ผลสำรวจรอยเตอร์คาด กนง. ตรึงดอกเบี้ยที่ 2.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้ และปรับลดครั้งเดียวในปี 68

ผลสำรวจรอยเตอร์คาด กนง. ตรึงดอกเบี้ยที่ 2.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้ และปรับลดครั้งเดียวในปี 2568 เพื่อรักษาบัฟเฟอร์ด้านนโยบายท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลกที่เพิ่มมากขึ้น

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์พบว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 และจะปรับลดเพียงครั้งเดียวในปี 2568 เพื่อรักษาบัฟเฟอร์ด้านนโยบายท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลกที่เพิ่มมากขึ้น

เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 3.2% ในไตรมาสที่แล้ว ซึ่งถือเป็นอัตราที่เร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี และอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ภายใต้การควบคุมได้อย่างชัดเจน จึงไม่มีความจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่พึ่งพาการค้าและการท่องเที่ยวแห่งนี้ในทันที

โดยคาดว่า กนง.จะรอประเมินผลกระทบของนโยบายรัฐบาลที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงโครงการ แจกเงินสดที่เปิดตัวในเดือนกันยายน 2568 ก่อนที่จะพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติม

ผลสำรวจของรอยเตอร์ระหว่างวันที่ 14-21 กุมภาพันธ์ พบว่านักเศรษฐศาสตร์กว่า 60% หรือ 16 คน จาก 26 คน คาดการณ์ว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.25% ขณะที่อีก 10 คน คาดว่าจะลดลง 0.25%

โดยนักเศรษฐศาสตร์ 17 คนจาก 23 คนคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง 0.25% ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.00% นักเศรษฐศาสตร์ 2 คนคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 1.75% และนักเศรษฐศาสตร์ 4 คนคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้จะไม่มีฉันทามติที่ชัดเจนว่าอัตราดอกเบี้ยจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป แต่การคาดการณ์ค่ามัธยฐานแสดงให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยจะคงอยู่ที่ 2.00% อย่างน้อยจนถึงกลางปี 2569

Miguel Chanco หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชียเกิดใหม่จาก Pantheon Macroeconomics กล่าวว่า "ตัวเลข GDP ในไตรมาส 4 ถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบหลายไตรมาส และอัตราเงินเฟ้อก็กลับไปอยู่ในช่วงเป้าหมาย 1-3% มองไม่เห็นเหตุผลที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในขณะนี้"

ในขณะที่การเติบโตยังคงไม่บรรลุเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 3.5% กระทรวงการคลังได้เรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ

อ้างอิง : reuters.com

อ่านข่าว เศรษฐกิจทั่วไทย ทั้งหมด ได้ที่นี่