โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

เรื่องสั้น

หลี่เจียอีอัจฉริยะหน้าสวยใจโหด[จบแล้วมี E-BOOK]

นิยาย Dek-D

อัพเดต 14 ต.ค. 2566 เวลา 11.40 น. • เผยแพร่ 14 ต.ค. 2566 เวลา 11.40 น. • โชคธันวา
เธอคือยอดอัจฉริยะหมายเลข 1 ผู้โหดเหี้ยมและไร้ใจถูกเพื่อนในองค์กรอิจฉาริษยาวางแผนฆ่าตายพอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งกลับพบว่าตนนั้นเป็นเพียงทารกน้อยวัยแรกเกิดที่กำลังจะถูกสับเปลี่ยนตัวกับเด็กทารกอีกคน หึ!…

ข้อมูลเบื้องต้น

สำหรับ สาย E-book นะคะ.

จบแล้วคะ♥️♥️♥️

http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiOTAxMzY3NyI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjI0Mjk2MDt9

♥️♥️จากใจนักเขียน♥️♥️

นิยายเรื่องนี้สร้างจากจินตนาการของผู้เขียนล้วนๆ โดยมิได้อ้างอิงหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์หรือประวัติศาสตร์ของที่ใดๆอาจมีการใช้คำราชาศัพท์หรือตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์ที่ใกล้เคียงความเป็นจริงบ้างเพื่ออรรถรสในการอ่าน

หากมีข้อผิดพลาดประการใดผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย ขอบคุณค่ะ

ลงชื่อ

โชคธันวา

© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ 2537และ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ 2558

ห้ามมิให้คัดลอก ดัดแปลง หรือเผยแพร่เนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของงานเขียนนี้รวมถึงการจัดเก็บถ่ายทอดสแกนบันทึกถ่ายภาพไม่ว่าในรูปแบบหรือวิธีการใดๆในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

หอบดวงจิตข้ามภพ

ในคริสต์ศตวรรษที่ 23 การพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวล้ำเป็นอย่างมากมีระบบปัญญาประดิษฐ์ AI ซึ่งสร้างเลียนแบบมาจากเครือข่ายเซลล์ประสาทในสมองของมนุษย์ทำงานร่วมกันในทุกสาขาอาชีพ มนุษย์มีอายุที่ยืนยาวขึ้น สืบเนื่องมาจากการวิจัยและวิทยาการใหม่ๆในการตัดต่อพันธุกรรม เช่น บำบัดฟื้นฟูเซลล์เพื่อคืนความหนุ่มสาว ปลูกถ่ายอวัยวะเทียมสำเร็จเสมือนจริง เป็นต้น

การปฏิบัติการขององค์กรลับแห่งหนึ่งซึ่งไม่ขึ้นตรงกับประเทศใด หญิงสาวอายุราว 20 ต้นๆหน้าตาสวยสดงดงาม ประหนึ่งนางฟ้านางสวรรค์แต่ความจริงแล้วเธอผู้นี้มีอายุมากถึง120ปี กำลังยืนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ 3 มิติขนาดใหญ่ ในที่สุดเธอก็สามารถเชื่อมต่อระบบทำฟาร์มขุดเหมืองสร้างอาวุธเข้าในร่างกายได้สำเร็จ

ฮ่า ฮ่า ฮ่า…

ก๊อกๆๆ… เสียงเคาะประตูดังขึ้น

หมายเลข1: " ใคร? " เธอรีบทำการออกจากระบบทันที

เสียงหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ย: "หมายเลข2"

หมายเลข1: "เข้ามาได้ "

"ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด!" เสียงกดรหัสผ่านเข้ามาในห้องดังขึ้นหญิงสาวหมายเลข2 กวาดตาสำรวจมองไปรอบๆห้องปฏิบัติการของหมายเลข 1 ทันที

หมายเลข2: "นี่เธอยังไม่สามารถสร้างระบบมิติที่ศาสตราจารย์จอนนี่มอบหมายให้สำเร็จอีกหรือ"

หมายเลข 1 หันหน้าไปจ้อง หมายเลข 2 กล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน : "หากเธอคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นทำไมไม่มาทำเองเสียเลยล่ะ?…อีกอย่างศาสตราจารย์จอนนี่ที่พยายามศึกษาทดลองมาโดยตลอดมากถึง 500 กว่าปีก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำได้ฉันที่เป็นแค่ลูกศิษย์จะไปมีความรู้ความสามารถมากกว่าอาจารย์ได้อย่างไรเธอว่าถูกหรือไม่ "

หมายเลข2 : "จะเป็นเช่นนั้นได้ยังไงเธอได้รับการผสมเทียมตัดต่อพันธุกรรมระหว่างยอดอัจฉริยะกับยอดอัจฉริยะของโลกที่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นเป็นผลงานที่อาจารย์และทุกคนในองค์กรภูมิใจมากที่สุดจะเอาความรู้ความสามารถของทุกคนไปเปรียบเทียบกับเธอได้อย่างไร"

ใช่แล้วเธอ หมายเลข 1 คือคนที่องค์กรร่วมมือกันตัดต่อเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมให้มีชีวิตจริงๆขึ้นมาได้เป็นคนแรกและคนเดียวในโลก โดยการนำน้ำเชื้ออสุจิของยอดอัจฉริยะที่เหลือเพียงตัวเดียวในโลกมาผสมเทียมกับยอดอัจฉริยะและปรับแต่งเซลล์ต่างๆในร่างกายอีกมากจนถือกำเนิดเป็น หมายเลข 1 ยอดอัจฉริยะเหลือยอดอัจฉริยะ

