โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สนามบินฮีทโธรว์สั่งสอบสวนกรณีสนามบินต้องปิดบริการเพราะไฟฟ้าดับ

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 23 มี.ค. เวลา 11.12 น. • เผยแพร่ 23 มี.ค. เวลา 04.12 น. • สำนักข่าวไทย อสมท

ลอนดอน 23 มี.ค. – สนามบินฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษกลับมาให้บริการอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับสั่งให้มีการสอบสวนแนวทางการรับมือกับเหตุไฟฟ้าดับที่ทำให้สนามบินที่มีเครื่องบินเข้า-ออก พลุกพล่านที่สุดในยุโรปต้องหยุดการให้บริการไปเกือบ 1 วันเต็ม ในขณะที่บรรดาสายการบินเตือนว่า เที่ยวบินจะยังมีการล่าช้าหรือยกเลิกอยู่

บริติชแอร์เวย์ส ซึ่งมีท่าอากาศยานฮีทโธรว์เป็นศูนย์กลางการบินหลัก แจ้งว่าสามารถทำการบินได้ประมาณ ร้อยละ 90 ของตารางบินทั้งหมดในวันเสาร์และให้คำมั่นว่า จะสามารถทำการบินได้เกือบจะครบตารางการบินทั้งหมดได้ในวันอาทิตย์ ในขณะที่ฌอน ดอยล์ ซีอีโอของบริติชแอร์เวย์ส เตือนว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้จะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีกหลายวัน

สนามบินฮ๊ทโธรว์ ซึ่งมีผู้โดยสารใช้บริการมากเป็นอันดับ 5 ของโลก ต้องให้บริการเที่ยวบินจำนวน 1,351 เที่ยวในวันศุกร์ ซึ่งมีผู้โดยสารถึง 291,000 คน แต่ไฟไหม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยที่จ่ายไฟให้กับสนามบิน ทำให้เที่ยวบินต่าง ๆ ต้องย้ายไปลงที่สนามบินอื่น ๆ และเที่ยวบินระยะทางไกลหลายเที่ยวบินต้องวกกลับไปยังสนามบินต้นทาง

กระทรวงพลังงานของอังกฤษกล่าวในวันเสาร์ว่า ได้มอบหมายให้ผู้ควบคุมระบบพลังงานแห่งชาติ หน่วยงานที่ทำหน้าที่บริหารจัดการและควบคุมระบบพลังงานไฟฟ้าของประเทศอังกฤษ ดำเนินการสอบสวนเป็นการเร่งด่วนในกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับและทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสามารถในการฟื้นตัวของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ สนามบินฮีทโธรว์ กล่าวด้วยว่า ได้มอบหมายรูธ เคลลี สมาชิกของคณะกรรมการอิสระ และอดีตรัฐมนตรีคมนาคม ในการทบทวนแผนการจัดการภาวะวิกฤตของสนามบินและการรับมือเหตุการณ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ของสนามบิน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...