โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คุมบุหรี่ไฟฟ้าล็อคเป้าสถานศึกษาต้องเพิ่มโทษกม.คุ้มครองเด็กฯ

The Better

อัพเดต 20 มี.ค. เวลา 06.02 น. • เผยแพร่ 20 มี.ค. เวลา 05.50 น. • THE BETTER
‘พาณิชย์’พร้อมเดินหน้าปราบบุหรี่ไฟฟ้า แนะแก้กม.คุ้มครองเด็กฯให้อำนาจตรวจจับสายควันเพิ่มบทลงโทษเหมาะสมกว่า การบังคับใช้ฏหมายของพาณิชย์

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 และประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 ภายใต้พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 (พ.ร.บ. การส่งออกไปนอกฯ) ซึ่งยังมีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศเข้าร่วมประชุมหารือมาตรการเกี่ยวกับการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และกรมควบคุมโรค เพื่อให้การบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายเป็นไปอย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกันได้มุ่งเน้นการสร้างความตระหนักรู้ถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าและโทษของบุคคลที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยกรมการค้าต่างประเทศได้ประชาสัมพันธ์ Infographic เตือนสายควัน หิ้วบารากู่ บุหรี่ไฟฟ้า ต้องรับโทษทั้งจำทั้งปรับ ดังนี้

1.ผู้ขายหรือผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า มีโทษตามพ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ประกอบคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 เรื่องห้ามผลิตเพื่อขายห้ามขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าภายใต้ พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกฯ ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่า ของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. ผู้รับไว้ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า ตามพ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 กรณีรับบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งนำเข้ามาโดยไม่ผ่านด่านศุลกากร มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่า ของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

4. ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในเขตปลอดบุหรี่ มีโทษตามพ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

นางอารดา กล่าว่า กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการได้รายงานว่า ยังคงพบการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา แต่บุคลากรทางการศึกษาไม่มีอำนาจในการตรวจค้นและยึดบุหรี่ไฟฟ้าจากนักเรียนนักศึกษา ส่งผลให้การควบคุมปัญหาการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชนเป็นไปได้ยาก จึงเสนอให้กระทรวงพาณิชย์แต่งตั้งบุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. การส่งออกไปนอกฯ

ทั้งนี้ในประเด็นดังกล่าวกระทรวงพาณิชย์ขอชี้แจงว่า พ.ร.บ. การส่งออกไปนอกฯ มีวัตถุประสงค์หลักในการบังคับใช้กับผู้ส่งออกนำเข้าสินค้า โดยไม่ครอบคลุมถึงการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นของที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายฉบับนี้ยังต้องเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการค้าและการนำเข้าส่งออกสินค้า ซึ่งบุคลากรทางการศึกษาไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว อีกทั้ง พ.ร.บ. การส่งออกไปนอกฯ เป็นกฎหมายที่กำหนดโทษอาญาร้ายแรง โดยหากมีการบังคับใช้แล้ว จะต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ซึ่งอาจนำไปสู่โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับ 5 เท่าของมูลค่าสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงไม่สอดคล้องกับเจตนาของกระทรวงศึกษาธิการที่ไม่ต้องการดำเนินคดีทางอาญากับนักเรียนนักศึกษา ทำให้แนวทางการใช้กฎหมายฉบับนี้ ไม่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนและสถานศึกษา

อย่างไรก็ดีกระทรวงพาณิชย์เห็นควรผลักดันการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเด็กและนักเรียนโดยตรง ได้แก่ พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องรวมถึงกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนแก้ไขกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา

พ.ศ. 2548 และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ การแก้ไขกฎหมาย/กฎระเบียบดังกล่าว จะช่วยให้บุคลากรทางการศึกษาสามารถกำหนดมาตรการตรวจค้นและยึดบุหรี่ไฟฟ้า

ตลอดจนกำหนดบทลงโทษนักเรียนนักศึกษาในสถานศึกษาได้อย่างเพียงพอเหมาะสม โดยไม่ต้องใช้กฎหมายที่มุ่งเน้นด้านการค้าระหว่างประเทศที่มีบทกำหนดโทษทางอาญาที่รุนแรง ซึ่งจะช่วยให้การบังคับใช้กฎหมายมีความชัดเจนและสอดคล้องกับลักษณะของปัญหาที่เกิดขึ้นในสถาบันการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทางกระทรวงพาณิชย์ขอเน้นย้ำว่า จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าให้ครอบคลุมทุกมิติและเห็นผลเป็นรูปธรรม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...