นางเกิดมาได้เพียง 5 ปี ก็แอบปรับแต่งปลูกถ่ายดวงตาของตัวเอง โดยการเลียนแบบการมองเห็นของตาแมวที่สามารถมองเห็นกลางคืนได้เสมือนกลางวัน พ่วงมาด้วยการมองเห็นที่เหมือนการ ซูมของกล้องส่องทางไกลระยะทางมากถึง 10 กิโลเมตร

หมายเลข2 : "หมายเลข 1 วันนี้ตอนกลางคืนองค์กรได้มอบหมายให้พวกเราไปฆ่ากวาดล้างองค์กร M เพื่อทำลายคู่แข่งทางธุรกิจ ให้สิ้นซากเตรียมตัวด้วยล่ะ "

อืม!…เธอเกิดมาเพื่อเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ให้กับองค์กรนี้จริงๆเบื้องหน้าเปิดเป็นองค์กรพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่โด่งดังและมีชื่อเสียง แต่เบื้องหลังกลับกลายเป็นองค์กรนักฆ่ามือหนึ่งของโลกซะงั้น

"เธออยากหลุดพ้นจริงๆ ควรทำอย่างไรดีนะ…"

กลางดึกสงัด หนึ่งในองค์กรที่มีชื่อเสียงติดอันดับ 2 ของโลกซึ่งเป็นคู่แข่งกับองค์กรของหมายเลข 1 ถูกฆ่ากวาดล้างไม่มีใครเหลือรอดแม้แต่คนเดียว

เธอหันไปกะจะบอกให้ หมายเลข 2 กลับได้แต่แล้ว

ตูม!…

ทุกอย่างพลันมืดสนิทไป…

หมายเลข2 : " ขอโทษนะหมายเลข 1 จะโทษก็โทษที่เธอโดดเด่นจนเกินไปมันทำให้ฉันรู้สึกอิจฉา ริษยา แทบคลั่ง "

หมายเลข 2 ยกยิ้มยังเบิกบานใจท่ามกลางกองระเบิดนั้น

ในวัดผิงอาน อันห่างไกลจากเมืองหลวง 60 ลี้ หรือประมาณ 30 กิโลเมตร

"ฮูหยินอดทนเบ่งแรงๆอีกนิดนะเจ้าคะ…หัวใกล้ออกมาแล้วเจ้าค่ะ…"

"แม่นมมู่!…ข้าจะไม่ไหวแล้ว"

"ไม่ได้นะเจ้าคะ…อดทนเบ่งแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวก็คลอดออกมาแล้วเจ้าค่ะ…บ่าวขอร้อง…"

กรี๊ดดด!…

ฮูหยินวัย 16 ปี สองมือขยุ้มผ้าไว้แน่นฝืนกัดปากออกแรงเบ่งอีกครั้ง

"อุแว้! อุแว้! …"

แม่นมมู่: " คลอดแล้วเจ้าค่ะฮูหยินเป็นเด็กผู้หญิง "

ฮูหยินที่เพิ่งคลอดลูกได้สำเร็จ พอได้ยินดังนั้นก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน เหลือบมองเด็กทารกน้อยที่หน้าตาน่าเกลียดน่าชังเอ่ยปากพึมพำกับตัวเอง

" ต่อไปเจ๋อเอ๋อร์ ก็คงจะชอบน้องสาวอย่างเจ้า มากกว่าข้าผู้เป็นแม่คนนี้เสียแล้วล่ะ…"

จากนั้นนางก็สลบไป…

แม่นมมู่รีบเข้าไปปรนนิบัติดูแลทันที ออกมาสักการะพระพุทธองค์ที่วัดผิงอาน ในครั้งนี้ไม่ได้นำบ่าวมามาก แม่นมหมู่จึงต้องเหนื่อยเป็นพิเศษ เพราะคาดไม่ถึงว่าฮูหยินของตนจะคลอดก่อนกำหนด

ทารกน้อย: " เอ๋?…ที่นี่ที่ไหนแล้ว หมายเลข 2 ล่ะ "

พอคิดถึงหมายเลข 2 ขึ้นมาแววตาก็มีแววเย็นชาขึ้นมาทันที

“มันอยู่ที่ไหน”

เธอกำลังจะลุกขึ้นแต่ เอ๊ะ!…

" ทำไมลุกไม่ได้แล้วล่ะ "

สายตาพลันเหลือบไปมองเห็นสองมือของตนถึงกับตกใจจนปากอ้าตาค้าง

" นะ…นี่ มันเกิดอะไรขึ้น?…หรือองค์กรปรับแต่งตัดต่อพันธุกรรมบางอย่างกับเธออีกแล้ว?

ไม่สิ!… ครั้งล่าสุดจำได้ว่าฉันโดนระเบิดจนร่างแตกกระจุยจาก

ฝีมือหมายเลข 2 ไปแล้วนี่ "

ติ๊ง!ติ๊ง!…คุณได้ทำการเปิดระบบมิติสำเร็จ

จู่ๆ เสียงนี้ก็ดังขึ้นมาในหัวของ หมายเลข 1 โดยอัตโนมัติ เธอรีบหลับตาแล้วหายเข้าไปในมิตินั้นทันที

โอ้พระเจ้า! เธอถึงกับเปล่งเสียงอุทานออกมา

" ฉันนี่มันสุดยอด จริงๆ ฮ่าๆๆ ในที่สุดก็สร้างระบบมิติ ทำฟาร์ม, ขุดเหมือง, สร้างอาวุธ ขึ้นมาได้สำเร็จแล้ว แม้แต่ศาสตราจารย์จอนนี่ที่เก่งที่สุดในองค์กรอันดับ 1 ของโลก ก็ไม่สามารถทำได้"

ตอนนี้เธอไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลยจึงได้แต่ใช้สายตาสำรวจมองไปรอบๆทุกอย่างในนี้ช่างสมบูรณ์แบบมากตรงกลางมีคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ดูหรูหราสวยงามมากๆ อยู่ 1 หลัง

"แจ้งเตือนจากระบบ!…คุณต้องทำการปลูกผักเลี้ยงสัตว์เพื่อเพิ่มเลเวลอัพเกรดระบบหรือไม่"

เธอรีบใช้จิตใต้สำนึกเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ 3 มิติในคฤหาสน์ทันที

ติ๊ง!

