จักรี’

วันที่ 18 ธ.ค.66 เดินทางมาถึงตอนจบแล้ว สำหรับละครพรหมลิขิต โดยมีละครตัวนึงที่น่าสนใจ อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยอีกด้วย นั่นคือ พระยาราชนุกูล (ทองคำ) รับบทโดย “เพ็ชร-ฐกฤต ตวันพงค์” เป็นคนสนิทของ ‘สมเด็จพระเจ้าท้ายสระ’

‘พระยาราชนุกูล’ หรือ ‘ทองคำ’ เป็น บุตรชายคนโตของ เจ้าพระยาวรวงศาธิราช (ขุนทอง) ทั้งยังมีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ๆ ของ ออกญาโกษาธิบดี (ปาน) “ทองคำ” ถวายตัวเข้ารับราชการเป็น พระนายจมื่นมหาสนิท หัวหมื่นมหาดเล็กในสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าพร กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในแผ่นดินสมเด็จพระสุรศักดิ์ (พระเจ้าเสือ)

ต่อมา พระนายจมื่นมหาสนิท (ทองคำ) อพยพครอบครัวย้ายไปทำราชการอยู่ที่บ้านสะแกกรัง แขวงเมืองอุทัยธานี ระหว่างที่พระนายจมื่นมหาสนิท (ทองคำ) รับราชการอยู่ที่แขวงเมืองอุทัยธานี ภริยาของท่านได้ให้กำเนิดบุตรชายคนโตนามว่า “ทองดี”

ครั้นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าพร กรมพระราชวังบวรสถานมงคล เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จเอกาทศรุทรอิศวร พระองค์ที่ 4 (พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ครองราชย์ พ.ศ. 2251-75)

ด้วยเหตุที่ พระนายจมื่นมหาสนิท (ทองคำ) เป็นเจ้าราชนิกุลและข้าหลวงเดิม จึงโปรดให้แต่งตั้งเป็นพระยาราชนิกูล ปลัดทูลฉลองในกรมมหาดไทย พระยาราชนิกูล (ทองคำ) จึงอพยพย้ายครอบครัวกลับมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ตำบลป่าตองใกล้กับวัดบรมพุทธาวาศน์ (วัดกระเบื้องเคลือบ) อันเป็นนิวาสสถานเดิมของสมเด็จพระรามาธิบดี พระองค์ที่ 7 (ออกพระเพทราชา)

เมื่อท่าน ‘ทองดี’ มีอายุสมควรแก่การเข้ารับราชการแล้ว พระยาราชนิกูล (ทองคำ) นำบุตรชายเข้าถวายตัวให้รับราชการในแผ่นดินพระบาทสมเด็จเอกาทศรุทรอิศวร พระองค์ที่ 5 สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงในพระบรมโกศ (เจ้าฟ้าเพชร ครองราชย์ พ.ศ. 2275-2301) โดยให้มาช่วยเหลืองานของตนอยู่ที่กรมมหาดไทย ภายหลังท่าน ‘ทองดี’ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ‘หลวงพินิจอักษร’ เสมียนตราในกรมมหาดไทย เมื่อ หลวงพินิจอักษร (ทองดี) อายุครบ 20 ปี พระยาราชนิกูล (ทองคำ) จึงทำการอุปสมบทหลวงพินิจอักษร (ทองดี) บุตรชายเป็นพระภิกษุตามประเพณีนิยม

เมื่อลาสิกขาแล้ว พระยาราชนิกูล (ทองคำ) ได้สู่ขอ “คุณดาวเรือง” หลานสาวของเจ้าพระยาอภัยราชา อัครมหาเสนาบดีสมุหนายก ให้วิวาหมงคลกับหลวงพินิจอักษร (ทองดี) แล้วท่านทั้งสองก็ย้ายมาอยู่ยังนิวาสสถานของตระกูลคุณดาวเรือง ภายในกำแพงพระนครเหนือป้อมเพชร

อยู่มา หลวงพินิจอักษร (ทองดี) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอักษรสุนทรสาสน์ เจ้ากรมเสมียนตราในกรมมหาดไทย มีหน้าที่ร่างพระราชสาสน์ต่าง ๆ ของพระเจ้าแผ่นดิน และออกสารตราสั่งการไปยังหัวเมืองเหนือ รวมถึงเก็บรักษาพระราชลัญจกรอันเป็นตราประจำแผ่นดิน

ก่อนหน้ากรุงพระมหานครศรีอยุธยาจะเสียให้แก่กองทัพพม่าใน พ.ศ. 2310 เพียงไม่นาน พระอักษรสุนทรสาสน์ (ทองดี) ได้อพยพหนีภัยสงครามขึ้นไปรับราชการอยู่กับ เจ้าพระยาพิษณุโลก (เรือง) ซึ่งตั้งตนเป็นเจ้าก๊กพิษณุโลก โดย พระอักษรสุนทร (ทองดี) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าพระยาจักรี อัครมหาเสนาบดีสมุหนายกเมืองพิษณุโลก

ต่อมา พ.ศ. 2311 เจ้าพิษณุโลก (เรือง) ทำสงครามมีชัยชนะเหนือพระบาทสมเด็จพระเอกาทศรุทรอิศวร พระองค์ที่ 6 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (พระเจ้าตากสิน ครองราชย์ พ.ศ. 2310-25) ก็มีใจกำเริบ จึงประกาศตั้งตัวเป็นพระเจ้าแผ่นดินรับราชโองการอยู่ได้ 7 วัน ก็ประชวรเป็นวัณโรคขึ้นในคอถึงแก่พิราลัย

ส่วน เจ้าพระยาจักรี (ทองดี) ซึ่งมิได้มีความมักใหญ่ใฝ่สูง ได้แอบอาศัยอยู่ ณ เมืองพิษณุโลก จนกระทั่งเมืองพิษณุโลกเสียให้แก่เจ้าพระฝาง (เรือน) เจ้าก๊กเมืองสวางคบุรี ต่อมาไม่นาน เจ้าพระยาจักรี (ทองดี) ก็ล้มป่วยด้วยพิษไข้จนถึงแก่อสัญกรรมในเมืองพิษณุโลกนั้นเอง

เจ้าพระยาจักรี (ทองดี) ผู้นี้ คือ “สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก” หรือ “สมเด็จพระชนกาธิบดี” ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จักรี

ที่มา : ศิลปวัฒนธรรม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...