เรื่องราวสุดเหลือเชื่อ และสุดระทึกครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในรัฐเทนเนสซี สหรัฐ เมื่อครอบครัวหนึ่งต้องเผชิญกับพายุทอร์นาโดรุนแรงแบบไม่ทันตั้งตัว
บีบีซี รายงานว่า รถบ้านของครอบครัว ซิดนีย์ มัวร์ คุณแม่ลูกสอง ถูกแรงลมของทอร์นาโดฉีกออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมกับได้หอบแปลนอน ที่มีลูกคนเล็กวัย 4 เดือนของพวกเขาไปด้วย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
มัวร์ เล่าว่า ส่วนปลายสุดของทอร์นาโดเคลื่อนลงมาแล้วก็ยกเปลที่มี ลอร์ด (ลูกชายของเธอ) ขึ้นไป เขาคือสิ่งแรกที่ถูดดูดลอยขึ้นไป ส่วนพ่อของเด็ก ก็พยายามกระโดดพุ่งตัวไปเพื่อช่วยเหลือลูกชายที่อยู่ในแปล แต่เขาก็ถูกทอร์นาโดพัดไปด้วย
"เขาพยายามยึดเปลของลูกไว้ แต่เมื่อถูกเหวี่ยงเป็นวงกลม พวกเขาก็ถูกพัดไปคนละทิศคนละทาง"
ขณะเกิดเหตุ เธอคว้าได้เพียง ปรินซ์ตัน ลูกชายวัย 1 ขวบเท่านั้น
"สัญชาตญาณของฉันบอกว่า จะต้องวิ่งไปแล้วตะครุบขึ้นคร่อมลูกชายไว้ จริง ๆ แล้วพอฉันคว้าตัวลูกไว้ได้ กำแพงก็พังถล่มลงมา" เธอย้อนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและบอกว่า ตอนนั้นเธอถูกทับ หายใจก็ไม่ออก
หลังจากที่ทอร์นาโดผ่านพ้นไป เธอจึงสามารถออกมาจากซากปรักหักพังพร้อมกับลูกชาย แล้วเธอ และแฟนหนุ่มก็เริ่มการค้นหาลูกชายคนเล็กทันที ท่ามกลางฝนที่ตก ลงมา ก่อนที่จะพบลูกชายคนเล็กที่ยังมีชีวิตอยู่ ในสถานที่ที่ดูคล้าย "เปลที่ทำจากต้นไม้เล็ก ๆ"
"ฉันคิดว่าเขาตายแล้ว ฉันค่อยข้างมั่นใจว่าเขาต้องตาย และไม่คิดว่าจะหาเขาเจอด้วย แต่ว่าเขายังอยู่ตรงนี้ นี่คือ ความกรุณาของพระเจ้า"
แม้ว่าจะประสบกับเหตุการณ์เฉียดตายจากทอร์นาโดขนาดรุนแรงระดับ EF-3 (ตามมาตราฟุจิตะ มีความเร็วลม 254-332 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ครั้งนี้ แต่ทั้งครอบครัวได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มีบาดแผลเล็กน้อย และรอยฟกช้ำ มีเพียงพ่อของเด็กที่แขนหัก และได้รับบาดเจ็บที่ไหล่
น้องสาวของแม่เด็กที่รอดชีวิตมาอย่างปาฏิหารย์ ตัดสินใจโพสต์ขอระดมทุนผ่านแพลตฟอร์ม GoFundMe เพื่อช่วยเหลือครอบครัวพวกเขา หลังจากที่ทอร์นาโดพัดถล่มบ้านและรถยนต์ของพวกเขาจนพังเสียหาย
ข้อความในโพสต์ที่ปรากฏบน GoFundMe ได้ระบุถึงเหตุการณ์รอดชีวิตของหนูน้อยลอร์ดว่า"ดูเหมือนว่าเขาจะถูกวางลงบนต้นไม้อย่างนุ่มนวล ราวกับว่า เทพธิดานำทางเขาไปยังจุดที่ปลอดภัย"
อ่านข่าวเพิ่มเติม