"คุณได้ยืนยันการซื้อผัก,เมล็ดข้าว,ข้าวโพด สำเร็จ"

ติ๊ง!

"คุณได้ยืนยันการซื้อหมู 5 ตัว ,ไก่ 5 ตัว,วัว 5 ตัว สำเร็จ "

ติ๊ง!

"ยอดเงินตอนนี้คงเหลือ 100,000 เหรียญทอง คุณต้องการซื้อเครื่องผลิตขนมปังหรือไม่"

เธอกด "ยอมรับ"

ติ๊ง!

"คุณต้องการอัพเกรดโรงเก็บเกี่ยวผลผลิตหรือไม่" กดยอมรับ

ติ๊ง!

"ต้องการซื้อโรงงานเครื่องรีดนมวัวหรือไม่" กดยอมรับ

ติ๊ง!

"ยอดเงินในระบบของคุณหมดแล้ว หากต้องการเติมเงินเข้าระบบเพียงนำสินค้าที่ผลิตได้ไปขายข้างนอกมิติ แล้วนำเงินเหล่านั้นมาแลกเป็นเหรียญทองเข้ามิติได้"

ติ๊ง!!!… "แจ้งเตือนจากระบบ ข้างนอกมีคนกำลังเดินเข้ามาใกล้"

เธอรีบออกจากมิติในร่างกายทันที

หมายเลข1: " เอ๋?…คนนี้เป็นใครกันนะ "

แม่นมมู่: " คุณหนูน้อยบ่าวจะล้างตัวให้นะเจ้าคะ "

หมายเลข1: "เธอเป็นใคร"

แม่นมมู่: " ฮ่าๆๆ คุณหนูน้อยช่างน่ารักน่าชังยิ่งนักไม่ร้องไห้เลยสักนิด นอกจากตอนคลอดออกมาแรกๆส่งเสียงพูดอ้อแอ้ๆไม่หยุดบ่าวใจละลายหมดแล้วเจ้าค่ะ จะว่าไปแล้วเด็กทารกแรกเกิด เหตุใดถึงสามารถพูดและส่งเสียงโต้ตอบได้เล่า หรือว่าคุณหนูน้อยจะเป็นผู้มีบุญมาเกิด ต้องใช้แน่ๆ"

แม่นมมู่คิดไปแล้วก็สุขใจยิ่งนัก

ผู้หญิงตรงหน้านี้อาบน้ำให้เธออย่างอ่อนโยน

หมายเลข1: " สบายจัง "

จากนั้นก็หลับไป

เธอไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!: " รับแจ้งเตือนภัยจากระบบมิติ มีผู้ประสงค์ร้ายกำลังทำการสับเปลี่ยนตัวเด็กทารกคนอื่นกับเจ้านายของระบบมิติ "

หมายเลข 1 ลืมตาที่เหมือนแมวคู่นั้นขึ้นมาอย่างกะทันหันางซื่อ ที่กำลังยื่นมือออกไปหวังจะอุ้มนางอยู่นั้น ถึงกับมีสีหน้าตกตะลึงและหวาดกลัว พอตั้งสติได้ก็รีบอุ้มทารกน้อยมาปิดปากไว้ ทำการสับเปลี่ยนเสื้อผ้าของทารกทั้งสองอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งหนีจากไปทันที

หมายเลข 1 รีบทำการติดต่อกับระบบมิติภายในใจทันที

" เกิดอะไรขึ้น!…หรือว่าคนในองค์กรต้องการทดลองบางสิ่งกับฉันอีกแล้ว"

ระบบมิติ: " ในโลกใบนี้ไม่มีองค์กรที่คุณกล่าวถึง คุณเพิ่งจะมาถึงที่นี่ จึงยังไม่ทราบว่าที่นี่คือ โลกมิติคู่ขนาน ที่ไม่เคยปรากฏในหน้าหนังสือประวัติศาสตร์ใดๆมาก่อนและเนื่องจากคุณคือเจ้านายของระบบมิตินี้ ระบบจึงได้ล่วงรู้ความคิดจากจิตใต้สำนึกของคุณว่าสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดในชีวิตคือ ความรักและความอบอุ่นจากคนในครอบครัวในตอนที่คุณถูกระเบิดจนร่างกระจุย ระบบพยายามรักษาดวงจิตและส่งคุณมายังที่นี่เพื่อเติมเต็มความปรารถนาในจิตใต้สำนึกของคุณ"

หมายเลข 1 รู้สึกทึ่งและตกตะลึงไปชั่วขณะ : "คุณหมายความว่าตอนนี้ฉันได้เกิดใหม่แล้วและมีครอบครัวที่รักฉันจริงๆน่ะหรือ"

ระบบมิติ: "ใช่ "

ถูกสับเปลี่ยนตัว

คำว่า "ใช่" ของระบบมิติ ทำให้เธอถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลออกมาเธอจำได้ว่าตั้งแต่ลืมตาดูโลก จนอายุ 120 ปี ชีวิตก็เป็นเหมือนเครื่องมือที่องค์กรใช้แสวงหาผลประโยชน์เท่านั้น เวลาเธอออกไปปฏิบัติภารกิจข้างนอกก็แอบแวะเที่ยวข้างนอกบ้าง วันหนึ่งบังเอิญเจอเด็กผู้หญิงอายุราวๆ 10 ปี ยืนรอใครบางคนมารับหลังจากเลิกเรียน เธอไม่เข้าใจว่าเหตุใดเด็กผู้หญิงคนนี้ถึงไม่เดิน หรือ นั่งแท็กซี่กลับเองด้วยความสงสัยเลยเดินเข้าไปถามคำตอบของเด็กคนนั้นคำตอบที่ได้ ทำให้เธอถึงกับช็อก

เด็กคนนั้นตอบกลับเธอว่า: " ปกติคุณพ่อและคุณแม่ก็ต้องมารับลูกๆของตัวเองหลังเลิกเรียนอยู่แล้ว พวกเขาเป็นห่วงกลัวว่าจะเจอคนไม่ดี อีกอย่างพวกท่านก็ยังบอกอีกว่าหนูยังเป็นเด็กอายุแค่ 10 ขวบเองนะ ต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง "

เอ๋?

"พ่อกับแม่ของพี่สาวไม่เคยมารับกลับบ้านตอนที่พี่ยังเป็นเด็กหรือคะ"

หมายเลข 1 เซถอยหลังไป 2-3 ก้าว เด็กน้อยรีบวิ่งเข้าไปช่วยประคองเธอไว้ทันที

เธอจึงถามเด็กน้อยว่า: " อะไรคือพ่อแม่หรือ "

ทีแรกเด็กน้อยคนนั้นก็งงๆ แต่ยังคงฝืนอดทนอธิบายทุกอย่างให้เธอฟัง หมายเลข1 จึงได้รู้ว่าความรักจากคนในครอบครัวและสิ่งที่เรียกว่า พ่อแม่ นั้นเป็นสิ่งที่เธอโหยหามาทั้งชีวิต

จางซื่อ กลัวว่าเสียงร้องไห้ของเด็กทารกคนนี้ จะทำให้ผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้รับรู้ได้ จึงเอาผ้าอุดปากนางไว้

หมายเลข 1 โดนการกระทำของจางซื่อปลุกให้ตื่นจากภวังค์แห่งความคิด นางหรี่ตาแคบลงแฝงด้วยความเย็นชา

"หญิงชั่วคนนี้หากเป็นเธอในศตวรรษที่ 23 ล่ะก็…เธอจะทำการเชือดปาดคอทันที…"

แต่ตอนนี้แม้แต่แรงจะขยับตัวก็ยังไม่มีเลย

ในรถม้าหรูหราคันหนึ่ง ที่กำลังวิ่งหน้าตรงอย่างรวดเร็วเข้าสู่เมืองหลวง ฮูหยินสาววัย 16 ปี รูปโฉมงดงามจนสะท้านฟ้าสะเทือนแผ่นดินเอ่ยออกมาอย่างอ่อนแรง

"แม่นมมู่ ข้าต้องการอุ้มบุตรสาว"

แม่นมมู่ มองไปที่คุณหนูของตนก็พลันให้ปวดใจสภาพนางในตอนนี้ดูอ่อนแอและย่ำแย่ยิ่งนัก

"ฮูหยินอีกแค่ 1 เค่อ (หรือประมาณ 15 นาที) ก็ถึงเมืองหลวงแล้ว ไว้ตอนนั้นบ่าวจะนำคุณหนูน้อยมาไว้ที่ข้างกายฮูหยินตลอดเวลาเลยเจ้าค่ะ…อดทนอีกนิดนะเจ้าคะ"

หวังซื่อ: " ไม่ข้าอยากเห็นหน้าลูก "

หวังฟางหรูหรือหวังซื่อเอ่ยออกมาอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ แม่นมมู่เห็นดังนั้นเลยสั่งให้บ่าวหยุดรถม้าและวิ่งไปอุ้มทารกน้อยที่เอาแต่ร้องไห้ งอแง มาตลอดทาง แม่นมมู่กลัวว่าจะเป็นการรบกวนการพักผ่อนของฮูหยินที่อ่อนเพลียเลยจ้างแม่นมอีกคนให้นั่งรถม้าอีกคันเพื่อดูแลคุณหนูน้อยแทน

แม่นมมู่: " มาแล้วเจ้าค่ะ "

แม่นมมู่ยื่นทารกให้ฮูหยินอุ้ม

หวังซื่อ รับทารกน้อยมาด้วยความอ่อนโยนพอกวาดตามองเห็นใบหน้าของทารกน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนชัดๆแล้วรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าก็พลันหายไปในชั่วพริบตา

สัญชาตญาณของคนเป็นแม่นั้นแม่นยำเสมอ นี่ไม่ใช่ลูกของนาง!!!

ก่อนที่นางจะเป็นลมสลบไปหลังคลอด นางได้เห็นหน้าลูกน้อยของตนแล้วทั้งน่ารักน่าชัง ผิวขาวราวกับกระเบื้องเคลือบเงาแถมยังมีใบหน้าที่ละหม้ายคล้ายคลึงนางเป็นอย่างมาก

แม่นมมู่ สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติจากการขมวดคิ้วบนใบหน้าของ ฮูหยิน ก็พลันเอะใจขึ้นมา

แม่นมมู่: "เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูน้อยหรือเจ้าคะฮูหยิน"

หวังซื่อเอ่ยอย่างเย็นชา: "เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของข้า"

แม่นมมู่ ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก รีบเอามือยกขึ้นมาปิดปาก นางจำได้ตอนที่อาบน้ำให้คุณหนูน้อย คุณหนูน้อยไม่ได้มีหน้าตาเช่นนี้

ใครกันที่บังอาจสับเปลี่ยนลักพาตัวของคุณหนูน้อยไป!

หวังซื่อ: "กลับรถเดี๋ยวนี้"

เสียงร้องตวาดของหวังซื่อดังสนั่น

ฮี้……!!!

เสียงม้าที่ถูกหยุดกะทันหัน 2 กีบเท้าหน้ายกขึ้นชี้ฟ้า จนฝุ่นตลบ

แม่นมมู่ รีบคุกเข่าโขกศีรษะยอมรับความผิดแต่หวังซื่อนางไม่มีเวลามาสนใจ ตอนนี้นางรู้สึกกังวลเกี่ยวกับลูกสาวที่แท้จริงของตนเป็นอย่างมาก

แม่นมมู่: " ฮูหยินเจ้าคะ อีกนิดเดียวก็ถึงจวนแล้ว พวกเรารีบกลับไปรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับนายท่านทราบก่อน จะได้ช่วยตามหาคุณหนูน้อยให้พบเร็วขึ้นเจ้าค่ะ"

หวังซื่อ เห็นด้วยกับความคิดของแม่นมมู่แต่เรื่องนี้จะให้สามีของนางรับรู้ไม่ได้โดยเด็ดขาดหากเขารู้ นายท่านผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่าก็ต้องรับรู้ด้วยเช่นกัน จะไม่เป็นผลดีต่อลูกสาวที่เพิ่งคลอดของนาง

เพราะฮูหยินผู้เฒ่าเอาแต่เข้าข้างลำเอียงไปทางติงอี๋เหนียงอยู่ฝ่ายเดียวตระกูลหวังทางฝั่งบิดามารดาของนางนั้น เป็นไม้เบื่อไม้เมากับตระกูลติงมาโดยตลอด นางต้องการส่งคนของตัวเองเท่านั้นเพื่อไปตามหาบุตรสาว

หวังซื่อ : " โถ่…..บุตรสาวที่น่าสงสารของข้า"

ฮือ ฮือ ฮือ…

นางเอามือทั้งสองยกขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้อย่างโศกเศร้า

ณ หมู่บ้านชนบท อันห่างไกลจากเมืองหลวงจางซื่ออุ้มเด็กทารกที่หออยู่ในผ้าเก่าๆ เข้าไปในเรือนตระกูลไป๋เอ่ยปากเรียก

"ท่านพ่อ ท่านแม่"

สองผู้เฒ่าหันมาจ้องมองนางจางซื่อสังเกตเห็นห่อผ้าที่อุ้มอยู่ในมือของนางดวงตาก็พลันเบิกกว้าง

นี่เจ้าคลอดลูกแล้วหรือ?

จางซื่อพยักหน้ารัวๆ เป็นการตอบรับ สองผู้เฒ่าดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินเช่นนั้นเพราะพวกเขามีลูกชายเพียงคนเดียว ก็คือไป๋ป๋อเหวิน สามีของจางซื่อ

จางซื่อแต่งเข้าตระกูลไป๋มาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่ตั้งท้องสักทีจนอายุเกือบ 20 ปี ถึงได้ตั้งท้องและคลอดลูกออกมาในระหว่างการเดินทางไปสักการะขอพรพระพุทธองค์ที่วัดผิงอานใกล้ๆหมู่บ้านนี้

สองผู้เฒ่า รีบวิ่งไปดูทารกน้อยที่เพิ่งคลอดอย่างรวดเร็วปากก็เอ่ยถาม

เพศชายหรือเพศหญิง?

จางซื่อเม้มปากแน่นเอ่ย: "เป็นเด็กผู้หญิงเจ้าค่ะ"

สองผู้เฒ่าที่เพิ่งจะดีอกดีใจเมื่อสักครู่พลันชะงักค้าง หุบยิ้มลงทันที มือที่เอื้อมไปจะถึงตัวเด็กอยู่แล้ว ก็หดกลับมา

เหตุใดถึงไม่เป็นผู้ชายเล่า?

ฮูหยินผู้เฒ่า: " ฮือๆๆ…ไปๆ ไสหัวกลับไปที่ห้องของเจ้าเสีย อย่ามาอยู่ให้เกะกะขวางลูกหูลูกตาข้า…"

ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยปากไล่ลูกสะใภ้อย่างไร้ซึ่งความปราณี

จางซื่อก้มหน้าลงต่ำพลางคิดในใจว่าตนคิดถูกแล้วที่สลับสับเปลี่ยนตัวบุตรสาวของตนกลับบุตรสาวของฮูหยินน้อยที่ร่ำรวยผู้นั้นซึ่งดูก็รู้ว่าเป็นลูกผู้ดีมีชาติตระกูล หากบุตรสาวของนางได้เข้าไปอยู่ในตระกูลดีๆเช่นนี้แล้วล่ะก็….ชีวิตต้องสุขสบายเป็นแน่

นางเหลือบมองทารกน้อยที่แสนจะน่ารักน่าชังในอ้อมอกของตน แววตาก็พลันปรากฏความ อิจฉา ริษยา ขึ้นมา

"เหตุใดคนเราถึงเกิดมาแล้วมีฐานะต่างกันได้มากขนาดนี้ เห็นแก่ที่เจ้าใจกว้างยอมถอยให้กับลูกสาวของข้า งั้นก็ชื่อ"เจียอี"ก็แล้วกัน"

หมายเลข 1 ถลึงตาแมวอันร้ายกาจใส่นางจางซื่ออย่างโกรธแค้น

หมายเลย1:"ใครยอมถอยให้กับลูกสาวของเธอกัน รอให้ฉันโตกว่านี้อีกนิดสามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้แล้ว ฉันจะแก้แค้นให้สาสมกับที่เธอทำในวันนี้อย่างแน่นอน"

จางซื่อต้องการที่จะป้อนนมให้กับนางแต่เด็กทารกน้อยเอาแต่หันหน้าหนีไม่ยอมอ้าปากดื่มแถมยังใช้สายตาอาฆาตแค้นจ้องมองมาทางนาง

จางซื่อ: " ไม่กินก็อย่ากินทางที่ดีอดให้ตายๆไปเลยก็ดีเหมือนกัน"

หึ!

นางโมโหเดินกระทืบเท้าออกไป พอจางซื่อออกไปแล้ว เธอก็รีบหายตัวเข้าไปในมิติทันที เพื่อทำความเข้าใจระบบให้ดียิ่งขึ้นจึงได้รู้ว่าตอนนี้ระบบที่นางได้สร้างขึ้นมาเองกับมือนั้นบางอย่างก็ยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้ ต้องรออัพเกรดเพิ่มเลเวลเสียก่อน เช่นการขุดเหมืองจะทำได้ก็ต่อเมื่อมีเลเวล ที่ 20 การสร้างอาวุธต้องมีเลเวลที่ 100 ตอนนี้ระบบอยู่ที่ เลเวล 10

หมายเลข 1 :" หิว…ทำไมหิวนมขนาดนี้ "

ติ๊ง! "นี่คือนมวัวที่ได้จากโรงงานเครื่องรีดนมวัว คุณสามารถดื่มได้"

เธอรีบรับเอานมวัว ที่บรรจุในขวดอย่างดีเปิดออกแล้วดื่มลงไปทันทีพอท้องอิ่มหนังตาก็เริ่มหย่อน เธอจึงรีบออกจากระบบมิติแล้วกลับมานอนหลับอย่างไร้กังวลบนเตียงนอนเก่าๆ

เข้าสู่ตระกูลไป๋

บทที่3 เข้าสู่ตระกูลไป๋

"เอาเงินมาให้ข้า"

เพียะ!

เสียงทะเลาะตบตีกันดังสนั่นจนแสบแก้วหู ในห้องนอนของหมายเลข 1 ที่ตอนนี้ถูกจางซื่อเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่ ให้เป็นไป๋เจียอีเรียบร้อยแล้วนั้น ลืมตาแมวอันร้ายกาจขึ้นมาอย่างโมโห

"สาระเลวคนไหน มันส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย ตอนคนกำลังจะหลับจะนอน อยากโดนเชือดคอตายหรือไง" หะ!

แต่เสียงที่นางเอ่ยออกมานั้นความจริงมีแค่เสียง อ้อแอ้! สองคนผัวเมียหยุดทะเลาะกันทันที หันไปจ้องมองก้อนผ้าเก่าๆนั้นเป็นตาเดียว ไป๋ป๋อเหวิน ผู้เป็นสามีของจางซื่อพลันเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน ชี้ไปยังเจ้าก้อนกลมๆนั่น แล้วหันไปถามจางซื่อ

"นี่เจ้าคลอดลูกแล้วหรือ"

จางซื่อ ที่เอามือกุมหน้าไว้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้น

"ก็ใช่น่ะสิ ข้าที่เพิ่งจะคลอดบุตรสาวของเจ้าออกมาได้แค่วันเดียว ก็ถูกเจ้าด่าทอตบตีไม่หยุด ไหนจะแย่งเงินที่ข้าอุตส่าห์เก็บออมไว้ เพื่อซื้อของมาบำรุงร่างกายตนเองจะได้ผลิตน้ำนมดีๆ มาเลี้ยงดูบุตรสาวของเจ้า ไปเล่นกันพนันบ้าๆนั่นอีก …”

นางหยุดพูดไปชั่วครู่ เพื่อหายใจแล้วกล่าวต่อ

“ฮ่าๆๆ ก็ดีเหมือนกัน หากไม่มีเงินนั่นอีกแล้วลูกสาวของเจ้าก็จะได้อดตาย ตายไปได้เสียยิ่งดี”

เพียะ!…เพียะ!…เพียะ

ไป๋ป๋อเหวิน ตบหน้าจางซื่ออย่างแรงอีกครั้ง ถึงแม้เขาจะ ติดการพนันจนเป็นนิสัยแต่เขาก็รักลูกเป็นอย่างมาก นี่คือลูกคนแรกและคนเดียวของเขาเชียวนะ ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงก็ตามเถิด อย่างไรนางก็เป็นสายเลือดที่แท้จริงของเขา หน้าตาก็น่ารักน่าชัง ดูเป็นลูกคุณหนูผู้สูงศักดิ์ ไหนจะดวงตาที่กลมโตเหมือนแมวคู่นั้นอีก เล่นเอาเขาใจละลายไปหมดแล้วความเป็นพ่อคน ถูกปลุกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เขาเดินเข้าไปอุ้มเจ้าตัวน้อยมาไว้ในอ้อมอกอย่าง ทะนุถนอม

โอ๋!… เอ๋!…

"เจ้าตัวน้อยของข้า เหตุใดถึงได้น่ารักน่าชังขนาดนี้นะ ต่อไปนี้พ่อจะปกป้องดูแลเจ้าเป็นอย่างดีเอง"

หมายเลข 1 ที่กำลังด่าคนเป็นพ่อกำมะลอ คนนี้อยู่นั้นถึงกับต้องชะงักงัน

"ขะ…เขา…ว่ายังไงนะ! เขาจะปกป้องดูแล เธอเป็นอย่างดี"

หมายเลข 1 นึกไปถึงคำพูดของเด็กอายุ 10 ขวบคนนั้น น้ำตาพลันไหลอาบแก้มความรู้สึกที่โดนคนอื่นปกป้องดูแลมันเป็นแบบนี้นี่เอง ทั้งตื่นเต้นดีใจและมีความสุขในเวลาเดียวกัน ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าชายตรงหน้านี้จะเป็นพ่อกำมะลอก็ตามทีเถิด

ไป๋ป๋อเหวินเห็นเด็กน้อยที่เพิ่งเกิดได้วันเดียวร้องไห้ก็กระวนกระวายใจขึ้นมาทันที นางร้องไห้ได้น่าสงสารยิ่งนัก

เกิดอะไรขึ้น?

"เขาควรทำเช่นใดดีหนอ"

จางซื่อ เห็นสามีผีพนันของตัวเองมีนิสัยเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน แบบกะทันหัน ก็มีเกลียวคลื่นถาโถมคอยซัดอยู่ภายในใจ นางได้แต่คิด

"หากเด็กทารกในอ้อมอกของไป๋ป๋อเหวินคือลูกของพวกเขาจริงๆล่ะก็…นางคงจะดีใจมากกว่านี้เป็นแน่ แต่ความสุขแบบนี้มันกินไม่ได้ ไร้ซึ่งอนาคตที่สดใสหากต้องให้ลูกของนางอยู่อย่างอดๆอยากๆ มีพ่อที่เป็นผีพนัน แถมยังต้องมาโดนพ่อแม่สามีที่ชอบเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิงกดขี่ข่มเหงทุกวัน นางทนไม่ได้จริงๆ

ไป๋ป๋อเหวิน: " จางซื่อเจ้ายังไม่ได้ป้อนนมลูกใช่หรือไม่"

เสียงตะโกนด่าของไป๋ป๋อเหวินดังมาก จนจางซื่อสะดุ้งตกใจหลุดจากภวังค์ในห้วงของความคิด

จางซื่อ: " ข้าเคยป้อนนางแล้วแต่นางไม่ยอมกินเองนี่ จะโทษข้าไม่ได้นะ"

ไป๋ป๋อเหวิน รู้สึกโกรธนางขึ้นมาทันที ใช้เท้าถีบจนจางซื่อล้มหงายหลังไปนอนกองอยู่กับพื้น

"ลูกไม่ยอมกินเจ้าก็เลยไม่ป้อนให้นางอย่างงั้นรึ ช่างเหลวไหลสิ้นดีข้าละสงสัยจริงๆว่านางเป็นลูกสาวของเจ้าจริงๆหรือไม่ ความเป็นแม่คนเมื่อมีลูก ที่เขาเล่าต่อๆกันมาของเจ้าถูกโยนให้สุนัขกินไปหมดแล้วหรือไร"

จางซื่อได้ยินดังนั้นถึงกับสะดุ้งโหยงทำหน้าตาเลิ่กลั่ก

"ไม่ใช่เสียหน่อย ข้าเพิ่งจะเป็นแม่คนครั้งแรก ไหนจะไปรู้เรื่องทุกเรื่อง ตอนที่ข้าอุ้มลูกเข้ามาในเรือน พอท่านพ่อกับท่านแม่ของเจ้ารู้ว่านางเป็นเด็กผู้หญิงก็ไม่แม้แต่จะมองหน้าลูกด้วยซ้ำ แถมไล่ข้าออกไปให้พ้นหน้าอีก ฮือๆๆ ชีวิตข้ากับบุตรสาวของเจ้าช่างอาภัพนัก ไปป๋อเหวิน เจ้าก็ดีแต่ด่าทอตบตีข้า สินเดิมของข้าก็ถูกเจ้าขโมยไปเล่นการพนัน จนหมดเกลี้ยงแล้ว ข้าก็เป็นคนมีหัวจิตหัวใจคนหนึ่ง เหตุใดต้องทำกับข้าเช่นนี้ด้วย ฮือๆๆ"

นางพูดยาวเหยียดรวดเดียวจบ จากนั้นก็ร้องไห้ฟูมฟาย

ไป๋ป๋อเหวิน รู้สึกผิดอยู่ภายในใจจึงเดินเข้าไปหานางใช้มือข้างหนึ่งอุ้มลูก อีกข้างก็ยื่นไปลูบหัวจางซื่อเบาๆ

ไป๋ป๋อเหวิน:"เอาล่ะข้าผิดเอง ต่อไปเจ้าก็ดูแลลูกให้ดีๆกว่านี้หน่อยพรุ่งนี้ข้าจะลองออกไปหางานทำดู จะได้มีเงินมาเลี้ยงดูพวกเจ้าสองแม่ลูกอย่างไรล่ะ"

จางซื่อ รู้สึกทั้งแปลกใจและดีใจไปพร้อมๆกัน แปลกใจที่เขาจะออกไปหางานทำ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยทำอะไรเลย วันๆเอาแต่เกียจคร้านออกไปเที่ยวเตร่ ดื่มเหล้า เล่นพนันแต่ก็ดีใจที่วันนี้เขาคิดได้กลับตัวกลับใจเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ได้เสียที

ไป๋ป๋อเหวิน:"ตอนนี้เจ้าจะป้อนนมลูกได้หรือยัง"

จางซื่อพยักหน้ารัวๆ: "ได้"

หมายเลข 1 มองดู 2 คน ผัวเมียทะเลาะกันไปมา เพราะนางเป็นต้นเหตุก็ทั้งดีใจและเศร้าใจ ไป๋ป๋อเหวินนับว่าเป็นพ่อที่ไม่เลวคนหนึ่งนางต้องการพ่อแบบนี้แหละแต่นังผู้หญิงที่ชื่อจางซื่อคนนี้ นางยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์เดิมคือ

"รอให้วันใดที่นางโตอีกนิดจะต้องแก้แค้นเอาคืนอย่างแน่นอน"

จางซื่อ: " ไป๋เจียอี ลูกแม่มาๆ แม่จะป้อนนมให้เจ้าเอง"

ไป๋ป๋อเหวิน:"นี่เจ้าตั้งชื่อให้ลูกแล้วหรือ"

จางซื่อ: " ใช่ ข้าเห็นนางดูเป็นคนใจกว้าง ส่วนตาคู่นี้ก็ช่างน่าดึงดูดเสียเหลือเกินจึงตั้งว่าเจียอีที่มีความหมายว่าใจกว้างและน่าดึงดูด"

ไป๋ป๋อเหวิน : " อืม!…นับว่าเป็นชื่อที่ดี งั้นต่อไปก็ให้นางมีชื่อว่า ไป๋เจียอี ก็แล้วกัน"

ส่วนไป๋เจียอีนั้นก็ไม่ยอมอ้าปากดื่มนม ทำเช่นเคยโดยการปิดปากของตนไว้แน่น แล้วส่ายหัวไปมา

จางซื่อพยายามอยู่เป็นเวลานานแต่เด็กก็ไม่ยอมดื่มเสียทีก็ถอดใจกล่าวกับไป๋ป๋อเหวิน

"เจ้าเชื่อข้าหรือยังล่ะคราวนี้…ว่านางไม่ยอมดื่มเอง"

ไป๋ป๋อเหวินรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก วิ่งไปหาบิดามารดาให้ช่วยคิดหาวิธี ฮูหยินผู้เฒ่าจึงบอกว่าบางทีนางอาจจะไม่ชอบดื่มนมจากเต้าของมารดาก็เป็นได้ ให้ลองเปลี่ยนเป็นนมแพะดูไม่รู้ว่าไป๋ป๋อเหวินไปหานมแพะมาได้อย่างไร เขาเข้าครัวรีบต้มตามวิธีที่คนอื่นบอกและปฏิบัติสืบต่อกันมาเพื่อใช้ป้อนแก่ทารกน้อย เวลาผ่านไปไม่นาน เขาก็ยกถ้วยที่เต็มไปด้วยนมแพะเข้ามาในห้องนอน เห็นลูกสาวนอนลืมตาโตจ้องมองตนอยู่ก็คลี่ยิ้มจนตาหยี

ไป๋ป๋อเหวิน:" เสี่ยวอี พ่อต้มนมแพะมาให้เจ้าแล้ว มามะ!… พ่อจะป้อนเจ้าเอง…อ้าม!…"

ไป๋เจียอี อ้าปากน้อยๆรับช้อนที่ตักนมเข้าปากอย่างว่าง่าย

ไป๋ป๋อเหวิน รู้สึกดีใจจนเนื้อเต้น ในที่สุดบุตรสาวตัวน้อยที่แสนน่ารักคนนี้ก็ยอมดื่มนมเสียที เป็นพ่อคนนี่มันช่างมีความสุขเสียจริงเขาค่อยๆบรรจงป้อนนมให้บุตรสาวช้อนแล้วช้อนเล่า จนนมหมดถ้วย

จุ๊บ!จุ๊บ!จุ๊บ!…

ไป๋ป๋อเหวิน: "เสี่ยวอี เด็กดีพ่อรักเจ้าที่สุด"

ไป๋เจียอี เบิกตาโตเท่าไข่ห่าน นี่นางโดนพ่อกำมะลอขโมยจูบแรกในชีวิตไปหรือนี่ แต่ เอ๋? ความรู้สึกนี้มันช่างอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน แบบนี้สินะที่เด็กคนนั้นบอกว่าความสุขเอ่อล้นหัวใจมันเป็นเช่นนี้นี่เอง

นางจึงรีบยิ้มกว้างพยายามเรียก"พ่อ" แต่เสียงที่เปล่งออกมากลายเป็น "ป้อ"

ไป๋ป๋อเหวินเผยสีหน้าตกตะลึงเป็นอย่างมาก

ลูกของเขาเกิดมาแค่วันเดียวก็พูดได้แล้วหรอ?

สวรรค์ให้กำเนิดอัจฉริยะแล้วส่งมาเป็นลูกของเขาโดยแท้

ไป๋ป๋อเหวินเอ่ยอย่างตื่นเต้น:"ไหนเจ้าลองเรียกพ่อ อีกทีสิ"

เขาจดจ่อตั้งหน้าตั้งตา รอฟังลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเอ่ยปาก

ไป๋เจียอี: " ป้อ! ป้อ!"

ไป๋ป๋อเหวิน:" ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ลูกสาวของข้าเป็นเด็กอัจฉริยะจริงๆเสียด้วย"

นางสามารถเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดทุกอย่างและปฏิบัติตามนี่ทำให้เขารู้สึกทึ่งและมีความสุขยิ่งนัก ไป๋เจียอี รู้สึกง่วงมากทุกครั้งหลังจากดื่มนมจึงหลับปุ๋ยไปในห่อผ้าอ้อมเก่าๆผืนนั้นไป๋ป๋อเหวินเห็นแล้วรู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที เขาตั้งปณิธานไว้ในใจอย่างแน่วแน่สักวันหนึ่งเขาจะต้องหาเงินมาซื้อเสื้อผ้าและปรนเปรอบุตรสาวตัวน้อยให้ได้ จากนั้นก็จูบไปที่หน้าผากของนางอีกครั้ง

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...